รีวิว ทดสอบรถ: Honda Accord Turbo EL โมเดลเริ่มต้นของอนุกรม Accord ใหม่ในเจนเนอเรชั่นที่ 10 ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 1.5 ลิตร 190 แรงม้า
รีวิว ทดสอบรถ: Honda Accord Turbo EL เจนเนอเรชั่นที่ 10 พละกำลัง 190 แรงม้า
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
“เมื่อการเดินทางของเครื่องยนต์ VTEC Turbo จากฮอนด้า ไม่ได้หยุดอยู่แค่โมเดล Civic เท่านั้น แต่ก้าวต่อไปยังโมเดลขนาดกลางอย่าง Accord … เพราะงั้นเราจะพลาดการ “ลองของ” ครั้งนี้ไปได้อย่างไร”
Honda Accord Turbo EL
Honda Accord Turbo EL เรียกได้ว่าเป็นโมเดลเริ่มต้นของอนุกรม Accord ใหม่ในเจนเนอเรชั่นที่ 10 เนื่องจากบรรดาพี่ ๆ อีก 2 รุ่นเค้ามากับเวอร์ชั่น Hybrid เป็นหลัก และทั้งหมดได้รับการพัฒนาผ่านแนวคิด Absolute Confidence เพื่อมุ่งสร้างความมั่นใจสูงสุด ทั้งในด้านการขับขี่ และการได้เป็นเจ้าของ
โดยเน้นหนักไปที่ 3 เป้าหมายหลัก ๆ คือ “Dynamics” ความปราดเปรียว โฉบเฉี่ยว ทั้งในด้านดีไซน์ และสมรรถนะการขับขี่, “Captivating” ความมีเสน่ห์น่าดึงดูดของรถยนต์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และสุดท้าย คือ “Upscale” ซึ่งหมายถึงการยกระดับคุณภาพ การพัฒนายนตรกรรมให้สง่างาม และเหนือระดับไปอีกขั้น
ดูง่าย ๆ ตั้งแต่ภายนอกที่สะดุดตาด้วยงานดีไซน์อันลงตัวระหว่างความหรูหรา และความสปอร์ต จากชุดกระจังหน้าโครเมี่ยม ซึ่งออกแบบให้เชื่อมต่อกับชุดไฟหน้า ที่มากับชุดไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED
เช่นเดียวกับชุดไฟท้ายดีไซน์ใหม่แบบ LED เช่นกัน ขณะที่มุมมองจากด้านข้างนั้นมีความสปอร์ตด้วยเส้นสายแนวหลังคาที่ลาดเอียงลงในด้านหลังราวกับรถ Coupe พร้อมด้วยการเพิ่มเติมความสปอร์ตเข้าไปในส่วนของล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารยกระดับความประณีตในการออกแบบเข้าไปอีกขั้น ผสานด้วยงานเส้นสายแนวนอน เพื่อสร้างความรู้สึกโปรงโล่งให้กับบริเวณคอนโซลกลาง ตลอดจนทำให้มีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น และสร้างทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ทั้งยังเอื้ออำนวยให้สามารถใช้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้อย่างคล่องมือ
ซึ่งประกอบไปด้วย เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับด้านหลัง 4 ทิศทาง, ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ (Memory Seat) และการเลื่อนอัตโนมัติขณะขึ้น-ลงรถ รวมถึงมีปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ไปจนถึงการเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถพับได้
ส่วนฟังก์ชั่นล้ำ ๆ นั้นมากับมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว, ชุดเครื่องเสียงควบคุมผ่านหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch ที่รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ทั้งยังสามารถสั่งการได้จากบนพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ที่มากับแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ด้านหลัง
ปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ตลอดจนรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control System) ด้านระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย และขวา พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง
ทั้งยังมีกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) สุดล้ำที่มาพร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ และสั่งการเปิดเครื่องปรับอากาศได้จากระยะไกล ตลอดจนระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System)
ไฮไลท์ของ Honda Accord Turbo EL ต้องยกให้กับขุมพลังที่มากับเซอร์ไพรส์ เป็นเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 1.5 ลิตร พร้อมการติดตั้งระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection เข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง เสริมด้วยตัวช่วยความแรงอย่าง Turbocharger ซึ่งช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้อย่างรวดเร็วขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ทำให้มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 190 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 243 นิวตันเมตร
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) รวมถึง ECON Mode ที่จะช่วยลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง กับการปรับเครื่องยนต์ และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน ตลอดจนระบบปรับอากาศ และการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม
เพื่อให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งในเรื่องของ “สมรรถนะ” ยังมาพร้อมการการันตีในความทรงพลังที่มากกว่าเครื่องยนต์ระดับ 2.4 ลิตร ซึ่งนั่นคือเป้าหมายที่เราจะไป “ลอง” กันในวันนี้
ไวเท่าความคิดเราก็คว้ากุญแจรีโมท (Remote Engine Start) สั่งการสตาร์ทรถ และเปิดเครื่องปรับอากาศรอไว้ทันที ขณะที่กำลังเก็บข้าวเก็บของเพื่อออกเดินทาง จากนั้นเมื่อทุกอย่างพร้อมเราก็เริ่มลุยทันที เริ่มต้นด้วยการปรับตำแหน่งเบาะนั่ง และพวงมาลัย
เพื่อให้ได้อารมณ์สปอร์ตมากที่สุด และเคลื่อนตัวออกมาพบกับการจราจรที่แน่นหนา แต่ด้วยการปรับดีไซน์ของห้องโดยสารใหม่ที่ทำให้เกิดความโปร่งโล่งมากขึ้น จนไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด แม้บางจังหวะจะสาหัสถึงขั้นต้องจอดนิ่ง ๆ ก็ตาม
หลังจากอดทนจนผ่านพ้นพื้นที่การจราจรรถติด ในที่สุดโอกาสก็เป็นของเรา เมื่อรถราโล่งมากพอให้ได้ใช้คันเร่งเยอะขึ้น และเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ได้ปลดปล่อยศักยภาพของตัวเอง ซึ่งบอกได้เลยว่า “เกินคาด” เพราะตั้งแต่อัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งที่ได้อารมณ์คล้าย Civic แต่ยังไม่หนักหน่วงเท่า เพราะออกสไตล์นุ่มนวลกว่า ซึ่งน่าจะเป็นเพราะเรื่องบุคลิกของตัวรถในฐานะโมเดล Accord มากกว่า
ฉะนั้นเราจึงเปลี่ยนไปลองขับให้เหมาะสมกับความเป็น Accord โดยใช้การเติมคันเร่งอย่างนุ่มนวล ซึ่งดูจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกว่า โดยเฉพาะในย่านความเร็วปลายที่ทำได้ดี นอกจากนี้ในช่วงความเร็วเดินทางปกติกับสภาพการจราจรในเมืองยัง
ก็ยังคงน่าประทับใจในจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ที่ต่อเนื่อง และการตอบสนองของเครื่องยนต์ รวมถึงความสนุกในการขับขี่ด้วยการตอบสนองของพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง ที่สามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นอารมณ์ของยนตรกรรมภายใต้แบรนด์ Honda อย่างครบถ้วน
ฉะนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์การขับขี่ รวมถึงความสนุกที่เกิดขึ้นได้ในจังหวะเล่นโค้งที่ทำได้ดี ซึ่งสามารถเพิ่มความมันส์ได้ด้วยการใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ในการลดเกียร์ลงมาเพื่อลากรอบ “รอ” สวนในจังหวะออกโค้ง ที่จะทำให้คุณไม่รู้จักคำว่า “เบื่อ” แม้จะขับยนตรกรรมขนาดกลางอย่าง Honda Accord ก็ตาม
นอกจากนี้ยังสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย ที่จัดมาให้อย่างเต็มระบบ เช่น ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock), ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ที่ช่วยลดจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้างด้านซ้าย
โดยใช้กล้องในการจับภาพ และแสดงผลผ่านหน้าจอขนาด 8 นิ้ว, กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอยหลัง
โดยสามารถเลือกดูมุมกล้องที่แตกต่างกันได้ ทั้งแบบ 130 องศา, 180 องศา และมุมมองจากด้านบน, ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) ที่จะตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ผ่านการควบคุมพวงมาลัย และแจ้งเตือนผ่านหน้าจอ TFT
โดยหากประสิทธิภาพในการควบคุมของผู้ขับขี่ลดน้อยลง จนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ระบบจะส่งสัญญาณเสียง และทำการสั่นเตือนที่พวงมาลัย ตามด้วยระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ที่สามารถคลายเบรกโดยอัตโนมัติ เมื่อเหยียบคันเร่งในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่เท่านั้น เสริมด้วยระบบ Brake Hold อัตโนมัติ (Auto Brake Hold) ซึ่งจะทำการหน่วงเบรกอัตโนมัติ หลังจากเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง
โดยไม่จำเป็นต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และจะคลายเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบคันเร่ง ในกรณีที่ผู้ขับขี่คาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงยกระดับการขับขี่ด้วยระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA), ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ที่ประกอบด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย (G-Force Control: G-CON), ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คือ ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbag) และม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags), ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
Specification: Honda Accord Turbo EL
- Price: 1,475,000 BHT
- Engine: 1,498 CC / VTEC Turbo / 4 Cylinder / 16 Valve 190 hp @ 5,500 rpm / 243 Nm @ 1,500-5,500 rpm
- Transmission: CVT / Front Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: 1,464 Kg.