NewComer: Hyundai Kona N ครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร สามารถรีดพละกำลังแรงม้าออกมาได้ถึง 286 แรงม้า
NewComer: Hyundai Kona N ครอสโอเวอร์สมรรถนะสูง รุ่นแรกของทาง Hyundai
2022 Hyundai Kona N
หลังจากที่ทาง Hyundai ได้ทยอยเปิดตัวรถรุ่นตัวแรงในตระกูล N ออกมาสู่โลกยานยนต์ทั้ง i20 N, i30 N และ Veloster N ล่าสุดทางค่ายรถจากแดนกิมจิก็ได้เปิดเผยโฉมน้องใหม่ในตระกูล N อย่าง Hyundai Kona N ครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรง โดย Kona N ถือว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงที่อยู่ในเซ็กเมนต์ครอสโอเวอร์ รุ่นแรกของทาง Hyundai
โดยทาง Hyundai เผยว่า Kona N เป็นการผสมผสานที่ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นอัตราที่ทันใจ ความเร็วที่จัดจ้าน การใช้งานที่ความคล่องตัวและสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจเสมือนอยู่ในสนามแข่ง
Hyundai Kona N ครอสโอเวอร์สายพันธุ์แรงตัวนี้ จะกับมาขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 276 แรงม้า มาพร้อมกับแรงบิด 392 นิวตัน-เมตร และสามารถรีดพละกำลังแรงม้าออกมาให้มากขึ้นไปถึง 286 แรงม้า โดยทำงามร่วมกับฟังก์ชัน N Grin Shift พร้อมกับส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ DCT 8 สปีด ที่เป็นแบบคลัทช์เปียก ที่ทำอัตราทดเกียร์ใหม่ รวมถึงติดตั้งชุดประมวลผลรุ่นใหม่ ส่งผลทำให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Hyundai Kona N ยังมีฟังก์ชันโหมดในการปรับเปลี่ยนเกียร์ที่มีเฉพาะในตระกูล N สามารถทำงานได้หลายรูปแบบตามลักษณะการขับ เริ่มจากโหมด N Grin Shift ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ และกำลังสูงสุดแรงบิดให้ต่อเนื่องยาว 20 วินาที ต่อด้วยโหมด N Power Shift เมื่อผู้ขับเร่งกำลังเครื่องยนต์ ระบบจะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมที่สุด
พร้อมกับเพิ่มแรงบิดให้มากขึ้นในระหว่างช่วงการเปลี่ยนเกียร์ ปิดท้ายด้วยโหมด N Track Sense Shift ระบบจะเลือกตำแหน่งเกียร์ และจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะสมที่สุดแบบอัตโนมัติสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ต
ด้วยเครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และชุดเกียร์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ จึงทำให้ Kona N นี้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลา 5.5 วินาที (ต้องใช้ควบคู่กับ Launch Control) และทำความเร็วสูงสุดที่ 240 กม./ชม.
