BIMS 2022 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย นำทัพยนตกรรมหลากหลายรุ่น พร้อมแคมเปญพิเศษเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
BIMS 2022 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ขนทัพยนตกรรมเข้าร่วมงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
Mitsubishi Motor Thailand
ไม่พูดถึง คงไม่ได้ สำหรับบูธของ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ในงาน The 43rd Bangkok International Motor Show ที่ครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มาโดยสิ้นเชิง ด้วยแนวธีมงานดีไซน์เวทีใหญ่ให้สื่อสารความสปอร์ต ดุดัน ออกมาอย่างชัดเจนที่สุด
ปูทางสู่การนำเสนอเรื่องราว “ตำนาน” อันยิ่งใหญ่ ซึ่งกลับมาอีกครั้ง ในชื่อที่สาวก Mitsubishi ทั่วโลกรู้จักกันดีอย่าง RALLIART ที่เบื้องลึกแล้ว “ชัยชนะ” ไม่ใช่เป้าหมาย หากแต่เป็นประสบการณ์ และสถิติที่สั่งสมจากสนามสุดโหด เพื่อหล่อหลอมเป็น DNA แชมป์ ผสานเข้ากับสุดยอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง มาถ่ายทอดสู่ยนตรกรรมจาก Mitsubishi ที่เพียบพร้อมด้วยขีดความสามารถด้านสมรรถนะ สำหรับตอบโจทย์ทุกสถานการณ์การใช้งาน
และแม้จะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นแห่งการกลับมาของ RALLIART ที่อาจจะไม่ได้เดินหน้าเต็มตัวมากเท่าไหร่ในเรื่องของ “สมรรถนะ” แต่ก็ถือว่าสร้างความน่าสนใจได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะในโซนของ RALLIART ที่หยิบพื้นฐานของโมเดลหลักที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มาทำการเปลี่ยนอารมณ์ใหม่
ตั้งแต่บนเวทีที่ดึงดูดสายตาด้วย Mitsubishi Triton Double Cab 4 ประตู ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นรถแข่ง Rally Car เต็มระบบ จนเราเชื่อว่าน่าจะทำให้บรรดาสาวกทั้งหลาย อยากเห็นขีดความสามารถเต็มๆ ในสสนามกันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ไล่ลงมาจะเป็น Mitsubishi Mirage ยนตรกรรม Eco Car ที่อัพเกรดความเร้าใจ สู่ฐานะน้องใหม่สาย RALLIART ชนิดที่ทำให้ดูแข็งแกร่งขึ้นผิดหู ผิดตา โดยจะมากับสีภายนอกแบบทูโทนให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond และ สีแดง Red Metallic เสริมความเด่นให้รูปลักษณ์ภายนอก
ด้วยการตกแต่งหลังคา, กระจังหน้า, กระจกมองข้าง และล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วป็นสีดำ มาพร้อมชุดสติ๊กเกอร์ RALLIART เสริมด้วยชุดแต่งซุ้มล้อสีดำ, แผ่นบังโคลนสีแดงจาก RALLIART เข้าไปเสริมหล่อ และสปอยเลอร์หลัง ขณะที่ภายในห้องโดยสารมากับสีโทนดำ-แดง และชุดพรมปูพื้นจาก RALLIART
ต่อเนื่องมาที่ยนตรกรรมระดับ Mainstream ซึ่งเปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วอีก 2 รุ่น คือ รถอเนกประสงค์อย่าง Mitsubishi Pajero Sport RALLIART และปิคอัพสายพันธ์ุสปอร์ต Mitsubishi Triton Double Cab RALLIART ที่นำเสนอความเร้าใจในสไตล์เดียวกับ Mitsubishi Mirage
ซึ่งบอกได้เลยว่าถูกใจเราเอามากๆ โดยเฉพาะ Mitsubishi Triton Double Cab RALLIART ที่ดุดัน 2 โทนสีที่ออกจำหน่าย คือ สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica ที่มาพร้อมกับชุดตกแต่งพิเศษสีดำ อาทิ กระจังหน้าเส้นคาดสีแดง, ชุดแต่งชายกันชนใหม่
ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง, ล้ออัลลอย, กรอบกระจกมองข้าง, มือเปิดประตู ด้านนอก และมือเปิดกระบะท้าย ที่มาพร้อมแผ่นกันกระแทกที่กระบะท้าย พร้อมโลโก้ RALLIART ก่อนเพิ่มอารมณ์ให้ภายในด้วยพรมปูพื้นรุ่นพิเศษ ขอบสีแดงพร้อมโลโก้ RALLIART เช่นกัน
ไม่เพียงแค่รุ่นมาตรฐานที่นำมาโชว์ตัว เพราะเคียงข้างกัน คือ อีกความสะดุดตาที่ผ่านการอัพเกรดขีดความสามารถเป็นที่เรียบร้อย สังเกตความต่างได้จากภายนอก ซึ่งไล่มาตั้งแต่ “ล้อ” โทนสีขาวที่ถูกเปลี่ยนจากเดิม จับคู่กับระบบช่วงล่างใหม่ ช่วยให้ความสูงลดลง ตลอดจนการเสริมรายละเอียดตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น เบาะนั่ง และพวงมาลัย ที่จัดมาให้เต็มๆ ผสมผสานเป็นอารมณ์ของ “ตัวซิ่งทางเรียบ” ที่ใครเห็นเป็นต้องหยุดชมในความสปอร์ตสุดขั้ว
