Audi TTS Coupe ยนตรกรรมสปอร์ต จากเยอรมันกับราคาค่าตัวที่ 4.599 ล้านบาท

Audi TTS Coupe ยนตรกรรมสปอร์ตจากเยอรมัน ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง พละกำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า

Audi TTS Coupe ยนตรกรรมสปอร์ตจากเยอรมัน กับราคาค่าตัวที่ 4.599 ล้านบาท

บนโต๊ะทำงานของผมมีรถโมเดลมากมาย โดยเฉพาะสายยุโรป หลากหลายสเกลที่ถูกวางเรียงรายเอาไว้ โดยหนึ่งในนั้น คือ โมเดลจากค่าย Audi ที่มีทั้ง TT และ R8 เป็นยนตรกรรมที่ผมชื่นชอบ และหวังว่าจะมีโอกาสได้ลองขับสักครั้ง … และวันนี้โอกาสมาถึงแล้ว

Audi TTS Coupe ยนตรกรรมสปอร์ตอีกหนึ่งรุ่นที่ผมชื่นชอบ และมีรถโมเดลในครอบครอง คือ ขั้นสุดแห่งสายพันธ์ TT ที่มีทั้งความ ‘หล่อ’ และความ ‘แรง’ แบบครบสูตรมาจากประตูรั้วโรงงาน โดยมีพื้นฐานมาจากเวอร์ชั่น TT แต่ได้รับการ ‘อัพเกรด’ ขึ้นใหม่ ในส่วนที่ต้องรองรับกับ ‘สมรรถนะ’ ที่เพิ่มขึ้น

โดยในความเป็นจริงเมื่อเทียบจากรายละเอียดแล้ว จุดต่างด้านรูปลักษณ์ระหว่างโมเดล TT และ TTS นั้นมีความต่างกันอยู่ไม่มากสักเท่าไหร่ เช่น ตราสัญลักษณ์ TTS ที่กระจังหน้า ซึ่งดีไซน์ลวดลายช่องดักอากาศให้มีความต่างกัน และเติมรายละเอียดการตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม เพื่อให้ดูสปอร์ตมากขึ้น ในขณะที่ด้านข้างนั้นเพิ่มความหล่อเหลาด้วยกรอบกระจกข้างแบบโครเมียม และล้ออัลลอยที่เปลี่ยนไปใช้ขนาด 19 นิ้ว ซึ่งซุกซ่อนจานเบรกขนาดใหญ่ในด้านหน้า และจับคู่กับคาลิปเปอร์ประทับตรา TTS ตามด้วยด้านหลังที่ประทับตราสัญลักษณ์ TTS เช่นกัน พร้อมกับสร้างจุดเด่นด้วยชุดท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวา

ภายในห้องโดยสาร สไตล์สปอร์ตตามมาตรฐานของรถ Coupe ที่มันจะดูอึดอัดเบา ๆ โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้หลงใหลรถสไตล์นี้ มันอาจจะเป็นฝันร้ายไปเลยก็ว่าได้ เพราะอะไรหลาย ๆ อย่างมันจะดู ‘แน่น’ ไปหมด แถมด้วยลักษณะการนั่งก็มีความต่างจากรถทั่วไปชนิดที่ว่า ‘ต่ำเตี้ย เรี่ยพื้น’ จนไม่เอื้ออำนวยให้ทัศนวิสัยในการมองใกล้เคียงกับรถปกติด้วยเช่นกัน

ส่วนความต่างระหว่างรุ่นมาตรฐานกับเวอร์ชั่น TTS นั้นอยู่ในรายละเอียดการตกแต่ง เช่น เบาะนั่งคู่หน้าที่ดูสปอร์ต และหรูหรามากขึ้น จากการหุ้มด้วยหนัง Fine Nappa และตัดเย็บในลวดลาย Diamond Cut พร้อมกับติดตั้งฟังก์ชันที่ช่วยปรับปีกเบาะด้านข้างให้โอบกระชับรับกับลำตัวให้หลากหลายระดับ ในขณะที่เบาะนั่งด้านหลังที่เรา ๆ เรียกว่า Dog Seat นั้น ประเมินดูแล้วคิดว่าเอาไว้วาง สัมภาระเล็ก ๆ น้อย ๆ น่าจะดีกว่า การมีผู้โดยสารเข้าไปนั่ง เพราะคงเป็น ‘หนังชีวิต’ แน่ โดยเฉพาะถ้านั่งเป็นระยะทางไกล ๆ

สำหรับออฟชั่นมาตรฐานของ TTS นั้นจะประกอบด้วยหน้าจอ Virtual Cockpit ขนาดใหญ่ที่ติดตั้งมาให้นอกเหนือจากรุ่นมาตรฐาน ตามด้วยพวงมาลัย 3 ก้านทรง D-Shaped ประทับตราสัญลักษณ์ TTS พร้อมปุ่มควบคุมมัลติฟังก์ชัน เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้ง่าย โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน ในขณะที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ นั้นในมุมมองของเรานั้นถือว่าจัดมาให้อย่างเพียงพอต่อการใช้งาน เพราะเราเชื่อว่าคงไม่มีใครมานั่งห่วงเรื่องของออฟชั่นมากมาย เมื่อคุณกำลังจะได้กระแทกคันเร่งรถสปอร์ตสมรรถนะสูงรุ่นหนึ่งที่โลกยอมรับ

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินพิกัด 2 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง พ่วงตัวช่วยอย่าง Turbocharged ที่มอบพละกำลังสูงสุดมาให้ใช้ถึง 286 แรงม้าที่ 5,300 – 6,200 รอบต่อนาที ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่นมาตรฐานถึง 56 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิดสูงสุดในระดับ 380 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,200 รอบต่อนาที ส่งกำลังทั้งหมดผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ S Tronic 6 สปีด สู่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันเลื่องชื่อในนาม Quattro พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ Audi Drive Select ซึ่งมีให้เลือกปรับแต่งตามสไตล์ที่ต้องการ ซึ่งประกอบด้วยโหมด Comfort, Auto, Dynamic และ Individual ซึ่งบอกเลยว่าสำหรับเราโหมดไหน คือ ส่งที่เราโปรดปรานที่สุด… ใช่ครับโหมด Dynamic คือ โหมดแรกที่เราเลือกใช้เป็นอันดับแรกทันที เพราะด้วยจังหวะ และโอกาสที่ทำให้เรา ‘หนี’ ออกจากเมืองได้โดยง่าย ด้วย ‘ทางด่วน’ ประกอบกับช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะเป็นใจ ด้วยรถราที่โล่งสบาย เอื้ออำนวยให้เราใช้สมรรถนะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

สำหรับโหมด Audi Drive Select มันสามารถแสดงความแตกต่างออกมาให้สัมผัสได้อย่างแจ่มแจ้ง เช่น ระหว่างโหมด Comfort ที่คุณจะรู้สึกได้ถึงความสบายในการควบคุมที่ราวกับไม่ได้อยู่ในเรือนร่างของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง แต่ถ้าอยากลิ้มรสความเร้าใจก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเพียงแค่ปรับโหมดไปที่ Dynamic ในอึดใจคุณก็จะได้พบเจอกับเสียงคำรามอย่าง ‘ดุดัน’ ไปพร้อมกับน้ำหนักพวงมาลัยที่จะปรับให้หน่วงหนักขึ้นอัตโนมัติ โดยเฉพาะการขับขี่ในช่วงความเร็วสูง ที่คุณจะรู้สึกได้ถึงความมั่นใจอย่างมากในเรื่องของการควบคุม โดยมีเรื่องของอัตราเร่ง และสุ้มเสียง เป็นตัวช่วยหนุนส่งในเรื่องของสร้างความมันส์ในอารมณ์กับทุกการขับขี่ และถ้าคุณเป็นคนที่ ‘คลั่งไคล้’ ในแนวนี้เช่นเดียวกับผมล่ะก็ เชื่อได้เลยว่า ‘ชอบ’ แน่นอน

เพราะด้วยสไตล์ของผมที่นับถือแนวทางความมันส์แบบสุดขั้วด้วยสมรรถนะของยนตรกรรม ในเรือนร่างของรถสปอร์ต ที่เอื้อให้ผมได้ปรับเบาะนั่งลง ‘ต่ำ’ สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่คุณยังมองเห็น ‘แนว’ ของสันฝากระโปรงหน้ารถ และทัศนวิสัยเบื้องหน้า ซึ่งสำหรับผู้ที่จับรถประเภทนี้เป็นครั้งแรกมันอาจจะไม่คุ้นชินเท่าไหร่นัก แต่ถ้าปรับตัวจนได้ระดับที่เหมาะสม จนสามารถประเมินความยาวด้านหน้ารถ หลังจากที่สร้างความคุ้นเคยได้แล้วล่ะก็ นั่นหมายถึงความ ‘เร้าใจ’ ที่คุณสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะสัมผัสทั้งหมดจากการกดคันเร่งในโหมดการขับขี่แบบ Dynamic ที่เรียกได้ว่าเป็นความบันเทิงเริงใจล้วน ๆ ของผู้หลงใหลในความสปอร์ต ทั้งจาก ‘เสียง’ ของเครื่องยนต์ขณะที่คุณ ‘จุ่ม’ คันเร่งเพื่อลากรอบสูง ๆ ไปจนถึงจังหวะการตัดรอบเปลี่ยนเกียร์ที่จะมีเสียง ‘พรึ่บ’ จากปลายท่อออกมากระตุ้นอารมณ์ ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ก็ส่งกำลังได้อย่างกระชับฉับไวตามใจสั่ง หรือถ้ายังไม่ทันใจพอ ก็สามารถกระดิกนิ้วสั่งการแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ได้อย่างง่ายดาย โดยมีพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าที่เฉียบคม และแม่นยำ ให้คุณสามารถสั่งการ เบี่ยงซ้าย ป่ายขวา มุดแซงผ่านเพื่อนร่วมท้องถนนไปได้อย่างสุดมันส์

