Breaking News

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ซีดานพลังสูง ที่จบในทุกสมรรถนะทั้งความแรงและประหยัด

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro เครื่องยนต์เบนซินปลั๊กอินไฮบริด BMW TwinPower Turbo 299 แรงม้า เมื่อชาร์จเต็ม สามารถขับได้ถึง 108 กม. (NEDC) 

BMW 530e M Sport Pro 2024

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ราคา 3,949,000 บาท (รวม BSI)

BMW 530e M Sport Pro

เจเนอเรชั่นที่ 8 ของ 5-series ซีดานขนาดกลางจาก BMW เปลี่ยนใหม่หมดทั้งรูปโฉมภายนอกและภายใน ร่วมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้น รวมไปถึงมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ในรุ่น 530e คันที่เรานำมาทดสอบครั้งนี้ ซึ่งมีกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 75 แรงม้า ร่วมด้วยพลังจากเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้นอีก 6 แรงม้า หรือหากวัดกันที่กำลังรวมเมื่อทำงานสองแหล่งพลังงานพร้อมกัน จะมากกว่าเดิม 47 แรงม้า ส่งให้รถรุ่นใหม่ ขับขี่ได้อย่างมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

คุณสามารถรับรู้ถึงพละกำลังของ 530e ใหม่ ได้ตั้งแต่เริ่มออกตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาพร้อมกับแพคเกจ M SPORT PRO ซึ่งหมายถึง คุณได้ระบบ Launch Control ช่วยออกตัว ติดมาด้วย! เข้าเกียร์ D จากนั้นกดทั้งแป้นเบรกและคันเร่งให้มิด เพียงอึดใจหน้าจอแสดงผลจะแจ้งให้คุณทราบว่าระบบพร้อมทำงาน

คุณปล่อยแป้นเบรกในขณะที่เท้าขวายังคงเหยียบคันเร่งมิดพรม 530e กระโจนไปข้างหน้า (พร้อมเสียงหลอนๆ ของมอเตอร์ไฟฟ้า ที่จำลองขึ้นมา) แตะ 100 กม./ชม. ในเวลา 6.3 วินาที นับว่าทรงพลังพอสมควรสำหรับการใช้งานทั่วไป

 ฐานล้อที่ยาวกว่าเดิมทำให้ 5-series ใหม่ นุ่มนวลยิ่งขึ้น ช่วงล่างซึ่งถูกปรับแต่งค่าเฉพาะสำหรับรุ่น PHEV (ที่หนักถึง 2 ตัน) เกาะถนนและควบคุมการเอียงตัวขณะเปลี่ยนเลนและเข้าโค้งได้ดี น่าเสียดายที่พวงมาลัยให้น้ำหนักเบามือไปหน่อยทั้งยังมีสัมผัสแบบสังเคราะห์จึงสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามาสู่มือได้ไม่ชัดเจนนัก 530e ใหม่ จึงให้อรรถรสในการขับขี่ได้น้อยกว่ารุ่นก่อนหน้านี้

แต่สิ่งที่พอจะเยียวยาจิตใจได้บ้างก็คือมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังที่เพิ่มขึ้นจาก 109 เป็น 184 แรงม้า ร่วมด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเดิม ส่งให้ 530e สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลและมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น แรงบิด 250 นิวตันเมตร ช่วยประคับประคองน้ำหนัก 2 ตันของรถ ให้เคลื่อนตัวไปได้อย่างกระฉับกระเฉงท่ามกลางการจราจรอันวุ่นวายของกรุงเทพฯ BMW เคลมว่า

เมื่อชาร์จเต็ม สามารถขับได้ถึง 108 กม. (NEDC) และในการขับทดสอบของเราทำได้ที่ 67 กม. (ด้วยการขับขี่แบบปกติ) ซึ่งครอบคลุมการเดินทางในวันทำงานของเรา โดยไม่ต้องปลุกเครื่องยนต์ขึ้นมาทำงานแต่อย่างใด

