New Honda City eHEV ตอกย้ำความทรงพลังและการทำงานอย่างชาญฉลาดของระบบขับเคลื่อนไฮบริด (i-MMD) ในชื่อ อี:เอชอีวี (e:HEV) ครั้งแรกในประเทศไทย
New Honda City eHEV ยนตรกรรมซิตี้คาร์ Full Hybrid รุ่นแรกที่เปิดตัวในไทย
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความทรงพลังและการทำงานอย่างชาญฉลาดของระบบขับเคลื่อนไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) ซึ่งเป็นระบบ Full Hybrid โดยได้สื่อสารถึงผลิตภัณฑ์รถยนต์ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด ในชื่อ อี:เอชอีวี (e:HEV) และเริ่มในรุ่น ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี เป็นครั้งแรก
ในประเทศไทย
ฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ยนตรกรรมซิตี้คาร์ Full Hybrid รุ่นแรกที่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2563 ได้รับการตอบรับอย่างสูงจากลูกค้าชาวไทย ด้วยยอดจองสะสมกว่า 2,200 คัน ในระยะเวลา 6 เดือนนับตั้งแต่เปิดตัว (23 พฤศจิกายน 2563 – 31 พฤษภาคม 2564)
ระบบขับเคลื่อนไฮบริด Sport Hybrid i-MMD เป็นระบบ Full Hybrid ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน (Lithium-ion) ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด จะเริ่มตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ การใช้ความเร็วสูง และระหว่างลดความเร็ว โดยระบบจะเลือกและปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่อย่างอัจฉริยะ
ทั้งโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดสะท้อนจุดเด่นที่โดนใจและพร้อมตอบโจทย์การใช้งานในทุกไลฟ์สไตล์ “แรง ล้ำเกินคาด ประหยัดเกินใคร มั่นใจทุกการขับขี่”
- High Performance ขับสนุกด้วยแรงบิดและอัตราเร่งที่ทรงพลัง
- High Saving ประหยัดเกินคาดด้วยโหมดการขับขี่ที่ปรับให้เหมาะกับทุกการเดินทาง
อย่างมีประสิทธิภาพ - High Confidence เพิ่มความมั่นใจไปถึงทุกจุดหมายได้อย่างอิสระ
นอกจากนี้ ฮอนด้า ยังมอบความมั่นใจในการใช้งานยนตรกรรม Full Hybrid รุ่นฮอนด้า ซิตี้ อี:เอชอีวี ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care)*
ด้วยการขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็คระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด