รีวิว ทดสอบรถ: All-New Toyota Corolla Altis Hybrid เสริมสมรรถนะด้วยระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 แบบ Full Hybrid System เป็นครั้งแรก
รีวิว ทดสอบรถ: All-New Toyota Corolla Altis Hybrid ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
All-New Toyota Corolla Altis Hybrid
“คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า All-New Toyota Corolla Altis Hybrid คือ ยนตรกรรมที่สร้างบรรทัดฐานใหม่ของรถยนต์นั่งพิกัดมาตรฐาน … ส่วนเหตุผลหลัก ๆ นอกจากความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีแล้ว “สมรรถนะ” คือ สิ่งที่คุณควรต้องไป “ลอง” เอง”
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ณ จีเอ็มเอ็ม ไลฟ์เฮ้าส์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัวรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทยในชื่อที่คุ้นเคยว่า All-New Toyota Corolla Altis Hybrid ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Make A New High” หรือ “ข้ามสู่ขีดสุดที่เหนือกว่า”
ซึ่งความพิเศษก็คือ All-New Toyota Corolla Altis Hybrid ยังมากับฐานะความเป็นครั้งแรกที่ได้รับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในด้านอัตราการเร่ง และความสามารถในการประหยัดน้ำมันมากขึ้น
ซึ่งนอกเหนือไปกว่านั้นก็คือการมาพร้อมกับ “แพลทฟอร์ม” จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ที่หลายคนได้สัมผัสความยอดเยี่ยมมาแล้วทั้งจากรถยนต์นั่งระดับเรือธงอย่าง Toyota Camry และยนตรกรรมสปอร์ตอเนกประสงค์น้องใหม่ล่าสุดอย่าง Toyota CH-R
ซึ่งคงไม่ต้องบอกบรรยายสรรพคุณว่ามันทำให้ยนตรกรรมจากแบรนด์ Toyota มีประสิทธิภาพการขับขี่ที่แตกต่างไปจากเดิมมากเพียงใด และมันทำเอาเราอดใจรอแทบไม่ไหวที่จะได้สัมผัส โดยเฉพาะในรุ่นย่อยระดับท็อปไลน์อย่าง Hybrid High ที่มากับราคาน่าคบเพียง 1,099,000 บาทเท่านั้น
จนในที่สุดโอกาสสัมผัสแบบเต็ม ๆ ก็มาถึง เมื่อคิวจองจากเพื่อนร่วมสายงามสร่างซา พอจะให้เราได้หยิบยืมมาเชยชม ซึ่งต้องบอกเลยว่าแรกเห็นงานดีไซน์ก็พาให้เราจินตนาการไปไกลถึงสมรรถนะได้อย่างชัดเจน ด้วยความโดดเด่น ผสานด้วยเส้นสายที่หนักแน่นเฉียบคม
ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น 1 ใน 5 ของการพัฒนาจุดเด่นหลัก โดยภายนอกได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” พร้อมกับภายในที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Clean & Wide” ด้วยการคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง
ส่วนประเด็นที่ 2 ก็คือ การยกระดับประสิทธิภาพของการขับขี่ ด้วยสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถต่ำลง และทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวได้มากขึ้นทั้งในการขับขี่ทางตรง และขณะเข้าโค้ง ผสานด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท และช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ดับเบิ้ลวิชโบน ที่มีทั้งอารมณ์ความสปอร์ต และความนุ่มนวลที่ลงตัว
ตามด้วยประเด็นที่ 3 อันน่าสนใจ กับระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 แบบ Full Hybrid System ซึ่งติดตั้งมาให้ใน All-New Toyota Corolla Altis Hybrid เป็นครั้งแรก และเรียกได้ว่าเป็นรุ่นเดียวในตลาด C-Segment ที่การันตีว่าช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แถมด้วยความสนุกในการขับขี่ ที่จะจริง หรือไม่อีกในอึดใจได้รู้กัน
ส่วนประเด็นที่ 4 นั้นแน่นอนอยู่แล้วกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ที่จัดมาให้ทั้งระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) ซึ่งยังมีการเพิ่มระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) และระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) เสริมด้วยระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นอีกด้วย
ขณะที่ระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) ยังคงประกอบด้วยการเสริมโครงสร้างด้านหน้า เพื่อช่วยถ่ายเทแรงในกรณีที่เกิดการปะทะ พร้อมด้วยโครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวน ที่ช่วยลดการยุบตัวจากการชน เสริมด้วยความมั่นใจจากการติดตั้งถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่เพิ่มเติมระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range มาให้ โดยสามารถปรับลดระดับความเร็ว ไปจนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า โดยที่ยังมีระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ขณะเข้าโค้ง เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าในขณะขับขี่
