เกรท วอลล์ มอเตอร์ เผยแพร่รายงานความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility Report) ประจำปีพ.ศ. 2564 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการร่วมขับเคลื่อนแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้วยนวัตกรรม ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน
เดินหน้าพัฒนาพลังงานใหม่และเทคโนโลยีอัจฉริยะควบคู่ไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การสร้างสวัสดิการทางสังคม การพัฒนาบุคลากร ตลอดจนการสานต่อปณิธานองค์กรในการสร้างคุณค่าแก่สังคม พร้อมเร่งเครื่องสู่การเป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับโลก
มุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อสุขภาพ และยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดและเป็นกลางทางคาร์บอน
ในปีพ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนา (R&D) ในด้านพลังงานที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำทั่วทั้งโลก และห่วงโซ่ระบบนิเวศหมุนเวียนคาร์บอนต่ำที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการวิจัยและพัฒนา
ระบบซัพพลายเชน การผลิตรถยนต์ การขนส่งและโลจิสติกส์ การขาย ไปจนถึงการทำลายแยกชิ้นส่วนและการรีไซเคิล เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดทั้งกระบวนการ
แพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM L.E.M.O.N DHT Hybrid
ในส่วนของการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิตรถยนต์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ดำเนินมาตรการควบคุมการปล่อยมลพิษต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ด้วยการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ยกระดับและปรับปรุงระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยในการปกป้องสิ่งแวดล้อม เช่น สถานีบำบัดน้ำเสีย สถานีบำบัดก๊าซเสีย และเทคโนโลยีเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันก็ยังสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการปล่อยมลพิษ และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างเต็มรูปแบบ 100% ตัวอย่างเช่น ที่ศูนย์กลางการผลิตของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ในมณฑลเหอเป่ย์ สามารถควบคุมและลดค่าความเน่าเสียของน้ำเสียจากสารเคมี (COD) ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด คือ
ต่ำกว่า 300 มก./ลิตร หรือคิดเป็น 60% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 500 มก./ลิตร ปริมาณแอมโมเนียไนโตรเจนต่ำกว่า 40.5 มก./ลิตร หรือคิดเป็น 90% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 45 มก./ลิตร ปริมาณก๊าซไฮโดรคาร์บอนที่ไม่ใช่มีเทน (NMHC) ต่ำกว่า 35 มก./ลบ.ม.
หรือคิดเป็น 70% จากที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 มก./ลบ.ม. และยังสามารถลดการปล่อยของเสียอันตรายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ สามารถลดการผลิตกากตะกอนลงได้ 20% และลดการผลิตเศษผงสีลงได้ 15%
สำหรับด้านการใช้พลังงาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ปรับปรุงกระบวนการและขั้นตอนในการใช้พลังงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงการปรับปรุงอัตราการใช้ก๊าซแห้ง การควบคุมอุณหภูมิและความชื้นของห้องพ่นสี โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังได้เข้าไปปรับปรุงกระบวนการเคลือบสีและการใช้ก๊าซแห้งภายในโรงงานผลิตรถยนต์ทั่วประเทศจีน
ทำให้สามารถลดการปล่อยความร้อนตลอดทั้งปีลงได้ 24% และลดการใช้ก๊าซลงได้ 1,784 ลบ.ม./ชม. นอกจากนี้ ด้วยมาตรการอนุรักษ์น้ำ เช่น การใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำเสียและการนำน้ำในบ่อบำบัดกลับมาใช้ใหม่ ทำให้สามารถนำน้ำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ได้มากกว่าหนึ่งล้านตัน
ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังเดินหน้าขับเคลื่อนแผนการใช้พลังงานรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงพลังงานหมุนเวียนที่สะอาด โดยได้จัดตั้งสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังสุทธิ 263 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ทั้งสิ้น 71.27 ล้านกิโลวัตต์
การประกาศกลยุทธ์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ “3060 Carbon Peak and Carbon Neutrality” ของประเทศจีนเกี่ยวกับความเป็นกลางทางคาร์บอนและการพัฒนาระยะยาว เกรท วอลล์ มอเตอร์ กำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะสั้นโดยการวางแผนสร้างโรงงานคาร์บอนเป็นศูนย์แห่งแรกในปี พ.ศ. 2566 การเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่มากกว่า 50 รุ่น ภายในปี พ.ศ. 2568
เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนที่สะอาด และขยายจำนวนสถานีผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับเป้าหมายในระยะยาว เกรท วอลล์ มอเตอร์จะมุ่งเน้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานและการพัฒนากระบวนการผลิตแบบคาร์บอนต่ำ โดยยึดจากวงจรการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากทั้งกระบวนการ
ทั้งนี้เพื่อสร้างระบบรีไซเคิลที่สมบูรณ์ให้กับห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ เป้าหมายดังกล่าวไม่เพียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงาน แต่ยังเพื่อลดการใช้พลังงานที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนสูง สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานไฟฟ้า และขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
พันธกิจในการส่งเสริมสวัสดิภาพของชุมชนและความรับผิดชอบต่อสังคม
เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีความตั้งใจช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มความสามารถ และได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอยู่เสมอ โดยแต่ละกิจกรรมขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย อาทิ กลยุทธ์การพัฒนาระดับโลกขององค์กร สภาพการณ์ของอุตสาหกรรม สภาพพื้นที่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการพัฒนาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ ในเมืองฉือเจียจวง เมืองซิงไท่ และเมืองอื่น ๆ ในมณฑลเหอเป่ย์ เมื่อต้นปีพ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้บริจาคเงินมูลค่ากว่า 5 ล้านหยวน ให้แก่สภากาชาดแห่งมณฑลเหอเป่ย์เมื่อวันที่ 10 มกราคม เพื่อเร่งควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสภายในมณฑลเหอเป่ย์
และเพื่อปกป้องบุคลากรการแพทย์และอาสาสมัครด่านหน้าจากความเสี่ยงในการติดเชื้อ ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้บริจาคเงินและยานพาหนะรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 13.85 ล้านหยวน ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศจีน เพื่อนำไปใช้ต่อสู้และปกป้องประชาชนจากโรคระบาดนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 เกิดเหตุการณ์ฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ในมณฑลเหอหนาน นำมาสู่อุทกภัยครั้งรุนแรงในเมืองเจิ้งโจวและบริเวณใกล้เคียง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ส่งมอบความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ด้วยการบริจาคเงิน 20 ล้านหยวนแก่มณฑลเหอหนาน
โดยเป็นการมอบให้แก่องค์กร Henan Charity Federation จำนวน 10 ล้านหยวน เพื่อช่วยฟื้นฟูและบรรเทาภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน และอีก 10 ล้านหยวนเพื่อใช้ในการกู้ภัย ทดสอบ และซ่อมแซมยานพาหนะที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
GWM จับมือกับเครือข่ายอาสาสมัคร Food For Fighters (FFF) ในประเทศไทย ร่วมสู้ภัยโควิด-19
นอกจากนี้ ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก เกรท วอลล์ มอเตอร์ เดินหน้าให้ความช่วยเหลือสังคมอย่างเต็มที่รวมถึงในต่างประเทศ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564 เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัคร Food For Fighters (FFF) ส่งมอบอาหาร ถุงยังชีพ และอุปกรณ์ป้องกันโรค ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ชุมชน และครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ
พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตลอดทั้งเดือน นอกจากนี้ยังได้บริจาคหน้ากากอนามัยกว่า 460,000 ชิ้น ให้แก่องค์กรภาครัฐและสังคม 29 แห่ง อาทิ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และกรมศุลกากร เพื่อเป็นอีกแรงสนับสนุนการต่อสู้กับโรคระบาดในประเทศไทย
การพัฒนาบุคลากรที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมเพื่อเติบโตไปด้วยกัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เชื่อว่า “พนักงานที่มีความสามารถจะนำจุดแข็งของตนมาใช้ และไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร” และใช้หลักการดังกล่าวในการดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถจากทั่วโลก นอกจากนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถของพนักงาน และปรับปรุงระบบการฝึกอบรมพนักงานทั่วโลก
รวมไปถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้พนักงานได้พัฒนาความสามารถอย่างเป็นรูปธรรม โดยเป้าหมายไม่เพียงเพื่อสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนาบุคคลกรที่เปิดกว้าง มีประสิทธิภาพ และน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพื่อมอบโอกาสและพื้นที่ให้กับทุกคนที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับ และส่งเสริมให้พนักงานกล้าที่จะท้าทายและคิดต่างจนนำไปสู่การพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัทและพนักงาน
ในปีพ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เดินหน้าสานต่อโครงการ “Ten Thousand Scientific and Technological Talents Program” เพื่อส่งเสริมพนักงานที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็น ผู้นำทางธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ และนักศึกษาจบใหม่ที่มีศักยภาพโดดเด่นมาร่วมงานกับบริษัทฯ
พร้อมกันนั้นยังได้เปิดตัวโครงการ “Global Talents Spring Program” เพื่อให้พนักงานที่มีความสามารถโดดเด่นได้มีโอกาสเรียนรู้งานในส่วนงานอื่น ๆ ผ่านการทำงานแบบระยะไกล (remote working) การย้ายไปประจำในสาขาต่างประเทศ และการย้ายไปส่วนธุรกิจหลักอื่น ๆ เพื่อปลดล็อคศักยภาพของพนักงาน
ทั้งนี้ ปีพ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา เกรท วอลล์ มอเตอร์ มีพนักงานจำนวนทั้งสิ้น 77,934 คน โดยเป็นพนักงานที่ประจำอยู่นอกประเทศจีนจำนวน 2,628 คน
การสร้างแรงจูงใจพนักงานด้วยสวัสดิการที่หลากหลายรวมถึงสิทธิ์ในการถือหุ้น
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตอกย้ำการให้ความสำคัญกับพนักงาน จึงได้พัฒนาระบบสร้างแรงจูงใจที่สอดคล้องกับความรับผิดชอบ ผลการดำเนินงาน และการสร้างคุณค่าของพนักงาน ด้วยการดำเนินนโนบายเพิ่มแรงจูงใจด้วยผลตอบแทนเป็นจำนวนหุ้นในปีพ.ศ. 2563 และ 2564 ที่ผ่านมา
โดยมีพนักงานที่ได้รับผลตอบแทนดังกล่าวแล้วมากกว่า 10,000 คน หรือประมาณ 50% ของพนักงานหลักขององค์กร เกรท วอลล์ มอเตอร์ ยังมีแผนที่จะนำนโยบายดังกล่าวมาใช้สำหรับพนักงานทุกคนในอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เปลี่ยนจาก “พนักงาน” มาเป็น “หุ้นส่วน” และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาองค์กรและพนักงานไปด้วยกัน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ จะยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับแนวคิดเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนแนวทางในการสร้างความยั่งยืนให้กับโลก ผลักดันห่วงโซ่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ รวมไปถึงทำให้การขนส่งอัจฉริยะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นจริงสำหรับผู้บริโภค เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนทั่วโลก