รีวิว ลองขับ SUBARU BRZ 6MT เครื่องยนต์สูบนอน Boxer 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 237 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที

รีวิว ลองขับ SUBARU BRZ 6MT รถสปอร์ตคูเป้ 237 แรงม้า ราคา 2,699,000 บาท
SUBARU BRZ 6MT
รถที่เราหลงรักเป็นอย่างยิ่ง กลับมาอีกครั้งพร้อมกับพละกำลังที่มากยิ่งขึ้น ที่สำคัญคือ BRZ ใหม่ ไม่มีปัญหาเรื่องแรงบิดช่วงรอบกลางๆ (ที่แหว่งหายไป) อีกต่อไป ต้องยกความดีความชอบให้กับเครื่องยนต์ที่ถูกขยายความจุจาก 2.0 เป็น 2.4 ลิตร จึงได้แรงบิดเพิ่มขึ้นเป็น 250 นิวตันเมตร
และมีให้ใช้เต็มเพดานที่รอบต่ำกว่าเดิม นั่นคือ 3,700 รอบ/นาที เทียบกับ 205 นิวตันเมตร ที่ 6,400-6,600 รอบ/นาที ของรุ่นก่อนหน้านี้ ส่งให้รถรุ่นใหม่ทำอัตราเร่งได้ดีกว่าเดิมถึงเกือบ 1 วินาที!!! 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที ในขณะที่รุ่นที่แล้วทำได้ 7.0 วินาที
เมื่อทำงานร่วมกับชุดเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เหมือนคันทดสอบของเรา ส่งให้ BRZ ใหม่ ขับสนุกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนเส้นทางขึ้นลงเนินเขาที่ Torque ใช้เป็นสถานที่ Test Drive รถเกือบทุกคันของเรา คุณไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนลงเกียร์ต่ำ เพียงกดคันเร่งลึกลงไปก็เพียงพอในการเร่งขึ้นเขาได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่คุณอาจต้องชิฟต์ดาวน์ 1-2 ตำแหน่ง หากเป็นรถรุ่นที่แล้ว
เมื่อแรงบิดช่วงรอบกลางถูกเติมเต็ม หมายถึงการออกจากโค้งที่ยอดเยี่ยมขึ้นด้วยเช่นกัน คุณจะสัมผัสได้ถึงพละกำลังที่รออยู่ใต้เท้าขวาตลอดเวลา เพียงอดใจรอให้มาถึงทางออกโค้ง จากนั้นกดคันเร่งให้มิดพรม แล้ว BRZ จะเผยให้เห็นศักยภาพใหม่ของมันผ่านท้ายรถที่สะบัดไปมาและเสียงยางกรีดร้องขณะกำลังหมุนฟรีด้วยแรงบิดที่ถูกปล่อยออกมาเต็มพิกัด!
และต้องไม่ลืมที่จะยืนขึ้นปรบมือดังๆ ให้กับช่วงล่างและแชสซีส์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน ทั้งคู่ถูกเพิ่มความแกร่งจนสามารถลดการบิดและโครงตัวขณะเข้าโค้งได้อย่างมาก เมื่อรวมกับระบบบังคับเลี้ยวที่แม้จะไวไปหน่อย ทว่าเฉียบคม, ตอบสนอง และสื่อสารมาสู่พวงมาลัยได้อย่างเห็นภาพชัดเจน
ร่วมด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำของขุมพลัง Boxer ทำให้ BRZ ใหม่กระฉับกระเฉงและร่ายรำไปตามโค้งได้น่าประทับใจ แม่นยำและให้ความมั่นใจแก่คุณได้เต็มร้อยตั้งแต่เริ่มหมุนพวงมาลัยเข้าหาโค้ง เรื่อยไปจนออกสู่ทางตรงอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่รถคันนี้ทำได้ดีตั้งแต่รุ่นที่แล้ว และปัจจุบันยิ่งเหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น
พูดได้เต็มปากว่า Subaru BRZ ใหม่ ยังคงเป็นรถสำหรับผู้รักการขับขี่อย่างแท้จริงเช่นเดิม ทว่าพัฒนาการที่ก้าวกระโดดส่งให้มันยิ่งเข้าใกล้ความเป็นรถสำหรับสนามแข่งในวันหยุดสุดสัปดาห์ของคุณขึ้นไปอีกระดับ จนไม่มีรถรุ่นใดในคลาสสามารถเทียบเคียงได้ ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่หรูหราฟู่ฟ่ามาให้นัก
แต่ใครจะแคร์ในเมื่อความสนุกในการขับขี่ที่ BRZ มอบให้นั้น สูงค่าจนไม่มีอะไรสำคัญกว่าอีกต่อไป หากคุณตำหนิสัมผัสที่แข็งกระด้างของช่วงล่างและตัวถัง, เบาะหลังที่ไม่มีใครเข้าไปนั่งได้ หรือทัศนวิสัยรอบด้านที่น่าอึดอัด นี่ไม่ใช่รถที่เหมาะกับคุณอย่างแน่นอน
แต่สำหรับเรา และผู้ชื่นชอบ Driver’s car แล้ว BRZ ไม่ใช่รถที่แค่ใส่ไว้ในลิสต์ แต่ควรพุ่งตรงไปที่โชว์รูม Subaru และจ่าย 2.7 ล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องทดลองขับให้เสียเวลา…