ในการทำงานแบบ Hybrid เมื่อขับขี่บนทางด่วนและมอเตอร์เวย์ 530e เร่งแซงได้ทันใจ ทั้งยังทรงตัวมั่นคงที่ความเร็วแบบเดินทางไกล ในขณะที่ห้องโดยสารก็เงียบกริบจนแทบไม่ได้ยินเสียงยาง, ช่วงล่าง และเสียงจากรถรอบๆ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาเล็กน้อยเมื่อคิกดาวน์เท่านั้น การจัดวางตำแหน่งพวงมาลัยและเบาะที่ลงตัว ช่วยให้ขับขี่ได้นานๆ โดยไม่เมื่อยล้า ทั้งยังรู้สึกผ่อนคลายจากพื้นที่กว้างขวางรอบตัวอีกด้วย

โดยรวมแล้ว BMW 530e ใหม่ ที่แม้จะใหญ่และหนักขึ้น แต่ก็ได้พละกำลังที่มากกว่าเดิมมาช่วยหักล้าง ทำให้มันยังคงขับขี่ได้ดีใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้านี้ สิ่งที่น่าประทับใจอยู่ที่การขับด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลยิ่งขึ้น และห้องโดยสารที่ลูกเล่นแพรวพราวกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ด้วยราคา 3.95 ล้านบาท (รวม BSI) 530e ใหม่ คือรถที่ไม่ได้โดดเด่นแบบก้าวล้ำยืนหัวแถว ทว่ายังคงสูสีกับคู่แข่งสำคัญในตลาดอย่าง Merc ซึ่งเปิดตัว E-class ใหม่ไปแล้วเช่นกัน ดังนั้น ขึ้นอยู่กับคุณมากกว่าว่าจะชื่นชอบคันไหนมากกว่า

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ราคาที่ 3.95 ล้านบาท (รวม BSI)

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
5-series ใหม่ มีตัวถังขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ รวมไปถึงความกว้างและความยาวฐานล้อที่มากกว่าเดิม ดีไซน์แบบใหม่รอบคันเป็นทิศทางเดียวกับภาษาการออกแบบล่าสุดของ BMW ที่เพิ่มวอลลุ่มให้กับหน้าและท้ายรถ ร่วมด้วยเส้นสายที่เรียบง่ายสะอาดตาที่ด้านข้าง 530e มาพร้อมแพคเกจ M Sport ซึ่งมีกันชนหน้า, สเกิร์ตข้าง, กันชนหลัง และรายละเอียดอื่นๆ ที่ดีไซน์ดุดันยิ่งขึ้น

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ไฟหน้าสีดำเป็นหนึ่งในแพคเกจ M Sport ‘Professional’ ซึ่งติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 530e ไฟหน้าแบบคู่เอกลักษณ์ของ BMW เป็นระบบ Adaptive LED พร้อมไฟสูงอัตโนมัติ ร่วมด้วย DRL ทรงใหม่แนวตั้ง ที่ใช้เป็นไฟเลี้ยวในตัว นอกจากนั้น ยังเพิ่มดีเทลเล็กๆ ด้วยแถบไฟ LED สีน้ำเงิน บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์ Hybrid ได้เป็นอย่างดี

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ชุดไฟท้ายคือจุดศูนย์รวมที่เส้นสายช่วงไหล่ด้านข้างตัวถังและส่วนโค้งของหลังคามาบรรจบกัน รูปทรงชุดไฟแนวนอนที่ดูพาดยาว (จากการเชื่อมต่อระหว่างกันด้วยแถบของที่เปิดฝาท้าย) ตลอดความกว้างของรถ ส่งให้มุมมองด้านท้ายดูเตี้ยและผายกว้างยิ่งขึ้น เส้นไฟทรงอักษร L บ่งบอกความเป็น BMW ยุคใหม่ ขณะที่ไฟสัญญาณต่างๆ เป็นเส้นแนวนอนทั้งหมด

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
กระจังหน้า “ไตคู่” ขนาดมหึมา วางเอียงสไตล์ “จมูกฉลาม” ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจาก 5-series รุ่นแรก ด้วยแพคเกจ M Sport จึงได้สีดำเงาและแถบไฟเรืองแสงรอบกรอบกระจังติดตั้งมาให้ด้วย มองไปที่ช่องบนบนกระจังหน้าจะเห็นแผ่นกั้นอากาศที่จะปิดและเปิดโดยขึ้นอยู่กับอุณหภูมิทำงานของเครื่องยนต์ วอลลุ่มของฝากระโปรงหน้าออกแบบให้สอดรับต่อเนื่องจากกระจังหน้า คั่นกลางด้วยสัญลักษณ์ใบพัดสี ฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่ของแบรนด์

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
แอโรไดนามิกส์ของ 530e ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจากรุ่นเครื่องยนต์สันดาปฯ โดยเพิ่มพื้นที่แผ่นปิดใต้ท้องรถให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นเพื่อลดแรงต้านอากาศ โดยมีเป้าหมายที่การลด CO2 และยังเพิ่มระยะทางการวิ่งด้วยไฟฟ้าได้มากขึ้นสูงสุดถึง 10 กม. นอกจากนั้น ช่องรับและระบายอากาศตลอดทั้งคันยังเป็นช่องที่ใช้งานจริงทั้งหมด ร่วมด้วยมือเปิดประตูที่แนบเป็นระนาบเดียวกับตัวถังและสปอยเลอร์ขนาดเล็กบนฝาท้ายช่วยเพิ่มแรงกด ซึ่งติดตั้งมาพร้อมแพคเกจ M Sport เช่นกัน

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ระบบขับเคลื่อนพัฒนาให้ทรงพลังยิ่งขึ้น ทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ปรับปรุงให้ได้กำลังเพิ่มเป็น 190 แรงม้า ที่ 4,400-6,500 รอบต่อนาที และให้แรงบิด 310 นิวตันเมตร มีให้ใช้เต็มเพดานตั้งแต่รอบต่ำเพียง 1,500 ไปจนถึง 4,000 รอบ/นาที (เพิ่มขึ้น 6 แรงม้า, 20 นิวตันเมตร ตามลำดับ เทียบกับรุ่นที่แล้ว) ไฮไลต์อยู่ที่มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งให้กำลังเพิ่มขึ้นจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างมาก ที่ 184 แรงม้า (เพิ่มขึ้นถึง 75 แรงม้า) ส่วนแรงบิดยังคงเท่าเดิมที่ 250 นิวตันเมตร ตัวมอเตอร์ติดตั้งคั่นอยู่ระหว่างเครื่องยนต์และชุดเกียร์ ด้วยวิธีนี้ช่วยให้มอเตอร์ขนาดเล็กของ 530e ให้แรงขับได้สูงใกล้เคียงกับการใช้มอเตอร์ขนาดใหญ่แบบติดตั้งแยกต่างหาก (ไม่รวมอยู่ในชุดเกียร์) เมื่อทั้งสองแหล่งพลังทำงานพร้อมกันจะได้กำลังรวม 299 แรงม้า และ 450 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.3 วินาที และความเร็วสสูงสุดที่ 230 กม./ชม.
BMW 530e M Sport Pro 2024
แบตเตอรี่ HV ความจุ 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้พลังงานในการใช้งานจริงสูงสุดที่ 19.4 กิโลวัต์ชั่วโมง หากชาร์จด้วยเครื่องแบบ 7.4 กิโลวัตต์ จะใช้เวลาการชาร์จจาก 0-100% ใน 3 ชม. 15 นาที สามารถขับขี่ด้วยโหมด EV ได้ไกลสูงสุด 108 กม. NEDC หรือที่ 93-103 กม. หากอ้างอิงตาม WLTP ชุดแบตเตอรี่ตั้งไว้บริเวณใต้ท้องรถซึ่งให้ข้อดี 2 ประการคือ รถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และช่วยให้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถยังคงมีความจุ 520 ลิตร เท่ากับ 5-series รุ่นเครื่องยนต์สันดาปฯ การกู้คืนพลังงานขณะขับขี่ใช้ระบบควบคุมเวอร์ชั่นใหม่ที่สามารถใช้ข้อมูลจากระบบนำทางและเซ็นเซอร์ต่างๆ (รวมถึงกล้อง) ของระบบช่วยเหลือขณะขับขี่ มาร่วมในการประมวลผล เพื่อปรับระดับการรีเจนฯ ให้เหมาะสม เช่น ไม่รีเจนฯ เลย หากผู้ขับยกคันเร่งขณะไม่มีรถอยู่ข้างหน้า เพื่อให้รถไหลต่อไปได้โดยไม่ต้องเสียพลังงาน หรือรีเจนฯ เพื่อช่วยชะลอความเร็วไปในตัว หากยกคันเร่งขณะรถวิ่งเข้าใกล้รถคันหน้า เป็นต้น

