Breaking News

GM เผย 10 เทรนด์ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562

GM เผย 10 เทรนด์ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562 ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

GM เผย 10 เทรนด์-ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562.jpg
10 เทรนด์ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562

GM เผย 10 เทรนด์ ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562

จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งดูแลแบรนด์เชฟโรเลต โฮลเด้น และคาดิลแลคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ร่วมกับนายริชาร์ด วัตสัน นักอนาคตวิทยา ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ NowAndNext.com และผู้เขียนเรื่องดิจิทัลกับมนุษย์ (Digital Vs. Human) เผย 10 เทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่น่าจับตามองในปี 2562

นายริชาร์ด วัตสัน กล่าวถึงภาพรวมตลาดรถยนต์ว่า “ในปี 2562 ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะยังคงเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกำลังมองไปยังอนาคตข้างหน้า ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ นั้นกลับหวนคิดถึงอดีต”

แม้ว่าบางเทรนด์ที่เรากล่าวถึงในวันนี้อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในปี 2562 แต่เราเชื่อว่าอีกไม่นานคุณจะได้เห็นเทรนด์เหล่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งบางทีอาจจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คุณคิดด้วยซ้ำ ที่จริงแล้วการคาดการณ์ของนายริชาร์ดสำหรับอนาคตอันใกล้นี้ตรงกันกับสิ่งที่จีเอ็ม โกลเบิลกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ในศตวรรษที่ 21 ดังนี้

1. ยานยนต์ไร้คนขับจะยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
มีการคาดการณ์ว่า การพัฒนาการขนส่งแบบไร้คนขับ ซึ่งรวมถึงรถยนต์ รถไฟ รถโดยสารประจำทาง รถบรรทุก และบางทีอาจจะพัฒนาไปถึงเครื่องบินในที่สุด Cruise Automation ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติของจีเอ็ม กำลังเดินหน้าเพื่อจะนำรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (AVs) เข้าสู่ตลาดเป็นรายแรก

ทั้งนี้ จีเอ็มนับว่าเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ ด้วยการเปิดตัวระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ ซูเปอร์ครูซ (Super Cruise semi-autonomous) ในรถคาดิลแลคที่จำหน่ายในประเทศจีน และสหรัฐอเมริกา

2. การเติบโต และการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงทางเลือกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ธุรกิจหลักของจีเอ็มที่แข็งแกร่ง และความต้องการของตลาดโลกที่มีต่อรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ ทำให้จีเอ็มสามารถลงทุนในเทคโนโลยีสำหรับอนาคตได้อย่างเต็มที่ เมื่อปี 2560 จีเอ็มประกาศแผนเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจำนวน 20 รุ่นภายในปี 2566

ในขณะเดียวกัน จีเอ็มได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมยานยนต์ เพื่อพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน ซึ่งจะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของจีเอ็มควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัตินั้น นับเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ของจีเอ็ม เพื่อโลกที่ปราศจากอุบัติเหตุ มลพิษ และความแออัด

3. การแบ่งขั้วระหว่างรถที่มีขนาดใหญ่/ขนาดเล็ก ราคาแพง/ราคาไม่แพง และรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม/ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์รายต่าง ๆ เดินหน้าลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้า พวกเขาก็ยังคงผลิตรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ ซึ่งเป็นกลุ่มรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค กลุ่มรถยนต์ดังกล่าวกำลังได้รับการพลิกโฉมด้วยความก้าวล้ำของจีเอ็มในด้านพลังงานไฟฟ้า และเชื้อเพลิงทางเลือกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ จีเอ็มเพิ่งจะเปิดตัวรถกระบะเชฟโรเลต โคโลราโด แซดเอช2 (ZH2) รถกระบะไฟฟ้าต้นแบบที่มีการขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน มาพร้อมเครื่องยนต์รุ่นใหม่และแชสซีส์ของเชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด รถกระบะไฟฟ้าต้นแบบรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่สามารถใช้งานบนเส้นทางออฟโรดได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จีเอ็มเคยมีมา และนำไปสู่การพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในอนาคต

4. การลดลงของใบขับขี่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเมือง
จากการวิจัยของ Schroders แสดงให้เห็นว่า สัดส่วนคนรุ่นใหม่ที่มีใบขับขี่รถยนต์ หรือ เป็นเจ้าของรถยนต์มีจำนวนลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่การเพิ่มขึ้นของธุรกิจการให้บริการแชร์รถร่วมกัน (Car sharing services) เช่น แกร็บ (Grab) และลิฟท์ (Lyft) เป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ

ในปี 2559 จีเอ็มตอบสนองเทรนด์นี้ด้วยการลงทุนธุรกิจในลิฟท์ โดยทำงานร่วมกันกับบริษัทสตาร์ทอัพผู้ให้บริการรถยนต์ร่วมโดยสาร (Ride-hailing service) เพื่อพัฒนาเครือข่ายสำหรับการขับรถด้วยตนเองที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามความต้องการ และสร้างศูนย์กลางในการให้บริการรถเช่าหลายแห่ง ซึ่งจีเอ็มจะกลายเป็นผู้ให้บริการเช่ารถยนต์แก่ผู้ขับของลิฟท์

5. การเติบโตของบริการการร่วมโดยสาร (Ride-sharing) การขนส่งที่ชุมชนเป็นเจ้าของและ การเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แบบสัดส่วน
เทรนด์นี้สอดคล้องกับการที่ใบขับขี่รถยนต์มีจำนวนลดลง แต่การใช้บริการรถยนต์ร่วมกันมีมากขึ้น ในประเทศออสเตรเลีย เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา โฮลเด้นฉลองการดำเนินธุรกิจของหน่วยงานบริการเช่ารถ Maven Gig ของจีเอ็มครบรอบ 1 ปี โดยตั้งแต่ Maven Gig เปิดให้บริการนั้นก็ประสบความสำเร็จ และมีการเติบโตเป็นอย่างมาก เนื่องจากชาวออสเตรเลียจำนวนมากหันไปทำงานในอาชีพอิสระ และดำเนินธุรกิจด้วยแนวคิดเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน (Sharing economy) เพื่อสร้างรายได้และมองหาวิธีการต่าง ๆ เพื่อเดินทางบนท้องถนนได้รวดเร็วขึ้น

Maven Gig ซึ่งเป็นทางเลือกในการเดินทางส่วนบุคคล (Personal mobility solution) สำหรับสมาชิกที่ทำอาชีพอิสระได้ฉลองครบรอบหนึ่งปีในการดำเนินงาน ทั้งนี้ Maven Gig ยังได้ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งสำคัญกับการมีรถคันที่ 1,000 วิ่งให้บริการบนท้องถนน

6. เทรนด์มุ่งไปสู่รถยนต์ขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา (และการเติบโตของวัสดุนาโนที่ล้ำสมัย)
กฎข้อบังคับที่เข้มงวดของรัฐบาลเพื่อให้การปล่อยเชื้อเพลิงเป็นไปตามระดับมาตรฐาน และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และวัสดุที่ทำให้รถยนต์มีน้ำหนักเบา (หรือการทำให้น้ำหนักมีความเหมาะสม) เป็นสิ่งที่ผู้ผลิตทุกรายให้ความสำคัญ เชฟโรเลต คอร์เวตต์รุ่นปัจจุบัน

ซึ่งในปัจจุบันนี้มีจำหน่ายในประเทศฟิลิปปินส์ มีฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา และแผ่นคอมโพสิตคาร์บอน-นาโนที่ช่วงล่างของรถยนต์ จีเอ็มกำลังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการออกแบบซอร์ฟแวร์ใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการออกแบบยานยนต์รุ่นใหม่ที่มีน้ำหนักเบา เทคโนโลยีล้ำสมัยนี้คือกุญแจสำคัญในการพัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีน้ำหนักเบาลง และไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

7. การเติบโตของรถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบสื่อสารระหว่างกัน (Connected cars) และการขนส่งทั่วเมืองแบบบูรณาการ
รถยนต์ที่มาพร้อมกับระบบระบบสื่อสารระหว่างกัน ทำให้

  • การสื่อสารระหว่างรถยนต์ และโครงสร้างพื้นฐาน (Vehicle-to-infrastructure) หรือ V2I
  • การสื่อสารของรถยนต์กับสิ่งรอบตัว (Vehicle-to-everything) หรือ V2X

จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความปลอดภัย และประสิทธิภาพของการจราจร เมื่อมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย จีเอ็มเป็นผู้นำในการนำการสื่อสารของรถยนต์กับสิ่งรอบตัวไปใช้ในประเทศจีน

ในปี 2559 จีเอ็มกลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันของแอปพลิเคชัน V2X ในประเทศ ในปี 2560 จีเอ็มประสบความสำเร็จในการสาธิตประสิทธิภาพของ V2I บนถนนสาธารณะที่นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อไม่นานมานี้ จีเอ็มได้เข้าร่วมการสาธิตการสื่อสารของรถยนต์กับสิ่งรอบตัวด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือ C-V2X ร่วมกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นครั้งแรก

8. การพิมพ์สามมิติของชิ้นส่วนยานยนต์ และบางทีอาจจะเป็นรถยนต์ทั้งคัน (รวมไปถึงวัสดุสี่มิติ)
ไม่ใช่ความลับหากผู้ผลิตรถยนต์อย่างจีเอ็มจะเป็นผู้บุกเบิกการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติ เพื่อสร้างชิ้นส่วนต้นแบบสำหรับการพัฒนายานยนต์ เมื่อช่วงต้นปี 2561 จีเอ็มกล่าวว่า บริษัทฯ กำลังทำงานร่วมกับบริษัท ออโตเดสก์ ซึ่งเป็นบริษัทรับออกแบบ และพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีน้ำหนักเบาด้วยการพิมพ์สามมิติใหม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของจีเอ็ม

จีเอ็มตั้งเป้าว่าจะมีชิ้นส่วนยานยนต์ที่พิมพ์ด้วยระบบสามมิติใหม่เหล่านี้ในรถยนต์ระดับรุ่นไฮเอนด์ และแอปพลิเคชันมอเตอร์สปอร์ตภายใน 1 ปี และภายใน 5 ปี จีเอ็มคาดหวังว่าจะผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จำนวนเป็นพันหรือหมื่นชิ้นในปริมาณมากขณะที่เทคโนโลยีนี้ได้รับพัฒนา การใช้วัสดุการพิมพ์สี่มิติที่สามารถเปลี่ยนรูปทรงได้จะอีกไกลหรือไม่นั้น ติดตามดูกันต่อไป!

9. การจากไปของเกียร์กระปุก (เกียร์ธรรมดา)
ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์บางราย รวมถึงจีเอ็มยังคงนำเสนอรถยนต์รุ่นที่มีเกียร์ธรรมดาในจำนวนที่ไม่มาก หรือ ความก้าวหน้าในการใช้เชื้อเพลิงอย่างประหยัด และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของเกียร์อัตโนมัติมีให้ทั้งหมด แต่กำจัดความต้องการรถยนต์ที่เป็นเกียร์กระปุก

ในทางกลับกัน การเพิ่มขึ้นของฟังก์ชั่นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติได้เองด้วยพวงมาลัย และคันโยกที่ติดกับพวงมาลัย แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวไว้ว่า สิ่งนี้เป็นแฟชั่นที่ผ่านไปแล้ว ในรายงานเมื่อปี 2560 จีเอ็มกล่าวว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ 62 เปอร์เซ็นต์นั้น ใช้ฟังก์ชั่นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Paddle Shift น้อยกว่า 2 ครั้งต่อปี

10. ผลกระทบของประชากรสูงอายุต่อการออกแบบและการใช้งานรถยนต์
ขณะที่อายุเฉลี่ยของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นต่ำกว่า 30 ปี ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมีประชากรที่มีอายุเฉลี่ยมากกว่า ประชากรในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีอายุเฉลี่ยเกือบ 50 ปี ในอดีตคนสูงอายุจะมีการเคลื่อนไหว และความคล่องตัวที่จำกัด และต้องการรถยนต์ที่มีการออกแบบ เพื่อรองรับผู้ที่มีความยืดหยุ่นน้อยลง

ทุกวันนี้ผู้สูงอายุมีความคล่องแคล่ว และกระฉับกระเฉงมากขึ้น และรถยนต์ที่พวกเขาเลือกจะเป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดกลางที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรถดังกล่าวสามารถเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ เทคโนโลยีขั้นสูงต่าง ๆ เช่น เทคโนโลยีระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) ที่มีอยู่ในรถยนต์ของจีเอ็มจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทุกวัยสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุได้ และการแนะนำระบบรถยนต์ไร้คนขับของจีเอ็ม และการให้บริการรถยนต์ร่วมโดยสารจะช่วยลูกค้าสูงอายุได้มากขึ้น

Check Also

Embrace the future with AVATR 11 2024

“อินฟินิท ออโตโมบิล” ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมแบรนด์ “AVATR” ล็อตแรกถึงมือลูกค้า พร้อมบริการสุดไฮคลาสเต็มรูปแบบ!!

สร้างกระแสความตื่นเต้นให้วงการรถยนต์ไฟฟ้าหรูเป็นอย่างมาก เมื่อ บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด บริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป จัดงานฉลองการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ AVATR ให้ลูกค้าล็อตแรก ภายใต้ชื่องาน “Embrace the future …