ซึ่งส่วนหนึ่งคงต้องยกความดีความชอบให้กับระบบช่วงล่างที่อัพเกรดให้ในรุ่น TTS มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีกระดับ … แต่ด้วยบุคลิกของความสปอร์ตเช่นนี้ มันอาจะไม่ถูกใจนักสำหรับผู้ที่ต้องการความนุ่มนวลมาเป็นอันดับต้น ๆ และผมก็เชื่อว่า น้อยคนนักที่จะมองหาช่วงล่างแบบนุ่มนวล จากรถที่มากับงานดีไซน์สปอร์ตแบบสุดขั้วอย่างเช่น Audi TTS ฉะนั้นคงไม่เรื่องที่น่าห่วงสำหรับผู้บริโภคที่คาดหวังจะได้ความนุ่มนวลของช่วงล่าง หากเลือกที่จะจับจองเป็นเจ้าของ Audi TTS

ผมใช้เวลาทุกนาทีอย่างคุ้มค่า เมื่อได้รับโอกาสประจำการในตำแหน่งคนขับ กับยนตรกรรมในฝันที่ขนาดต้องซื้อรถโมเดลมาเก็บไว้ในครอบครอง เพื่อเก็บสะสมสัมผัสจาก Audi TTS ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยเฉพาะในย่านความเร็วสูงที่ดูจะเป็นอะไรที่เหมาะสมกับ Audi TTS ไม่น้อยทีเดียว เพราะด้วยบุคลิกของรูปลักษณ์ที่สปอร์ตจนเพื่อนร่วมท้องถนนต้องเหลียวมอง รวมกับสมรรถนะที่ตอบสนองผู้รักความแรงได้ดีมากเกินพอ ทำให้ผมไม่เคยคิดที่จะขับเคลื่อน Audi TTS ช้า ๆ เพื่อโชว์ความหล่อเพียงอย่างเดียว

เพราะในความรู้สึกมันเหมือนเจ้านี่จะชอบกลืนกินมวลอากาศเย็นก้อนใหญ่เข้าทางกระจังหน้า เพื่อแปรเปลี่ยนเป็นพละกำลังร้ายกาจ และแหวกว่ายอย่างปราดเปรียวไปบนท้องถนนมากกว่าสิ่งอื่นใด ซึ่งนั่นแหละ คือ ส่งที่ทำให้ผมไม่มีการบันยะบันยังในระหว่างการซิ่ง Audi TTS Coupe ไปรอบ ๆ กรุงเทพฯ ชนิดที่ว่ามีจังหวะเมื่อไหร่ได้กระแทกคันเร่งแน่ ๆ และก็มั่นใจได้ว่าถ้าฟ้าประทานพรเป็นโชคลาภก้อนใหญ่ลงมาเมื่อไหร่ ผมจะสอย Audi TTS มาเก็บไว้ในครอบครองอย่างแน่นอน แม้มันจะมีค่าตัวถึง 4.599 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีตัวเลือกยนตรกรรมยุโรปสายโหดในตลาดให้เลือกอีกเพียบก็ตาม เพราะอะไรน่ะหรือ คำตอบง่าย ๆ ก็คือ ผมคนหนึ่งล่ะที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ Audi และมีความเชื่อว่านี่คือแบรนด์ที่ดีแบรนด์หนึ่ง

Specification  :  Audi TTS Coupe

• Price  : 4,599,000 BHT
• Engine  : 1,984 CC / Turbocharged / 4 Cylinder / 16 Valve  286 hp @ 5,300 – 6,200 rpm / 380 Nm @ 1,800-5,200 rpm
• Transmission  : 6A/T S Tronic / All Wheel Drive Quattro
• Performance   : 0 – 100 Km/h @ 4.7 Sec, Top Speed @ 250 Km/h
• Weight : N/A