ฝากระโปรงหน้า, แก้มหน้า และหลังคา ผลิตจากอลูมิเนียม ทำให้ BRZ มีน้ำหนักไม่ถึง 1.3 ตัน โดยอัตราส่วนน้ำหนัก หน้า:หลัง อยู่ที่ 53:47 ถือว่ายอดเยี่ยมสำหรับรถเครื่องยนต์วางหน้าขับเคลื่อนล้อหลัง มิติรถยาวขึ้นกว่าเดิมราว 25 มม. และเตี้ยลงเล็กน้อยที่ราว 10 มม.


BRZ ใหม่ยังคงไว้ซึ่งรูปทรงแบบคูเป้ 2+2 ที่นั่ง ขนาดกะทัดรัด หลังคาทรงลาดและซุ้มล้อกว้างช่วยเน้นให้เห็นถึงความกว้างและเตี้ยของรถ สังเกตดีๆ จะเห็นครีบเล็กๆ ที่ซุ้มล้อหลัง ทำหน้าที่เรียงกระแสอากาศเพื่อเพิ่มการทรงตัวให้เสถียรยิ่งขึ้นขณะใช้ความเร็วสูง ส่วนสปอยเลอร์ทรงเตี้ยบนฝาท้ายจะให้แรงต้านอากาศน้อยเมื่อวิ่งช้าๆ และเพิ่มแรงกดเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูง

