Test Drive: รีวิว ทดลองขับ BMW M4 CS… M4 ที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ เพราะต่อท้ายด้วยอักษร “CS” เกิดมาเพื่อคั่นระหว่างรุ่นมาตรฐานกับรุ่น GTS
Test Drive: รีวิว ทดลองขับ BMW M4 CS ขุมพลัง 460 แรงม้า
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
การพบกันครึ่งทางระหว่างความสะดวกสบายและสมรรถนะ นี่คือ M4 ที่แพงกว่ารุ่นมาตรฐาน 3 ล้านบาท มันเบากว่า, แรงกว่า พร้อมแฮนด์ลิงที่เฉียบคมยิ่งขึ้น แต่จะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเพิ่ม หรือ ไม่ ? เราอยู่ที่นั่นเพื่อค้นหาคำตอบ
วันจันทร์เป็นวันที่น่าเบื่อที่สุดในสัปดาห์ กลิ่นความสุขอันหอมหวนของวันหยุดยังไม่ทันจางหาย ก็ต้องงัดตัวขึ้นจากเตียงเพื่อออกไปทำงานกันอีกแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับผมในจันทร์นี้ เพราะที่นอกหน้าต่างนั่น คือ BMW คูเป้ สีน้ำเงินเปล่งประกาย หน้าตากวนโอ๊ยพร้อมมีเรื่อง
จอดรอให้เราได้ไประเบิดคันเร่งกันในวันนี้ มันคือ M4 ที่เหนือขึ้นไปอีกระดับ เพราะต่อท้ายด้วยอักษร “CS” เกิดมาเพื่อคั่นระหว่างรุ่นมาตรฐาน (รวมถึง M4 ที่ใส่ออปชั่น Competition Package) กับรุ่น GTS ที่ฮาร์ดคอร์เกินกว่าจะเอาไว้ขับใช้งานทุกวันได้
BMW M4 CS
คุณจะเห็นความแตกต่างได้จาก Splitter ที่ล่างสุดของกันชนหน้าซึ่งผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ ฝากระโปรงเป็นแบบเดียวกับรุ่น GTS หล่อขึ้นรูปโดยใช้วัสดุ CFRP หลังคา, สปอยเลอร์บนฝาท้าย และดิฟฟิวเซอร์ใต้กันชนหลัง ต่างก็เป็นคาร์บอนไฟเบอร์เช่นเดียวกัน
บางส่วนของห้องโดยสารมีการลดน้ำหนักด้วย เห็นได้ชัดที่แผงประตูที่ทำด้วยวัสดุรีไซเคิลจากใยไฟเบอร์ คุณต้องชอบห่วงผ้าใบสไตล์รถแข่ง ที่ปักด้ายสีเอกลักษณ์ของรุ่น M แน่ ๆ มันถูกใช้แทนที่มือจับประตูแบบดั้งเดิม – ยอมรับว่า เท่มาก ๆ – แต่เชื่อผมเถอะ มันทำให้การปิดประตูลำบากลำบนและต้องออกแรงดึงมากกว่าเดิมเสียอีก!
อ้อ! ลำโพงก็ถูกยกออกไปเช่นกัน นั่นหมายถึง เสียงเพลง (รวมทั้งเสียงพูดของระบบนำทาง) จะดังมาจากลำโพงด้านหลังเท่านั้น… แต่ช่างมันเถอะ เราไม่ได้อยู่ในนี้เพื่อทำซาวด์เช็ค แต่เพื่อดื่มด่ำกับเสียงคำรามจากปลายท่อไอเสียต่างหากล่ะ!
นอกจากนั้น ยังมีการตัดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางส่วนออกไป อาทิ ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Single Zone ธรรมดา, iDrive ก็เป็นแบบมาตรฐาน แต่ยังคงมีเบาะหลังมาให้ แถมคันของเรายังมีม่านไฟฟ้าที่กระจกหลังติดตั้งมาด้วย (แต่เราไม่แนะนำให้คุณติ๊กออปชั่นนี้ตอนสั่งซื้อ)
ทั้งหมดนี้ ส่งให้ CS เบากว่า M4 Competition อยู่ราวๆ 35 กก. (มากหรือน้อยกกว่านี้ ขึ้นอยู่กับออปชั่นที่คุณติ๊กเพิ่มไป) แต่ยังหนักกว่า GTS ถึง 90 กก.
เครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 460 แรงม้า และแรงบิดขนาด 600 นิวตันเมตร
และมันก็มีพละกำลังน้อยกว่ารุ่น GTS ด้วยเช่นกัน เครื่องยนต์แบบ 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ไม่ถูกแตะต้องใด ๆ มีเพียงการปรับซอฟต์แวร์ของระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มบูสต์ให้มากขึ้นในรอบต่ำกับเปลี่ยนรายละเอียดของชุดท่อไอเสียอีกเล็กน้อย
ช่วยให้ CS มีพละกำลังเพิ่มจาก 431 แรงม้า ในรุ่นมาตรฐาน (หรือ 450 แรงม้า ใน Competition Package) เป็น 460 แรงม้า และแรงบิดขนาด 600 นิวตันเมตร เทียบเท่ากับ GTS หรือมากกว่าเดิม 50 นิวตันเมตรหากเปรียบกับสองรุ่นแรก เมื่อรวมกับการเข้าคอร์สลดน้ำหนักแล้ว ช่วยให้มันทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 280 กม./ชม.
มีการปรับแต่งซอฟต์แวร์ใหม่ในส่วนของระบบควบคุมพวงมาลัย, ระบบควบคุมการทรงตัว รวมถึงเฟืองท้ายแบบแอคทีฟ ด้วยเช่นกัน เพื่อให้แมตช์กับยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ที่เหนียวหนึบสำหรับวิ่งในแทร็คโดยเฉพาะ
ลดขนาดล้อหน้าจาก 20 นิ้ว มาเป็น 19 นิ้ว เพื่อเพิ่มการตอบสนองของพวงมาลัยให้เฉียบคมยิ่งขึ้น ส่วนล้อหลังยังเป็นขนาด 20 นิ้วเช่นเดิม นอกจากนั้น ช็อคอับแบบแอคทีฟ ก็ได้รับการปรับให้แข็งขึ้นในทุกโหมด ไม่ว่าจะเป็น Comfort, Sport หรือ Sport Plus
ทั้งหมดนั่นฟังดูดีใช่ไหมล่ะ? และมันก็ขับสนุกขึ้นกว่าเดิมอย่างมากอีกด้วย!!! ข้อได้เปรียบจากการใช้ยาง Cup 2 ส่งผลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการขับขี่ของ M4 CS ข้อเท็จจริงก็คือ เซ็ตอัพทั้งหมดถูกปรับแต่งเพื่อให้แมตช์กับแรงยึดเกาะชั้นยอดของยางชุดนี้
คุณจะรู้สึกเก้ ๆ กัง ๆ ขณะพยายามทำเพาเวอร์สไลด์ เหตุเพราะยาง Cup 2 เกาะหนึบเกินไป ประกอบกับเฟืองท้ายแบบแอคทีฟที่ถูกโปรแกรมใหม่ก็ดูจะยอมอ่อนข้อให้กับเจ้า Bibendum เช่นกัน CS จึงไม่ใช่รถที่ Tail Happy เหมือนกับรุ่นมาตรฐาน
มันจะเผยให้เห็นความยอดเยี่ยมก็ต่อเมื่อคุณควบคุมให้รถโฟล์วไปตามไลน์ของโค้งต่าง ๆ นี่คือรถที่ควบคุมง่ายอย่างเหลือเชื่อ แม้จะอยู่ในโหมด Sport Plus ก็ตาม น้ำหนักพวงมาลัยตึงมือกำลังดี, ตอบสนองฉับไวแต่ไม่วอกแวก และสื่อสารทุกข้อมูลของล้อคู่หน้าผ่านมายังมือของคุณได้ชัดเจน
ช่วงล่างซึ่งมีพื้นฐานที่ดีมาตั้งแต่ M4 รุ่นมาตรฐานอยู่แล้ว ยิ่งให้สัมผัสและการยึดเกาะที่ดีขึ้นไปอีกเมื่อถูกปรับให้แข็งขึ้นใน CS อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนมาใช้ชิ้นส่วนที่เบายิ่งขึ้น แต่น้ำหนักรวมก็ยังมากถึง 1,580 กก. นั่นหมายถึง ยังมีอาการโยนตัวให้รู้สึกได้เมื่อเข้าโค้งแรง ๆ
ขณะที่ระบบเบรคซึ่งแม้จะทรงพลัง แต่จะมีอาการเฟดให้เห็นเมื่อคุณต้องเผชิญกับการใช้งานแบบหนักหน่วงต่อเนื่อง นอกเสียจากคุณยอมกัดฟันจ่ายเพิ่มเพื่อชุดเบรคคาร์บอนเซรามิก ที่จะมาพร้อมกับคาลิเปอร์สีทองสวยงามทั้งสี่ล้อ
แรงบิดที่มากกว่าเดิม 50 นิวตันเมตร ก็เป็นตัวช่วยที่ส่งให้ M4 CS เร่งความเร็วได้อย่างฉับพลัน