นอกจากขุมพลังแรงแล้วทาง Hyundai ยังได้ปรับปรุงในส่วนระบบช่วงล่วงใหม่ ให้สอดคล้องกับพละกำลังที่จัดจ้านยิ่งขึ้น เริ่มจากติดตั้งเฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิปที่ควบคุมด้วยไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้ปลอดภัย และมั่นใจทุกครั้งในเวลาเข้าโค้ง นอกจากนั้นยังได้ติดตั้งชุดท่อไอเสียแบบคัสตอมที่ออกแบบเป็นพิเศษ เสริมด้วยโครงสร้างตัวถังแบบเสริมแรง และปิดท้ายด้วยโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมดด้วยกัน ได้แก่ Eco, Normal, Sport, N และ Custom
ในด้านดีไซน์ภายนอกของ Kona N ได้มีการอัพเกรด และปรับเปลี่ยนจากรุ่นปกติอยู่พอสมควร เน้นการออกแบบที่ให้ความสปอร์ตเต็มพิกัด ชุดแต่งภายนอกดีไซน์ใหม่จากทาง N Line สีตัวถังจะเป็นสีฟ้า Sonic Blue ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัวของในไลน์ N
ชุดไฟหน้าเป็น LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวรับกับกระจังหน้าทรงตะแกรงขนาดใหญ่ พร้อมกับติดตราสัญลักษณ์ N เพื่อแสดงถึงความแรงของรถรุ่นนี้ ขยับลงมาด้านล่างกันชนหน้าดีไซน์ดุดันเสริมด้วยลิ้นหน้าที่เป็นแถบสีแดง
ด้านข้างถูกออกแบบด้วยเส้นสายที่ดูเรียบง่ายแต่สปอร์ต ซุ้มบังโคลนทั้ง 4 ล้อเป็นสีเดียวกับตัวถัง สเกิร์ตข้างรถเป็นแบบสปอร์ตเติมเส้นสายด้วยแถบสีแดงที่ดูร้อนแรง เสริมลุคความดูพร้อมลุยด้วยล้อ forged ลาย 10 ก้านสีดำของทาง N ขนาด 19 นิ้ว ที่ด้านในติดตั้งชุดดิสก์เบรกสมรรถนะสูง มาพร้อมคาลิปเปอร์ เบรค สีแดงจาก N Line
ด้านท้ายจะมากับชุดไฟท้าย LED แบบแยก เสริมลุคสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาแบบปีกคู่สีดำที่จะช่วยเพิ่มแรงกดให้กับตัวรถ พร้อมกับติดตั้งชุดไฟเบรกดวงที่ 3 ที่เป็นทรงสามเหลี่ยมอยู่ใต้สปอยเลอร์ ด้านล่างจะติดตั้งกันชนท้ายดีไซน์สปอร์ตรับกับดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ เสริมลุคให้ดูสปอร์ต และดุดันด้วยชุดท่อไอเสียแบบคู่แยกซ้าย-ขวา และที่จะขาดไม่ได้นั้นก็คือตัวอักษร N ขนาดใหญ่ ที่ฝากระประตูท้ายเพื่อบ่งบอกว่าเป็นรุ่นตัวแรง
ในส่วนภายในห้องโดยสารก็ได้รับการปรับใหม่ด้วยเช่นกัน เริ่มจากพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสามก้านจากทาง N เสริมความล้ำสมัยด้วย จอ Head-Up Display ที่จะให้อารมณ์เสมือนเราเล่นเกมส์ขับรถอยู่ ภายใต้โหมด N หรือ Sport นอกจากนั้นยังมาพร้อมหน้าจอเรือนไมล์ และจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 10 นิ้ว ที่มากับฟีเจอร์สามารถแสดงแผนที่ในสนามแข่ง และระบบจับเวลา
อีกทั้งยังเติมเต็มฟังก์ชันความสปอร์ตในรุ่นแรงด้วยแป้นเหยียบแบบอัลลอย, เบาะนั่งแบบสปอร์ตจากทาง N ที่หุ้มหนังแท้และหนังกลับเกรดพรีเมียมสีเทา-ดำ เดินตะเข็บด้วยด้ายสีฟ้า Performance Blue
ในด้านระบบความปลอดภัยและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่บนตัว Hyundai Kona N นั้นได้รับการติดตั้งชุดระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense ระบบตรวจการชนด้านหน้า, ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ, ระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องเลน และระบบควบคุมความเร็ว และปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้า, ระบบช่วยป้องกันการชนเมื่อมีรถอยู่ในมุมอับสายตา, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการชนในขณะถอยออกจากช่องจอด และระบบล็อคนิรภัยอัจฉริยะ เป็นต้น
ด้านราคาค่าตัวนั้นทาง Hyundai ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา ส่วนวันเวลาลงโชว์รูมจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นคาดว่าคงจะอยู่ภายในปี 2021 นี้
Credit: https://www.carscoops.com/