ชุดไฟหน้า LED พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ ขณะที่ชุดไฟท้ายใช้กรอบสีดำล้อมรอบโคม เข้าชุดต่อเนื่องกับคิ้วสีดำที่คาดยาวตลอดแนวฝาท้าย เมื่อรวมกับการย้ายช่องติดป้ายไปไว้ที่กันชน ส่งให้มุมมองจากด้านท้ายของรถดูกว้างอย่างยิ่ง
เครื่องยนต์ ‘Boxer’ 4 สูบนอน ไม่มีระบบอัดอากาศ เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ในรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ได้รับการปรับปรุงหลายอย่าง ตั้งแต่การขยายกระบอกสูบจาก 86 เป็น 94 มม. หรือมากถึง 20% จนได้ความจะเพิ่มจาก 2.0 เป็น 2.4 ลิตร ด้วยวิธีนี้ช่วยให้น้ำหนักโดยรวมของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการใช้เสื้อสูบของเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เนื่องจากปลอกกระบอกสูบบางกว่าเดิม นอกจากนั้น ยังลดน้ำหนักเพิ่มเติมด้วยการใช้ฝาครอบวาล์วผลิตจากเรซิ่นและออกแบบส่วนครอบหม้อน้ำใหม่อีกด้วย เช่นเดียวกับระบบจ่ายเชื้อเพลิง D-4S แบบ Dual-injection ซึ่งใช้การฉีดจ่ายน้ำมันตรงไปยังกระบอกสูบ 1 ชุด สำหรับการเผาไหม้ปกติ และฉีดไปยังพอร์ทไอดีอีก 1 ชุด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ในรอบต่ำถึงกลางและลดความร้อนในกระบอกสูบ จึงสามารถเพิ่มอัตราส่วนกำลังอัดได้มากถึง 12.5:1 ขณะที่ท่อร่วมไอดี ทำงานร่วมกับปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงแบบใหม่และท่อน้ำมันที่เพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้น เพื่อการจ่ายน้ำมันที่เสถียรยิ่งขึ้น ท่อร่วมไอดีก็เป็นแบบใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการไหลของอากาศได้ดีกว่าเดิม ส่วนพอร์ทไอดีได้รับการขยายทั้งเส้นผ่าศูนย์กลางและความยาวพอร์ท ให้สอดคล้องกับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นและได้อัตราเร่งที่ดียิ่งขึ้น
ปลายท่อไอเสียคู่ ติดตั้งได้อย่างงดงามกลมกลืนในส่วนล่างของกันชนที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับดิฟฟิวเซอร์ ระบบไอเสียใช้ท่อช่วงกลางที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.6 ลิตร เพื่อเสียงคำรามที่ดุดันยิ่งขึ้น พร้อมระบบ Active Sound Control ที่คำรามสะใจเมื่อเร่งความเร็ว… แต่อย่าเพิ่งดีใจไป… มันเป็นแค่เสียงสังเคราะห์ที่ดังผ่านลำโพงในรถแค่นั้นเอง
คุณสามารถจ่ายเพิ่มอีก 1.5 แสนบาท เพื่อ BRZ รุ่นเกียร์อัตโนมัติ พร้อมระบบ EyeSight แต่เราแนะนำรุ่นเกียร์ธรรมดาที่เร็วกว่าทั้งอัตราเร่ง (0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที, เกียร์ A/T ใน 6.8 วินาที) และความเร็วสูงสุด (226 กม.ชม., เกียร์ A/T 216 กม./ชม.) จากธรรมชาติของเกียร์ธรรมดาและน้ำหนักที่เบากว่าถึง 21 กก. ชุดเกียร์ยังคงเป็นของเดิมแต่ปรับให้ระยะคันเกียร์สั้นยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงได้ฉับไวกว่าเดิม ขณะที่ซิงโครไนเซอร์และแบริ่งก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้การเข้าเกียร์ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ระบบบังคับเลี้ยวแบบไฟฟ้าตอบสนองไวไปหน่อย แต่คุณยังคงควบคุมรถได้อย่างมั่นใจและแม่นยำด้วยน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมและสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามายังมือของคุณได้แจ่มชัด ตำแหน่งการจัดวางพวงมาลัยแบบค่อนข้างตั้งฉากกับพื้นและเบาะนั่งวางต่ำ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังขับ Porsche เลยทีเดียว

ช่วงล่างยังคงเป็นเลย์เอาท์เดิม แต่มีการเสริมความแกร่งให้กับจุดยึดต่างๆ ร่วมด้วยการปรับตำแหน่งของสปริงและแดมเปอร์ เปลี่ยนจุดยึดกันโคลงหลังมาอยู่ที่ซับเฟรมโดยตรง และเพิ่มความกว้างฐานล้อหลังขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อให้รถทรงตัวได้มั่นคงยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเพิ่มจุดค้ำยันเข้าไประหว่างช่วงล่างและแชสซีส์ บวกกับการเสริมความแกร่งให้ตัวถังในระดับพระกาฬ… ด้านหน้าแกร่งขึ้น 60% และเพิ่มขึ้น 50% ที่ด้านหลัง ส่งให้ BRZ เฉิดฉายบนทางโค้ง อันเดอร์สเตียร์เพียงเล็กน้อย ขณะที่อาการโอเวอร์สเตียร์ก็สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดาย หากเริ่มคุ้นเคยกับรถ คุณสามารถปิดระบบควบคุมการยึดเกาะและสนุกไปกับ “แก่นแท้” ของรถได้ พลังเบรกนับว่าเพียงพอสำหรับพละกำลังของรถ ส่วนล้อทั้งสี่มีขนาดเท่ากันที่ 18 นิ้ว พร้อมยาง 215/40 ทั้งหมด
เมื่ออยู่ในห้องโดยสารของ BRZ คุณจะสัมผัสได้ถึงความสปอร์ตของรถ ด้วยการเน้นโทนสีเคร่งขรึม, ตำแหน่งเบาะนั่ง, พวงมาลัย และทัศนวิสัยที่บีบให้คุณโฟกัสไปยังถนนเบื้องหน้า มีพื้นที่เพียงพอสำหรับ 2 คน และเหลือเฮดรูมอีกนิดหน่อยในกรณีที่คุณตัวสูงและต้องใส่หมวกกันน็อกขณะขับขี่ในสนามแข่ง

ไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรนักในรุ่นเกียร์ธรรมดา แต่เท่าที่ให้มาก็ถือว่าครบครันเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ทั้งยังประหยัดน้ำหนักไปได้กว่า 20 กก. อีกด้วย! ชุดเครื่องเล่นระบบสัมผัสรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ส่วนระบบปรับอากาศเป็นแบบแยกโซนพร้อมสวิตช์ควบคุมแบบเปียโนคีย์ ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกและง่ายดาย

มาตรวัดแบบดิจิตอลเต็มระบบ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ช่วยให้อ่านค่าต่างๆ ได้ง่ายดายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนนานๆ ตรงส่วนกลางแสดงมาตรวัดรอบขนาดใหญ่ สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลเป็นแท่งกราฟฟิกได้… แต่เราชอบการแสดงผลแบบเข็มมากกว่า… ขณะที่พื้นที่แสดงผลด้านข้าง สามารถเรียกดูข้อมูลเกี่ยวการขับขี่ในสนามได้ทั้งเวลาต่อ, แรง g ตลอดจนแรงดันของเหลว และค่าต่างๆ ของเครื่องยนต์

เบาะนั่งปีกสูงโอบกระชับและนั่งสบาย จัดวางไว้ต่ำกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ 5 มม. เพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงลงไปอีกเล็กน้อย มาพร้อมกับระบบทำความร้อน 2 ระดับ ซึ่งไม่ค่อยจำเป็นสำหรับเมืองไทยเท่าไหร่นัก และเนื่องจากขนาดที่ค่อนข้างเล็กของ BRZ หากคุณตัวสูงเกินกว่า 175 ซม. อาจต้องงัดวิชายิมนาสติกมาใช้ในการเข้าไปนั่งในรถ อย่างไรก็ตาม มีเนื้อที่รอบๆ พอสมควรที่เบาะคู่หน้านี้ แต่…

… ที่เบาะหลัง แทบไม่เหลือพื้นที่ให้เข้าไปนั่งได้ แต่สามารถวางกระเป๋าสัมภาระได้สบายๆ จุดประสงค์จริงๆ ของพื้นที่บริเวณนี้คือเตรียมไว้เพื่อวางล้อได้มากถึง 4 วง บวกด้วยกล่องเครื่องมือ สำหรับแทร็คเดย์ของคุณ นั่นหมายถึง คุณสามารถใส่ล้อพร้อมยาง Soft หรือ Slick เข้าไปเพื่อเปลี่ยนเมื่อลงสนามแข่ง ไม่ต้องใส่วิ่งจากบ้านไปให้เปลืองเนื้อยางไปเปล่าๆ


SPECIFICATIONS: SUBARU BRZ 6MT
- Price: ฿2,699,000
- Engine: 2387cc 16v 4-cylinder Boxer, 237hp @ 7000rpm, 250Nm @ 3700rpm
- Transmission: 6-speed manual, rear-wheel drive
- Performance: 6.3sec 0-100km/h, 226km/h top speed, 10.5km/l, 217g/km Co2
- Weight: 1289kg