รีวิว ทดสอบรถ: Ford Mustang รุ่น 2.3L EcoBoost 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที ชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
รีวิว ทดสอบรถ: Ford Mustang รุ่น 2.3L EcoBoost ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
Ford Mustang
ม้าป่าที่ถูกลดความเกรี้ยวกราดลง จะยังคงเป็นม้าพันธุ์ดีตามแบบฉบับอเมริกันอยู่ หรือไม่? เราอยู่กับ Mustang ขุมพลัง 2.3 ลิตร เทอร์โบ และถนนอันว่างเปล่า เพื่อค้นหาคำตอบนั้น
ผมได้เคยขับทดสอบ Ford Mustang GT ขุมพลัง V8 ไปก่อนหน้านี้แล้ว แน่นอนว่ามันคือยนตรกรรมที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งสปอร์ตคาร์สายพันธุ์อเมริกัน ที่ยังคงความดิบกร้านตามแบบฉบับดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แต่อย่างไรเสีย คุณก็ต้องหมุนตามโลกให้ทัน หรือไม่ก็จะเหลือเพียงตำนานเล่าขาน…
น่ายินดีที่ Ford เลือกที่จะปรับ Mustang ให้ก้าวออกไปสู่โลกกว้าง ด้วยการเริ่มผลิตแบบพวงมาลัยขวา และใส่เครื่องยนต์ขนาดเล็กเข้าไป เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค
มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร แถมยังน่าสนใจเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของ Mustang สุดเท่ได้ในราคาเพียง 3.7 ล้านบาท สำหรับรุ่น 2.3L EcoBoost เหมือนกับคันที่คุณเห็นอยู่ตรงนี้ แน่นอนว่ามันมีพละกำลังน้อยกว่า และเสียงคำรามหน่อมแน้มกว่ารุ่น GT เครื่องยนต์ V8 แต่ก็ราคาถูก, ประหยัดน้ำมัน ทว่ายังคงมอบความสนุกในการขับขี่ได้อย่างน่าประทับใจ
เปรียบได้กับ Toyota 86 ที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนอเมริกัน… Mustang EcoBoost เป็นรถที่เหมาะสำหรับทั้งในการขับขี่ทั่วไป และหาความสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในสนามแข่งบ้างเป็นครั้งคราว เครื่องยนต์ความจุ 2.3 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบชาร์จ
ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที และมีแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที ส่งกำลังไปยังชุดเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ สู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง
การขับในเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น ด้วยคันเร่งที่ไม่ไวจนเกินงาม พวงมาลัยมีน้ำหนักค่อนข้างเบาเมื่อเทียบกับสปอร์ตคาร์ส่วนใหญ่ ในขณะที่การเปลี่ยนจังหวะเกียร์ไปมาก็ทำได้นุ่มนวลน่าพอใจ มันอาจจะตะกุกตะกักอยู่บ้างตอนที่ต้องเหยียบ ๆ ถอน ๆ คันเร่งท่ามกลางการจราจรที่เคลื่อนตัวช้าบ้างเร็วบ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างความรำคาญใจมากนัก
เช่นเดียวกับรุ่น GT V8 ช่วงล่างของ Mustang Ecoboost ถูกเซ็ตมาค่อนข้างแข็งตามสไตล์สปอร์ตคาร์ทั่วไป คุณจึงได้ความสั่นสะเทือนตามสไตล์สปอร์ตคาร์ทั่วไปมาด้วยเช่นกัน ไม่ถึงขั้นกระเด้งกระดอน แต่ก็อย่าคาดหวังว่ามันจะนุ่มนวลเหมือนกำลังนั่งอยู่ใน Toyota Camry คุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ห่างจากพื้นถนนเพียงไม่กี่เซนติเมตรเมื่อนั่งอยู่ในห้องโดยสาร เบาะจัดวางไว้ค่อนข้างต่ำ แต่ก็เป็นตำแหน่งที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ
ทัศนวิสัยรอบด้านชัดเจน แต่หลังคาที่ลาดต่ำอาจทำให้คุณไม่เหลือเฮดรูมมากพอสำหรับใส่หมวกกันน็อคเมื่อขับในสนามแข่ง เบาะหลังก็ไม่ใช่ที่ซึ่งจะมีใครสามารถเข้าไปนั่งได้นาน ๆ เช่นกัน มีการใช้วัสดุบุนุ่มมากขึ้น
ซึ่งนั่นรวมถึงฟลอร์คอนโซลที่ดูน่าสัมผัสยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับ Mustang โมเดลก่อน และแม้ตอนนี้เราจะมีแบบพวงมาลัยขวาแล้ว แต่ Ford ก็ไม่คิดจะย้ายตำแหน่งเบรกมือให้มาอยู่ฝั่งขวาด้วย นั่นหมายถึง คุณต้องเอื้อมมือไปไกลอีกหน่อยในตอนที่ต้องการใช้มันเพื่อการดริฟต์…