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่ 5 กับความล้ำหน้าด้านระบบการเชื่อมต่อ ที่สามารถสะดวกสบายไปกับ Apple CarPlay และระบบ T-Connect Telematics ที่ตอบโจย์ไลฟ์ไสตล์ของคนยุคดิจิตอลได้อย่างตรงจุด
และอย่างที่ได้เราได้เกริ่นไว้ตอนแรกว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุด คือ เรื่องของ “สมรรถนะ” ซึ่ง All-New Toyota Corolla Altis Hybrid รุ่นย่อย High ของเราในวันนี้ มากับขุมพลังเบนซินรหัส 2ZR-FXE แบบ Atkinson Cycle พิกัด 1.8 ลิตร VVT-i ซึ่งให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที
เสริมสมรรถนะด้วยระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 โดยใช้แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) ส่งกำลังสู่มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ซึ่งมีเรี่ยวแรงสูงสุด 72 แรงม้า พร้อมแรงบิด 163 นิวตันเมตร ร่วมทำหน้าที่ขับเคลื่อนกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ผ่านการส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
ซึ่งเริ่มแตะคันเร่งก็รู้สึกได้ทันทีถึง “สมรรถนะ” ที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ในเรื่องของการสนองตอบต่อการควบคุมที่เฉียบคม แม่นยำ บนพื้นฐานของเสถียรภาพการทรงตัว และการขับขี่ที่ก้าวเข้าใกล้อารมณ์ความสปอร์ตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉะนั้นแน่นอนเลยว่าต้องขอบคุณแพลฟอร์มใหม่อย่าง TNGA ที่ช่วยเพิ่มอรรถรสการขับขี่ให้โมเดล Altis แตกต่าง และควบคุมได้อย่างถึงน้ำถึงเนื้อกว่าที่ผ่าน ๆ มา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมพลังกับเรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์เบนซิน ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ที่แม้ดูพละกำลังแรงม้าจะมีแค่ระดับ 120 ต้น ๆ แต่ก็ประมาทใช่ย่อย เพื่อด้วยแรงบิดทั้งจากแหล่งกำเนิดพลังทั้ง 2 ส่วน คือ เงื่อนไขสำคัญที่ให้ All-New Toyota Corolla Altis Hybrid มีเซอร์ไพรส์ในการตอบสนองเท้าขวา
ชนิดที่เรียกว่า “กดเป็นมา” ด้วยแรงบิดที่เหมาะสม และสามารถทำอัตราเร่งได้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้แบบสบาย ๆ หรือแม้กระทั่งไหลไปยังความเร็วเดินทาง ยาวจนความเร็วสูงระดับ 150-160 กม./ชม. แบบไม่มีปัญหา
ขณะที่อีกหนึ่งความยอดเยี่ยมของ All-New Toyota Corolla Altis Hybrid คือ เรื่องของระบบช่วงล่างที่ดีกว่าเดิมมากมาย เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกหนักแน่น แต่นุ่มหนึบ ให้การทรงตัว และยึดเกาะถนนได้ดีในความเร็วสูง รวมถึงการเพลิดเพลินไปกับการเข้าโค้ง ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้รู้สึกมากกว่าโมเดลที่ผ่าน ๆ มา และยิ่งเมื่อผสานกับการตอบสนองที่ฉับไว อันมีผลพวงมาจากเทคโนโลยี TNGA ด้วยแล้วล่ะก็
มันยิ่งรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังขับยนตรกรรมในไลน์อัพใหม่จาก Toyota ชนิดที่ว่าถ้าเปลี่ยนชื่อรถเป็นรุ่นใหม่เราก็คงไม่แปลกใจ แต่กลับกันใจ เมื่อใช้ชื่อว่า All-New Toyota Corolla Altis Hybrid ที่มาพร้อมการอัพเกรดสมรรถนะ มันคือความเซอร์ไพรส์ ที่ผู้เคยผ่านมือ Altis จากอดีตต้องประหลาดใจ เช่นเดียวกับเรา
และเพื่อเป็นการเคารพต่อความสำเร็จใจการพัฒนายนตรกรรมอนุกรม Altis ให้เปี่ยมด้วยความสดชื่น มีชีวิตชีวา เราจึงแทบจะไม่ได้ลงจากรถเลยถ้าไม่จำเป็น แถมไม่ได้มีจุดหมายสำคัญที่ต้องการไปอีกด้วย เพียงแต่สิ่งเดียวที่เราอยากทำก็คือ การขับเจ้า All-New Toyota Corolla Altis Hybrid ไปเรื่อย ๆ เพื่อซึมซับอรรถรสทุกอย่างที่สามารถทำได้ กับยนตรกรรมที่เรียกได้ว่าเป็นการเปิดประวัติศาสตร์บทใหม่ของซีดานยอดนิยมในเมืองไทย
ซึ่งเราขอทิ้งท้ายไว้เพียงว่า ต่อให้อ่านมาถึงบรรทัดนี้คุณก็ไม่เข้าใจในอารมณ์ และอรรถรสของการเปลี่ยนแปลงได้มากเท่ากับการได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง และเรารับประกันว่าคุณจะ “ตื่นเต้น” ในวิวัฒนาการของ Altis มากพอ ๆ กับเราจนอธิบายเป็นตัวหนังสือได้ลำบากทีเดียว
Specification: All-New Toyota Corolla Altis Hybrid
- Price: 1,099,000 BHT
- Engine: 1,798 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 98 hp @ 5,200 rpm / 142 Nm @ 3,600 rpm
- Electronic Motor: 72 hp / 163 Nm
- Transmission: E-CVT
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight: N/A