นอกเหนือไปจาก RALLIART Series … ไฮไลท์ระดับแม่ทัพใหญ่ของบูธ ก็คือ Mitsubishi Xpander ใหม่ ยนตรกรรม MPV แบบ 7 ที่นั่ง ภายใต้แนวคิด “Mitsubishi Motors-ness” เพื่อยกระดับความโดดเด่นมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น โดยเริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ สู่สไตล์ของรถอเนกประสงค์ SUV มากขึ้น โดยที่ยังคงมีเอกลักษณ์ของ Mitsubishi อย่างครบถ้วน เช่น
ขนาดตัวถังรถที่ปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นอีก 95 มม. ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ตามด้วยความสูงจากพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 15 มม. รวมเป็น 220 มม. ปูพรมด้วยเส้นสายด้านหน้าอันเฉียบคมในสไตล์ Advanced Dynamic Shield รับกับมุมมองด้านหลังดีไซน์ใหม่ ซึ่งสะดุดตาด้วยชุดกันชนท้าย และแผ่นกันกระแทกแบบใหม่ดีไซน์ 3 มิติ เสริมด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่แบบทูโทน ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารก็เป็นอีกจุดที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด ในภาพรวมของห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ ในอารมณ์ของสีแบบทูโทน น้ำตาล-ดำ เช่น เบาะนั่งหุ้มหนังสังเคราะห์, พนักวางแขน และแผงประตู ขณะที่คอนโซลหน้ามากับรูปแบบ Horizontal Axis ที่ช่วยจัดเรียงแผงควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถใช้งานได้ง่าย
ทั้งยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยได้ดีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ หน้าจอสัมผัส รุ่นใหม่ ขนาด 9 นิ้วที่รองรับ Apple Carplay พร้อมช่อง USB 2 ตำแหน่ง สำหรับเบาะแถวที่ 2 แบบ Type-A และ Type-C พร้อมช่องจ่ายกระแส ไฟ DC ขนาด 12 โวลต์, ระบบปรับอากาศดีไซน์ใหม่แบบดิจิตอล รวมถึงพวงมาลัยที่เร้าอารมณ์สปอร์ต และจับกระชับมือ
จุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ “สมรรถนะ” ที่แม้จะยังคงใช้เครื่องยนต์พื้นฐานเดิมที่คุ้นเคย แต่ระบบส่งกำลังได้ถูกทำการอัพเกรดขึ้นใหม่เป็นอัตโนมัติแบบแปรผันต่อเนื่อง Eco-Dynamic CVT ที่สนองตอบต่อการเหยียบคันเร่งได้ดีขึ้น โดยยังคงมีความนุ่มนวลในการถ่ายทอดกำลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ควบคู่ไปกับความประหยัด และความเงียบ
ทั้งยังเปี่ยมด้วยความสุนทรียภาพในการขับ จากการอัพเกรดระบบช่วงล่างใหม่ โดยมีการติดตั้งเหล็กกันโคลงและเหล็กค้ำหัวโช๊คในด้านหน้า ขณะที่ด้านหลังปรับเปลี่ยนตัวโช๊คอัพให้มีขนาดใหญ่ขึ้น จนได้มาทั้งความนุ่มนวล และเสถียรภาพการขับขี่ที่มั่นใจ ภายใต้ระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครัน ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ความสะดวกจากระบบเบรกมือ ควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Brake Auto Hold
ฉะนั้นใครที่กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่มีทั้งความสปอร์ต ความอเนกประสงค์ แถมตอบโจทย์ความต้องการครอบครัวได้อย่างสบายๆ ล่ะก็ เราคิดว่า Mitsubishi Xpander ใหม่ ดูจะเป็นอะไรที่ช่วยให้โจทย์ของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น และถ้าหากอ่านข้อมูล และดูรูปภาพแล้ว ยังได้ข้อมูลไม่เพียงพอ เราแนะนำว่าลองมาดูตัวจริงดีกว่า ที่บูธของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เท่านั้น
ติดตามข้อมูลข่าวสาร มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่
- Website : www.mitsubishi-motors.co.th
- Facebook : www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH
- Instagram : @MitsubishiMotorsTh
- Youtube Channel : MitsubishiMotorsTh
- Line Official Account/ ID : MitsubishiMotorsTh
- มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง