Breaking News

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กม./ชม. ราคา 5,850,000 บาท

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ รถเอสยูวีสมรรถนะสูงจาก Mercedes-AMG มาพร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid เจเนเรชั่นที่ 4 สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าระยะทางสูงสุด 86 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ติดตั้งอุปกรณ์ขั้นสูงแบบจัดเต็ม

และเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งล้อฟอร์จ (Forged) ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ขนาด 22 นิ้ว สำหรับรุ่นประกอบในประเทศ และยังมี AMG Performance 4MATIC+, AMG RIDE CONTROL+ suspension, AMG high-performance brake system และ AMG Performance exhaust system

โดยเปิดราคาจำหน่ายที่ 5,850,000 บาท ที่ตัวแทนจำหน่าย เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี อย่างเป็นทางการ โดยจะเริ่มส่งมอบรถในเดือนตุลาคมเป็นต้นไป

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ มาพร้อมขุมพลังเบนซิน 6 สูบ แถวเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบ (M256M) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Plug-in hybrid และแบตเตอรี่ขนาด 31.2 kWh มีระยะทางการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าสูงสุด 86 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จแบบ DC สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาจาก 10-80% ภายในระยะเวลา 20 นาที

และการชาร์จแบบ AC สูงสุด 11 kWh ใช้เวลาจาก 0-100% ภายในระยะเวลา 3 ชั่วโมง ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AMG Performance 4MATIC+ สามารถกระจายแรงส่งกำลังได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบอิสระเพื่อให้ตอบโจทย์บนทุกสภาพพื้นผิวถนน

ใช้เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G ให้กำลังสูงสุด 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 กม./ชม. ภายในเวลา 4.7 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

ดีไซน์ภายนอกเพิ่มความดึงดูดสายตาบนท้องถนนด้วยการตกแต่งแบบ AMG Night Package กับสี Deep gloss black ที่ถูกตัดแซมไว้บนชุดกันชนหน้า “A-wing” กระจกมองข้าง คิ้วขอบกระจก แร็คหลังคา กันชนท้าย และปลายท่อคู่อันทรงพลังเพื่อมอบพลังความสปอร์ตและปราดเปรียวตามแบบฉบับของ AMG Exterior ไฟหน้า MULTIBEAM LED

ผสานการทำงานกับ Adaptive Highbeam assist Plus ที่จะมอบความปลอดภัยขณะขับขี่แบบไร้กังวล ติดตั้งล้อฟอร์จ (Forged) ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Cross-spoke ขนาด 22 นิ้ว พ่นด้วยสีดำด้าน matte black         

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

ภายในห้องโดยสารมาพร้อม AMG Interior Package มอบรายละเอียดการตกแต่งที่โดดเด่นตามสไตล์สปอร์ตในทุกองค์ประกอบ ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัย AMG Performance steering wheel พร้อมระบบพวงมาลัย AMG Steering 3 สเตจ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและไมโครไฟเบอร์ หลังคากระจก Panoramic Sunroof ที่ช่วยเพิ่มความโปร่งสบายให้กับห้องโดยสาร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า

ด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX7 แบบ zero-layer concept ที่ออกแบบมาตามรูปแบบโปรแกรม AMG ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอธีมพิเศษของ AMG รวมถึงการวัดแทร็กสนาม โดยควบคุมผ่านจอกลางแบบ widescreen cockpit ขนาด 12.3 นิ้ว ที่เชื่อมต่อกับ AMG Head-up Display ขนาด 12.3 นิ้ว ติดตั้งระบบนำทางแสดงภาพเสมือนจริง MBUX augmented reality for navigation

และระบบเสียง Burmester® surround sound system ลำโพง 13 ตัว กำลังขับ 590 วัตต์ พร้อม Dolby Atmos® ช่วยมอบเสียงเพลงที่คมชัดสมจริงรอบทิศทางราวกับอยู่ในสตูดิโอ 

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

ติดตั้งโปรแกรมการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT สามารถปรับเลือกได้ถึง 7 รูปแบบ ตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ รวมถึงโหมด Off-Road ที่มาพร้อมการแสดงผลแบบ Transparent bonnet ที่จะแสดงภาพใต้ท้องรถแบบ real-time ทำให้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ผสานการทำงานด้วยระบบกันสะเทือนแบบ AMG RIDE CONTROL+ ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (Adaptive AIRMATIC) และระบบเบรกแบบ AMG high-performance brake system ด้านหน้า 6 พอร์ต และด้านหลัง 1 พอร์ต ติดตั้งระบบถ่ายทอดเสียงเครื่องยนต์และเทอร์โบแบบ AMG Performance exhaust system

ซึ่งเป็นนวัตกรรมท่อที่เร้าใจที่สุดของ Mercedes-AMG สามารถเลือกปรับระดับเสียงท่อไอเสียได้ทั้งแบบ BALANCED หรือ POWERFUL ผ่านคอนโซลกลาง หรือบน AMG steering wheel buttons พร้อมเติมเต็มอารมณ์สปอร์ตให้แก่ผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มพิกัด 

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ 2024

สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยนั้น Mercedes-AMG GLE 53 HYBRID 4MATIC+ จัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่ (Driving Assistance Plus Package)
  • ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist)
  • ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST)
  • ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC)
  • ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD และ Hill-Start Assist
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock braking system)
  • โปรแกรมควบคุมการ ทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electronic Stability Program)
  • ระบบเตือนเพื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ (ASSYST service interval indicator)
  • ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) และ Parking Package พร้อมกล้องรอบคัน 360° ฯลฯ 

รุ่น

เครื่องยนต์

ความจุแบตเตอรี่
(kWh)

แรงม้าสูงสุด
  (แรงม้า)

แรงบิดสูงสุด

(นิวตันเมตร)

อัตราเร่ง 

0-100

กม./ชม.
(วินาที)

ความเร็วสูงสุด
(กม. / ชม.)

Mercedes-AMG
GLE 53 HYBRID 4MATIC+

เบนซิน Plug-in hybrid
แถวเรียง / 6 สูบ 

เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์

31.2

544

750

4.7

250

มีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่

  • สีขาว (Polar White)
  • สีดำ (Obsidian Black)
  • สีเทา (Selenite Grey)
  • สีเทา (MANUFAKTUR Alpine Grey Solid)
  • สีแดง (MANUFAKTUR Hyacinth Red Metallic) 

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ที่

Check Also

Kia EV5_BOLD Journey Kick off campaign 2025

“เกีย เซลส์ (ประเทศไทย)” แท็กทีม “เจฟ ซาเตอร์” และ “ททท.” ชวนครอบครัวคนรุ่นใหม่สัมผัสประสบการณ์ พิเศษจากการท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางสุด BOLD ผ่านแคมเปญสุดสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์”

เพราะเกียเชื่อว่า ทุกการเดินทาง คือ โอกาสที่จะได้ค้นพบแรงบันดาลใจใหม่ๆ เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จึงได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดตัวแคมเปญเชิงสร้างสรรค์ “เดอะ โบลด์ เจอร์นีย์” (THE BOLD …