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ชุดเกียร์อัตโนมัติ ‘Steptronic’ 8 จังหวะ ติดตั้งต่อจากมอเตอร์ไฟฟ้า มีอัตราทดที่จัดจ้านดุดันตามแบบฉบับของ BMW มาพร้อมระบบ Launch Control ซึ่งมีให้ในรถที่ติดตั้งแพคเกจ M Sport โดยเฉพาะ ร่วมด้วยฟีเจอร์ “Boost” ที่จะทำงานเมื่อกดแพดเดิล (ฝั่งซ้าย) หลังพวงมาลัยค้างไว้ 0.8 วินาที ขึ้นไป จากนั้นระบบจะให้อัตราเร่งสูงสุดทันที สวิตช์คันเกียร์ ‘CraftedClarity’ ให้เอฟเฟคต์ระยิบระยับแวววาว พร้อมรูปแบบการขับขี่ที่สามารถเลือกได้จากปุ่ม ‘My Modes’ ระบบสัมผัส ซึ่งจะแสดงโหมดต่างๆ ขึ้นบนจอแสดงผลส่วนกลาง

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ให้ล้ออัลลอย M Aerodynamic ขนาด 20 นิ้ว ที่ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและสามารถลดแรงต้านอากาศได้ดียิ่งขึ้น มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยล้อหน้ากว้าง 8.5 นิ้ว ร่วมกับยางขนาด 245/40 และ 10 นิ้ว กับยางขนาด 275/35 ที่ล้อหลัง ความยาวฐานล้อที่มากกว่ารุ่นที่แล้ว (และยาวที่สุดในคลาส) ส่งให้ 5-series ใหม่ นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น ร่วมด้วยการเสริมความแกร่งให้กับบริเวณจุดเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อการตอบสนองที่แม่นยำยิ่งขึ้นของช่วงล่าง ทั้งยังปรับองค์ประกอบต่างๆ ตลอดจนระบบควบคุมทั้งหมด แยกเฉพาะสำหรับรุ่น 530e เพื่อให้ได้มาซึ่งการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมแม้ต้องแบกน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของชุดไฮบริดก็ตาม ในขณะที่ระบบควบคุมการลื่นไถล นำเอาระบบควบคุมการยึดเกาะเข้าไปรวมอยู่กับระบบควบคุมเครื่องยนต์ เพื่อตัดระยะเดินทางของสัญญาณไปยังระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC) จึงช่วยให้ระบบโดยรวมทำงานได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่า ส่วนระบบเบรก M Sport มาพร้อมคาลิเปอร์สีพิเศษ ‘Dark Blue Metallic’ ให้พลังเบรกเหลือเฟือและมีสัมผัสยอดเยี่ยมเป็นธรรมชาติไม่ต่างจากระบบเบรกของรุ่นเครื่องยนต์สันดาปฯ ปกติ

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้าเวอร์ชั่นล่าสุด ซึ่งให้การตอบสนองที่ไดเรคท์ยิ่งขึ้นและสามารถปรับอัตราทดแปรผันตามองศาการหักเลี้ยวได้ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบพบว่าพวงมาลัยยังเบาเกินไปในทุกโหมดการขับขี่ ยกเว้นเพียงโหมด Sport ที่มีน้ำหนักตึงมือยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงให้สัมผัสที่ปรุงแต่งเกินไปอยู่ดี ตัวพวงมาลัยแบบสปอร์ตมีดีไซน์สวยงาม และเน้นการใช้ช่องเจาะทะลุจึงให้ความรู้สึกถึงการลดน้ำหนักสไตล์รถแข่ง

