Breaking News

ฮอนด้า เปิดจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ซีวิค ใหม่ ตั้งแต่ 1 ส.ค. 2567 – 22 ส.ค. 2567 เตรียมเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 23 ส.ค. 2567 พร้อมกันทั้งที่งาน Big Motor Sale 2024 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

New Honda Civic_EL+ Canyon River Blue Metallic_Exterior 2024

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้า ยืนยันการดำเนินธุรกิจและลงทุนผลิตภัณฑ์ใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ xEV อย่างมั่นคง ล่าสุด ประกาศให้ลูกค้าที่สนใจลงทะเบียนจองสิทธิ์เพื่อเป็นเจ้าของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ เจเนอเรชันที่ 11 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 – วันที่ 22 สิงหาคม 2567 ได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

ด้วยข้อเสนอพิเศษ ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท* เมื่อทำการจองและรับรถ ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 31 ตุลาคม 2567* และเตรียมพบกับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ* สำหรับลูกค้าและครอบครัวที่เป็นเจ้าของรถยนต์ฮอนด้า รวมถึงแคมเปญ “Honda Happy Trade-in*” และข้อเสนอพิเศษอื่น ๆ ที่พร้อมมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่สนใจ

โดยจะประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 สิงหาคม 2567 พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้สัมผัสเป็นครั้งแรกที่บูทฮอนด้าในงาน Big Motor Sale 2024 ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2567 – 1 กันยายน 2567 และที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

New Honda Civic_EL+ Canyon River Blue Metallic_Exterior 2024
New Honda Civic_EL+ Canyon River Blue Metallic_Exterior 2024

New Honda Civic_EL+ Canyon River Blue Metallic_Exterior 2024

New Honda Civic_EL+ Canyon River Blue Metallic_Exterior 2024

ฮอนด้า ซีวิค เป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมและครองใจลูกค้าชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เจเนอเรชันแรกจนถึงเจเนอเรชันที่ 11 โดยสามารถครองอันดับ 1 ด้านยอดขายกลุ่มคอมแพคท์คาร์ในไทย 8 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2559 -ปัจจุบัน

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่

  • รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการ 1,23X,XXX บาท***
  • รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการ 1,09X,XXX บาท***
  • รุ่น EL+ ราคาประมาณการ 1,03X,XXX บาท***

(ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จะประกาศในวันที่ 23 สิงหาคม 2567)

ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ อัปลุคดีไซน์ความสปอร์ตพรีเมียมยิ่งขึ้น

  • ใหม่! กระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
  • ใหม่! ไฟท้าย LED รมดำ เสริมความมีเอกลักษณ์ในตัว
  • ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว Matte Black ดีไซน์ใหม่ สไตล์สปอร์ต
  • ใหม่! ในรุ่น EL+ เพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 17 นิ้ว
  • ใหม่! สำหรับรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ กับสีใหม่! สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) 

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

ภายในห้องโดยสาร

  • ใหม่! ในรุ่น e:HEV RS มาพร้อมเบาะที่นั่งลายใหม่ Prime smooth ด้วยวัสดุเบาะหนังกลับและหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง อีกทั้งตกแต่งแผงคอนโซลหน้าและแผงประตูด้านข้างสีแดงสไตล์สปอร์ต
  • ในรุ่น EL+ และ e:HEV EL+ มาพร้อมวัสดุเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำ
  • ใหม่! ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง ในทุกรุ่นย่อย
  • ใหม่! เบาะที่นั่งด้านหลัง แยกพับแบบ 60:40 ในทุกรุ่นย่อย

เทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัย**

  • ใหม่! เซนเซอร์กะระยะหน้า 4 จุด และ หลัง 4 จุด (รุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV RS)
  • ใหม่! โหมดการขับขี่แบบ Individual (Individual Mode) ที่เพิ่มเติมมาในรุ่น e:HEV เพื่อมอบการขับขี่ที่โดนใจสไตล์คุณ

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

ฟังก์ชันและเทคโนโลยี

  • ใหม่! ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง BOSE 12 ตำแหน่ง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)
  • ใหม่! Google built-in แอปและบริการของ Google ที่ติดตั้งมาในตัว ในทุกรุ่นย่อย
  • ใหม่! ช่องเชื่อมต่อ USB Type C 4 ช่อง โดยแบ่งเป็น 2 ช่องด้านหน้า และ 2 ช่องด้านหลังในทุกรุ่นย่อย
  • ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto(TM) แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Autoในทุกรุ่นย่อย
  • ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ในทุกรุ่นย่อย

New Honda Civic_EL+ 2024

มาพร้อม 2 ทางเลือกของขุมพลังการขับเคลื่อน

ระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ผ่านการทำงานร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ผสานกำลังกับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 315 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันถึง 25 กิโลเมตร/ลิตร วิ่งได้ไกลกว่า 800 กิโลเมตร ด้วยน้ำมัน 1 ถัง****

ขุมพลังเทอร์โบ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700 – 4,500 รอบต่อนาที และอัตราการประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ที่พัฒนาประสิทธิภาพการทำงาน ในทุกรุ่นย่อย

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่

  • สีใหม่ สีน้ำเงินแคนยอนริเวอร์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น EL+ และ e:HEV EL+)  
  • สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)  
  • สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)  
  • สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)  
  • สีดำคริสตัล (มุก) 
  • สีขาวแพลทินัม (มุก)  

พร้อมภายในสีดำและสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น e:HEV RS)

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

New Honda Civic_EL+ Interior 2024

โดยมั่นใจตลอดการใช้งานยิ่งขึ้น ด้วยบริการหลังการขายและทีมงานที่เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์จากเครือข่ายศูนย์บริการฮอนด้าที่ได้มาตรฐานและครบวงจรครอบคลุมทั่วประเทศ

หมายเหตุ

  • *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ
  • **อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
  • ***ราคาประมาณการยังไม่รวมราคาสีพิเศษ (มุก)
  • ****ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล)

เตรียมพบกับการประกาศราคาและเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 ผ่านทาง LIVE ถ่ายทอดสดออนไลน์ทางออฟฟิเชียลแอคเคานต์ “Honda Thailand” ในช่องทาง Facebook, YouTube Channel, TikTok และ Instagram ตั้งแต่เวลา 11:30 น. เป็นต้นไป

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก

  • ที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ 
  • แชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th 
  • ติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร 0 2341 7777  
  • ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.honda.co.th/civic

Check Also

MICHELIN Pilot Sport Cup 2 R _ Ferrari F80 2024

‘มิชลิน’ ได้รับเลือกเป็นยางมาตรฐานติดรถซูเปอร์คาร์ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ (Ferrari F80)

มิชลินได้พัฒนายางรุ่น ‘เค1’ (K1) ขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ ‘เฟอร์รารี่ เอฟ80’ โดยเฉพาะ ยางรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต คัพ 2 อาร์’ (MICHELIN …