…หรือไม่ก็ปิดระบบแทร็คชั่นคอนโทรล แล้วทำเพาเวอร์สไลด์แทน! ใช่! มันทำได้แม้จะด้วยเครื่องยนต์ขนาดเล็กก็ตาม ต้องขอบคุณแรงบิดที่มีให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำซึ่งช่วยให้อะไร ๆ ง่ายยิ่งขึ้น บวกด้วยยางขนาด 255/40-19 ทั้งสี่ล้อ ไม่กว้างเกินไปสำหรับพละกำลังที่เครื่องยนต์ 2.3 ลิตร ผลิตออกมา แม้มันจะไม่ดุดันเมื่อเทียบกับเครื่อง V8 แต่คุณจะได้การควบคุมที่ง่ายยิ่งกว่า พลังที่ถูกส่งออกมาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสุภาพ
ทว่าความเร็วนั้นถือว่าไม่ธรรมดา พวงมาลัยในโหมด Track คือเพชรเม็ดงามที่จะช่วยให้คุณและ Mustang ร่ายรำไปตามความคดเคี้ยวของถนนได้อย่างพลิ้วไหว มันออกจะไวไปนิดแต่ก็สื่อสารตรงไปตรงมาสู่มือของคุณ และด้วยความสัตย์จริง ผมชอบวิธีที่เครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบตัวนี้ปลดปล่อยพลังออกมา มากกว่าเครื่อง n/a V8 เสียอีก
คุณไม่ต้องจดจ่อกับการควบคุมมากนัก มันให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสอดรับกับประสิทธิภาพโดยรวมของรถ เมื่อเทียบกับรุ่น GT ที่มีพลังมหาศาลจนต้องคอยระแวดระวังไม่ให้มันหันกลับมาเล่นงานคุณ หากพลาดท่าเสียที
พลังการยึดเกาะก็อยู่ตรงนี้เช่นกัน ช่วงล่างแบบอิสระทั้งสี่ล้อทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดี เหลือเฟือสำหรับควบคุมดูแลทั้ง 300 แรงม้าให้อยู่กับร่องกับรอย เบรกหน้าของรุ่น EcoBoost ถูกลดขนาดดิสก์ลงมาเป็น 352 มม. และใช้คาลิเปอร์ 4 ลูกสูบ (เทียบกับ 380 มม., 6 ลูกสูบ จาก Brembo ของรุ่น GT) ในขณะที่ด้านหลังเป็นขนาด 330 มม., 1 ลูกสูบ เหมือนกัน ซึ่งเพียงพอที่จะหยุดยั้งความแรงลงได้ มันให้สัมผัส และการตอบสนองที่ดี แม้จะมีขนาดเล็กลงก็ตาม
ที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ ถึงจะมีพละกำลังน้อยกว่าและราคาถูกกว่ารุ่น GT ถึง 1.2 ล้านบาท แต่ Ford ก็ไม่ได้ตัดทอนอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงมากนัก นั่นหมายถึง คุณยังคงได้ระบบ Track Apps, Line Lock สำหรับเบิร์นยาง, ครูสคอนโทรล, ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ, เตือนการชนด้านหน้า, ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
ไม่เว้นแม้กระทั่งชุดเครื่องเสียง Bang & Olufsen กำลังขับ 1,000 วัตต์, ระบบ Sync3 รวมถึง sat-nav และอื่น ๆ ทั้งหมด เช่นเดียวกับที่มีในรุ่น GT สิ่งที่แตกต่างออกไปมีเพียงแค่ชุดเบรกหน้า, ล้อขนาด 19 นิ้ว และยาง ที่เท่ากันทั้งสี่ล้อ, ท่อไอเสียแบบธรรมดา (ปรับความดังไม่ได้) เท่านั้นเอง
เมื่อรวมเข้ากับอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า และถ้าคุณต้องการ Mustang สำหรับความบันเทิงในแทร็คเป็นบางครั้ง และขับใช้งานทั่วไปได้บ่อย ๆ รุ่น 2.3L EcoBoost จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่ง มันยังคงมีกลิ่นอายของความเป็น “ม้าป่า” อยู่ในตัว Ford รู้ดีว่าอะไรที่ทำให้ “Mustang” เป็น “Mustang ที่แท้จริง”
แม้มันจะถูกลดดีกรีความเกรี้ยวกราดดิบเถื่อนลงก็ตาม นี่คือ Mustang ที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งในด้านของราคา และสมรรถนะ บวกด้วยสไตล์ที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และการรับประกันนาน 5 ปี (หรือ 100,000 กม.)
จาก Ford ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายโดยตรง ยิ่งทำให้ Mustang เป็นรถที่ควรจะอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ของคุณ หากกำลังมองหาสปอร์ตคาร์ไว้ขับสักคัน
FORD MUSTANG 2.3L ECOBOOST
- Price: 3,699,000 Baht
- Engine: 2.3L EcoBoost inline-4 turbo, 300 ps @ 5,400 rpm, 440 Nm @ 3,000 rpm
- Transmission: 10-speed SelectShift auto, rear-wheel drive
- Performance: 5.8 sec 0-100 km/h, 200+ km/h top speed, 205 g/km Co2
- NCAP rating: 2 stars