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ระบบช่วยขับขี่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยออปชั่น ‘Driving Assistance Professional’ ซึ่ง BMW ประเทศไทย ใจดีติดตั้งให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานใน 530e ใหม่ ซึ่งเพิ่มฟีเจอร์ Highway Assistance ระบบขับขี่อัตโนมัติอันชาญฉลาดมาให้เป็นครั้งแรก คุณสามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัยแล้วปล่อยให้ระบบควบคุมการขับขี่โดยเบ็ดเสร็จ โดยมีกล้องภายในห้องโดยสารทำหน้าที่ตรวจจับคุณเพื่อประเมินว่าคุณยังคงมีสมาธิในการขับขี่และพร้อมจะกลับมาควบคุมรถทันทีที่จำเป็น นอกจากนั้น ยังมีระบบเปลี่ยนเลนอัตโนมัติ ‘Active Lane Change’ ที่ล้ำอนาคตจนน่าขนลุกด้วยการใช้ “สายตา” ของคุณสั่งการ! โดยเมื่อระบบคาดการณ์ว่าสามารถเปลี่ยนเลนได้ ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนจากเลนขวาสุดมาอยู่เลนฝั่งซ้าย (ถัดมา) มันจะแจ้งเตือนและใช้กล้องตรวจจับดวงตาของคุณ หากคุณเหลือบมองที่กระจกมองข้างฝั่งซ้าย จะเป็นการยืนยันว่าคุณจะเปลี่ยนไปสู่เลนซ้าย ระบบจะตรวจสอบโดยรอบและ (หากปลอดภัย) จะบังคับพวงมาลัยเปลี่ยนเลนให้อย่างนุ่มนวล โดยไม่จำเป็นต้องยืนยันด้วยการเปิดไฟเลี้ยวแต่อย่างใด เมื่อระบบช่วยขับขี่ถูกเปิดใช้งาน จะแสดงภาพแบบ Live View ที่จอสำหรับผู้ขับ และใช้กล้องรอบทิศทางร่วมกับเซนเซอร์รอบคันเพื่อแสดงภาพกึ่งสมจริงบนจอส่วนกลาง ทำให้ผู้ขับเห็นสภาพแวดล้อมรอบคันและรถคันอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น และแน่นอนว่า 530e ยังมาพร้อมกับระบบช่วยจอดและช่วยถอยหลังอัตโนมัติอีกด้วย

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
คุณภาพการประกอบและวัสดุชั้นเลิศคือสิ่งที่คุณจะได้รับจาก BMW อย่างไม่ต้องสงสัย ห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ที่เรียบง่ายตามสมัยนิยม ใช้โทนสี “Dark Silver M” ตัดกับการตกแต่งด้วยลายคาร์บอนผสานกับความแวววาวของผลึกแก้ว ‘CraftedClarity’ และแสงสีแพรวพราว ช่วยเพิ่มความหวือหวาให้กับ 5-series ใหม่ได้เป็นอย่างดี เบาะนั่งรุ่น Comfort แม้ไม่โอบกระชับเท่ากับรุ่น Sport (ในรุ่น 520d M Sport) แต่ก็นั่งได้อย่างผ่อนคลายกว่า เบาะหลังออกแบบใหม่ให้พนักพิงบริเวณช่วงไหล่ขยายกว้างออกไปจนเกือบถึงขอบประตู จึงนั่งสบายยิ่งขึ้น พื้นที่โดยรวมในห้องโดยสารกว้างขวางกว่าเดิมจากฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ ทั้งยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานมากมาย ซึ่งรวมไปถึงหลังคากระจก ‘Sky Lounge’ ขนาดใหญ่เกือบเต็มพื้นที่หลังคา พร้อมม่านบังแดดที่เลื่อนเก็บไปด้านหน้า (ทางกระจกหน้า) เพื่อเพิ่มพื้นที่กระจกให้กับเบาะหลัง