แม้จะมีพลังเพิ่มขึ้นเพียง 39 แรงม้า ทว่าแรงบิดที่มากกว่าเดิม 50 นิวตันเมตร ก็เป็นตัวช่วยที่ส่งให้ M4 CS เร่งความเร็วได้อย่างฉับพลัน มันเข้าขากับชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ คลัตช์คู่ เป็นปี่เป็นขลุ่ย เครื่องยนต์สามารถปั่นขึ้นไปได้ถึง 7,600 รอบ/นาที
กำเนิดเป็นเสียงแผดสนั่นสะใจผ่านปลายท่อไอเสียสองคู่ที่ท้ายรถ พร้อมแรงฉุดที่ดันตัวคุณติดแน่นกับเบาะและทิวทัศน์สองข้างทางที่พุ่งเข้าหาราวกับภาพ Time Lapse ยังไม่นับรวมเสียงปะทุปุ้งปั้งเมื่อถอนคันเร่งและเปลี่ยนเกียร์ ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสได้สุดขั้วดีจริง ๆ
และ M4 CS ยังสามารถขับในชีวิตประจำวันได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ GTS ที่โฟกัสไปยังการขับในแทร็คเป็นหลัก ด้วยเบาะหน้าแบบ Full Bucket ปรับไม่ได้ และเบาะหลังซึ่งถูกถอดออกแล้วแทนที่ด้วยโรลบาร์กับถังเติมน้ำหล่อเย็นให้กับอินเตอร์คูลเลอร์
บวกกับช่วงล่างแบบ Manual สไตล์รถแข่งแล้วล่ะก็ CS ดูจะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากกว่าเยอะ แม้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกจะถูกตัดทอนออกไปจากรุ่นมาตรฐานพอสมควร, ไม่มีลำโพง, ไม่มีที่วางขวดน้ำ, ช่องต่อ USB ช่องเดียว แต่คุณยังคงมีเบาะแบบปรับได้ (คันทดสอบเป็นแบบปรับไฟฟ้า, สั่งติดตั้งเพิ่มเติม)
แถมช่วงล่างที่แม้จะถูกปรับให้ขึงตึงขึ้น แต่ก็ยังให้ความนุ่มนวลได้ในระดับที่ดีมาก เมื่อเทียบกับสปอร์ตคูเป้รุ่นอื่น ๆ ในคลาสเดียวกัน ถ้าคุณไม่มีปัญหากับการขับใช้งาน Honda Civic คุณก็จะไม่มีปัญหากับการใช้งาน M4 CS เช่นกัน
นอกจากนั้น มันยังมีอัตราสิ้นเปลืองที่น่าทึ่ง เทียบกับพละกำลังและความบ้าบิ่นแล้ว ตัวเลข 9.8 กม./ลิตร กับการขับที่หนักหน่วงของเราเกือบตลอดเวลานั้น ถือว่าประหยัดมากทีเดียว นั่นเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายมาก ๆ
BMW M4 CS ความสมดุลย์ระหว่าง “สะดวกสบาย” และ “สมรรถนะ”
ทว่าสิ่งที่ไม่เหนือความคาดหมายก็คือ “ราคา” … ที่ตัวเลข 11.44 ล้านบาท นับเป็นเงินก้อนโตหากเทียบกับ 39 แรงม้า, 50 นิวตันเมตร และเบากว่าเพียง 35 กก. แต่เซ็ตอัพโดยรวมนั้นล้ำค่าสมราคาทีเดียว (และแน่นอนว่า ด้วยความเป็นรุ่น “พิเศษ” ที่มีในไทยเพียงไม่กี่คัน ย่อมทำให้ราคาขายต่อแทบไม่ตก)
M4 CS คือรถที่ได้รับการปรุงแต่งจนกลมกล่อม การวางตำแหน่งไว้กึ่งกลางระหว่าง M4 รุ่นมาตรฐานและความสุดขั้วของ M4 GTS หมายถึงคุณได้ความสมดุลย์ระหว่าง “สะดวกสบาย” และ “สมรรถนะ” CS อยู่บนเส้นแบ่งเขตแดนของทั้งสองสิ่งนั้นอย่างพอดิบพอดี
บางทีการยอมเสียนั่นไปนิด เสียนี่ไปหน่อย ก็ดีกว่าต้องเสียอย่างใดอย่างหนึ่งไปทั้งหมด จริงไหมครับ?
- Price: 11,439,000 Baht
- Engine: 2,979cc straight six twin-turbocharged, 460ps @ 6,250rpm, 600Nm @ 4,000-5,380rpm
- Transmission: Seven-speed dual-clutch auto, rear-wheel drive
- Performance: 3.9sec 0-100km/h, 280km/h, 197g/km CO2
- Weight: 1,580kg
- 5 stars