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
ศูนย์กลางของห้องโดยสารคือ BMW Curved Display แผงจอแสดงผลทรงโค้ง ครอบด้วยกระจกชิ้นเดียวแบบไร้กรอบ ภายในประกอบไปด้วย 2 จอภาพ คือ จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับผู้ขับขี่ และจอส่วนกลาง ระบบสัมผัส ขนาด 14.9 นิ้ว ทำงานอย่างรวดเร็วด้วยระบบปฏิบัติการ BMW OS ล่าสุดเวอร์ชั่น 8.5 ร่วมด้วยอินเตอร์เฟซตลอดจนกราฟฟิกที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด นอกจากนั้น ยังมี HUD สำหรับผู้ขับที่สามารถเรียกดูข้อมูลสำคัญๆ ได้มากมาย และยังมาพร้อมกับเกมส์ต่างๆ ให้เล่นเพลินๆ ขณะรอชาร์จไฟหรือจอดอยู่กับที่ นี่เป็นการร่วมงานกันระหว่าง BMW และแพลตฟอร์ม AirConsole โดยผู้เล่นเพียงเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับรถผ่าน QR Code บนหน้าจอส่วนกลาง ก็สามารถใช้โทรศัพท์เป็นตัวควบคุมการเล่นเกมส์ได้ทันที ที่ขาดไม่ได้คือชุดเครื่องเสียงรอบทิศทางจาก Bowers & Wilkins ให้พลังเสียงหนักแน่นทีเดียว

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024

BMW 530e M Sport Pro 2024
5-series ใหม่ ผสมผสานเทคโนโลยีระบบสัมผัสเข้ากับการใช้ปุ่มกดและสวิตช์แบบดั้งเดิมได้อย่างลงตัว โดยฟังก์ชั่นหลักๆ ที่ต้องใช้บ่อยขณะขับขี่ยังคงเป็นระบบปุ่มกดและสวิตช์ เพื่อให้ผู้ขับไม่ต้องละสายตาจากถนนเป็นเวลานาน ในขณะที่ฟังก์ชั่นรองๆ ลงมา ใช้ระบบสัมผัสแบบ Haptic ร่วมด้วย “สันนูน” เพื่อให้ผู้ขับทราบตำแหน่งของปุ่มได้จากการสัมผัส ส่วนฟังก์ชั่นที่ไม่ค่อยได้ใช้งานขณะขับขี่ เช่น การบันทึกตำแหน่งเบาะ และระบบไฟส่องสว่าง (ซึ่งทำงานอัตโนมัติอยู่แล้ว) ใช้การสัมผัสไปบนแถบผลึกแก้วของ ‘Interaction Bar’ ตามจุดต่างๆ รอบๆ ห้องโดยสาร ตัวแถบแสงจะเปลี่ยนสีไปตามโหมดการขับขี่ที่เลือก ทั้งยังสามารถปรับสีที่ต้องการได้เองอีกด้วย

BMW 530e M Sport Pro 2024

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ราคาที่ 3.95 ล้านบาท (รวม BSI)

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ราคาที่ 3.95 ล้านบาท (รวม BSI)
จุดที่ทำให้ดีไซน์ห้องโดยสารดูมินิมัลเป็นพิเศษ คือการเปลี่ยนจากช่องแอร์แบบปกติ มาใช้แบบเป็นช่องแนวนอนซ่อนอยู่ใต้ แถบ Interaction Bar นับเป็นการออกแบบที่แปลกตา ทว่าสามารถใช้งานได้จริง สามารถให้ความเย็นได้ทั่วห้องโดยสารไม่ต่างจากช่องแอร์ทรงปกติ แต่อาจต้องทำความคุ้นเคยกับตำแหน่งของปุ่มปรับทิศทางลมซึ่งมีขนาดเล็กจับยาก แถมยังซ่อนไว้ด้านล่างของแดชบอร์ดอีกด้วย ส่วนการเปิดปิดช่องแอร์เป็นระบบสัมผัสทำแยกออกมาไว้บน Interaction Bar สามารถเลือกระดับการเปิดได้หลากหลายสเตป

รีวิว ลองขับ BMW 530e M Sport Pro ราคาที่ 3.95 ล้านบาท (รวม BSI)

SPECIFICATIONS: BMW 530e M SPORT PRO

  • Price: ฿3,949,000 (BSI standard package included)
  • Drivetrain: 1998cc turbocharged 4-cyl petrol plus e-motor, 299hp, 450Nm
  • Transmission: 8-speed automatic, rear-wheel drive
  • Performance: 6.3sec 0-100km/h, 230km/h top speed, 76.9km/l, 29g/km CO2
  • Weight: 2080kg

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …