ข่าวสด วันนี้ (9/04/19) นิสสัน ชวนสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” (Honor The King’s Legacy) ปี 2 ณ ปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ข่าวสด (9/04/19) นิสสัน ชวนสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ”
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงได้ทำนุบำรุงประเทศชาติ และราษฎรมาตลอดทุกรัชสมัย จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอด
และเผยแผ่พระราชปณิธานผ่านโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” (Honor The King’s Legacy) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลงานของนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
โดยนำของเหลือใช้จากชุมชนปากน้ำปราณมาออกแบบผลิตภัณฑ์มีดีไซน์ เป็นต้นแบบให้กับชุมชนในการผลิต และสามารถจำหน่ายได้จริง เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นภายในชุมชนปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์
โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” (Honor The King’s Legacy)
โดยโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” (Honor The King’s Legacy) สานต่อโครงการปีที่สองในปีนี้ ซึ่งมีความแตกต่างไปจากปีแรก โดยได้ริเริ่มการนำคนรุ่นใหม่ คือ กลุ่มนักศึกษาด้านการออกแบบ โดยแบ่งออกเป็นหกกลุ่มย่อย
เพื่อทำการออกแบบ และสอนขั้นตอนการทำผลิตภัณฑ์จากของเหลือใช้ในท้องถิ่นให้แก่คนในชุมชน เพื่อนำไปจำหน่าย ภายใต้เป้าหมายของโครงการในด้าน การลดของเสีย การสร้างงาน และการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชน
โครงการนี้ นิสสัน ได้ร่วมงานกับ อาจารย์จารุพัชร อาชวะสมิต อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และนักศึกษากว่า 70 คน จากภาควิชาศิลปอุตสาหกรรม
ในการร่วมกันสร้างมูลค่าจากสิ่งของเหลือใช้ และเป็นส่วนหนึ่งในการจุดประกายแนวคิดเพื่อลดการทิ้งขยะในชุมชน อันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของการเพิ่มมลพิษไปในสิ่งแวดล้อม ทั้งจากการเผาทำลาย การปนเปื้อนลงไปในแหล่งน้ำ การทำร้ายระบบนิเวศทางทะเล เป็นต้น
สำหรับ ตัวอย่างของการสร้างสรรค์ต้นแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น
- กระถางอนุบางต้นไม้
- แจกันฟรีฟอร์ม
- กระเป๋าถัก (Eco macrame bag)
- รองเท้าแตะ (Re-Pran shoes)
- กระเป๋ากะลา (COCHELL)
- โคมไฟ (Aquamarine)
ในส่วนของนักศึกษาได้ทำการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งของเหลือใช้ที่ได้พบ และรวบรวมระหว่างการลงพื้นที่ปากน้ำปราณที่ผ่านมา รวมถึงการได้พบปะ และพูดคุยกับสมาชิกของชุมชนระหว่างการลงพื้นที่ในกิจกรรมที่ผ่านมา
จุดนัดพบของกิจกรรมในครั้งนี้
เราเริ่มต้นกันที่ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยได้รับเกียรติจาก มร.ปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวต้อนรับ
รวมทั้งอธิบายที่มาของโครงการ และอาจารย์จารุพัช อาชวะสมิต กล่าวถึงรายละเอียดของ โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ”
หลังจากที่อาจารย์อธิบายเสร็จเรียบร้อย คณะสื่อมวลชนไปยังจุดปล่อยตัวที่มีรถยนต์นิสสันหลากหลายรุ่น อาทิ นิสสัน เอ็กซ์เทรล, นิสสัน เทียน่า, นิสสัน เทอร์ร่า, นิสสัน นาวารา แบล็คอิดิชั่น ใหม่
สัมผัสสมรรถนะไปกับ “นิสสัน เทียน่า ใหม่”
ในครั้งนี้ ทางทีมงานได้สัมผัสสมรรถนะไปกับ “นิสสัน เทียน่า ใหม่” ที่โดดเด่นด้วยสีขาว สตอร์ม ไวท์ ซึ่งถือเป็นรุ่น 2.5 XV Navi เครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว
แบบ DOHC รหัส QR25DE ให้แรงบิดสูงสุดที่ 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มีกำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
ดีไซน์ภายนอก
ด้วยรูปโฉมภายนอกที่งามสง่า หรูหรา มีระดับ ยังมาพร้อมไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ ปรับระดับสูงต่ำอัตโนมัติ, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
ไฟตัดหมอกคู่หน้า, กระจกมองข้างปรับ และพับด้วยไฟฟ้า ปรับอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง และเชื่อมต่อกับระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่, กระจกมองพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED
ดีไซน์ภายใน
ในส่วนของดีไซน์ภายในนั้น เน้นใช้สีดำเป็นหลักทั้งในวัสดุหุ้มเบาะที่ทำจากหนังแท้ และวัสดุสังเคราะห์, ระบบควบคุม Cruise Control หน้าจอ 3D Display และเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
พร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์, หน้าจอแบบ 3 มิติ (3D Display), ปุ่ม ECO Mode, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push Start Button), ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start)
กุญจอัจฉริยะ (Intelligent Key) พร้อมเชื่อมต่อกับระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่, ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth),ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ (Navigation System)
หน้าจอสี (Color Screen) หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว เพิ่มเติมสนุทรียภาพด้วยระบบเครื่องเสียง BOSE Premium Audio System พร้อม Subwoofer และ Amplifier จำนวนลำโพง 9 ตัว
บททดสอบสมรรถนะ
ระหว่างการเดินทางไปยังปากน้ำปราณ เราสัมผัสได้ถึงสมรรถนะรถที่นุ่มนวล แม้สภาพการจราจรที่คับคั่ง เราก็ยังคงได้รับความสบายจากเบาะที่นั่งที่ทำให้ผู้นั่งรู้สึกสบาย ที่ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงจากลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง
ที่ทำให้การเดินทางระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตรเป็นเรื่องสบาย ๆ การขับขี่เราใช้ความเร็วเฉลี่ยที่ 120 -140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แม้สภาพถนนเส้นไปหัวหินนั่นอาจจะไม่เรียบมากนักเพราะมีการซ่อม และทำถนนเป็นช่วง
แต่ด้วยช่วงล่างของ นิสสัน เทียน่า ก็ตอบโจทย์ความนุ่มนวลบนพื้นผิวที่ขุรขระได้เป็นอย่างดี แถมให้ความมั่นใจในการขับขี่ทั้งทางตรง และทรงโค้ง แม้ใช้ความเร็วสูงก็ตาม
และอีกอย่างที่สัมผัสได้คือ ในเรื่องของเสียงรบกวนจากภายนอกไม่ว่าจะเป็นเสียงยาง หรือ เครื่องยนต์ ที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสารนั้นถือว่าเงียบทีเดียว
ระบบ Apple car play ก็สามารถช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างรถ และมือถือนั่นสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการรับโทรศัพท์ หรือ การเชื่อมเสียงเพลงจากมือถือเข้ากับรถได้อย่างสะดวกสบาย
ภายในห้องโดยสาร ด้านหลังค่อนข้างกว้างขวาง พร้อมทั้งพนักวางแขนด้านหลังที่มาพร้อมกับที่วางแก้วน้ำ ที่นั่งด้านหลังมีช่องแอร์ทำให้หมดปัญหาเรื่องความเย็นแอร์ไม่ทั่วถึงภายในห้องโดยสารไปได้เลย
กับระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ที่มีไว้ให้ ไม่ว่าเสียงเตือนเมื่อเราขับรถออกนอกเลน จากระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning) หรือ ขับรถชิดหน้ามากเกินไประบบจะส่งสัญญาณเตือน
พร้อมด้วยระบบกล้องรอบคันแบบ 360 องศาเชื่อมต่อกับหน้าจอแบบ 3 มิติ (3D Display) เป็นต้น ซึ่ง นิสสัน เทียน่า ก็เป็นรถซีดานขนาดใหญ่
ที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปลักษณ์ และสมรรถนะในการขับขี่ที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้ ไปถึงจุดหมายได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย
เมื่อถึงจุดหมายที่ปากน้ำปราณ
ซึ่งหลังจากถึงจุดหมายที่ปากน้ำปราณทางทีมสื่อมวลชน และคณะผู้บริหารบริษัทนิสสัน รวมไปถึงคณะอาจารย์ และนักศึกษาฯ ได้ร่วมกิจกรรมกับทางชาวบ้านที่นี่ โดยได้รับเกียรติจาก มร. ปีเตอร์ แกลลี ได้กล่าวเปิดงาน
และต้อนรับชาวชุมชนปากน้ำปราณที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งน้อง ๆ นักศึกษาได้นำผลงานการออกแบบผลิตถัณฑ์มาแนะนำ อธิบายที่มาและที่ไปของผลงานนั้น และได้จัดโต๊ะร่วมเวิร์คช็อปกับคนในชุมชน โดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่มตามชิ้นของผลงานของน้อง ๆ ในครั้งนี้
กลุ่มแรก กระถางอนุบาลต้นไม้
นำกากมะพร้าว และเศษใบสน หรือ เศษวัสดุธรรมชาติต่าง ๆ เป็นวัสดุหลักมาผลิตเป็นกระถางต้นไม้ที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยตนเอง
และสามารถนำลงกระถางได้เลยซึ่งสามารถย่อยสลายได้ 100% ต้นทุนถูก ขั้นตอนไม่ซับซ้อน สามารถใช้งานได้จริง
กลุ่มที่สอง แจกันฟรีฟอร์ม
วัสดุหลักที่ใช้คือ ขวดแก้ว ที่นำมาทำเป็นแจกัน และใช้เชือกรีไซเคิลจากพลาสติก (PE) แนวคิดการดีไซน์เกิดจาการสานเชือก PE ให้เป็นลายต่าง ๆ
เพราะฉะนั้นการออกแบบในการสานเชือกเราสามารถเปลี่ยนแปลง หรือ พัฒนาลวดลายต่อยอดผลงานได้ต่อไปอีก
กลุ่มที่สาม กระเป๋าถัก (Eco macrame bag)
เราใช้เศษถุงพลาสติกที่ใช้แล้ว เป็นตัวหลักในการทำผลิตภัณฑ์ โดยนำถุงพลาสติกมารีไซเคิลให้เป็นเชือก PE และใช้ตัวหนังแท้บุด้านในเพื่อความสวยงาม
เชือก PE ที่เราได้มานั้น เรานำมาถักในรูปแบบ Macrame คือ การถักโดยใช้มือ และเอาแบบของอวนมาเป็นลวดลายให้สื่อถึงการประมงของชุมชนปากน้ำปราณ
กลุ่มที่สี่ รองเท้าแตะ (Re-Pran shoes)
การนำขวดพลาสติกที่ได้มารีไซเคิลเป็นเชือก PE และพื้นรองเท้า นำเชือก PE มาถักเป็สายคาดรองเท้า และมาเย็บติดกับพื้นรองเท้า การออกแบบการถัก การดีไซน์ต่าง ๆ
สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ หลายสี ตามสีของเชือก PE เป็นรองเท้าแฟชั่น ช่วยลดปริมาณขยะ และสร้างรายได้ให้ชุมชน
กลุ่มที่ห้า กระเป๋ากะลา (COCHELL)
วัสดุหลักที่ใช้คือ กะลามะพร้าว และเชือกจากแหอวน โดยการนำกะละมะพร้าวมาตัดให้เป็น pattern ที่ออกแบบไว้ แล้วนำมาขัดด้วยกระดาษทราย เจาะรูด้านละ 3 รู
และนำไปทาแล็กเกอร์ เย็บกะละให้ติดกันตามรูปแบบกระเป๋าที่ออกแบบ ขึ้นรูปให้เป็นทรง นำไม้ไผ่มาตัด และทำเป็นที่หิ้ว เย็บติดกับตัวกระเป๋า รูปทรงของกระเป๋า และลวดลาย
การจัดวางของกะลา สามารถออกแบบดีไซน์ได้อีกหลายรูปแบบ เป็นการนำกะลามะพร้าวที่หาได้ง่ายในชุมชน มาต่อยอดทำเป็นกระเป๋าซึ่งสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างแท้จริง
กลุ่มที่หก โคมไฟ (Aquamarine)
วัสดุหลัก ๆ ที่นำมาใช้คือ อวน เครื่องมือจับปลาที่ถักเป็นตาข่ายผืนยาว ทีชำรุด หาได้ง่ายในชุมชนปากน้ำปราณ โดยการนำอวนที่ได้ผ่านกระบวนการ การผ่านความร้อน การรีด
การขึ้นฟอร์ม ผูก มัด เป็นรูปแบบต่าง ๆ และนำชุดหลอดไฟ และสายไฟมาติด สามารถนำไปใช้เป็นโคมไฟประดับบ้าน ร้านอาหาร หรือ โรงแรม
จบกิจกรรมการเวิร์คช๊อป
เมื่อจบกิจกรรมการเวิร์คช๊อปในครั้งนี้ มร. ปีเตอร์ แกลลี กล่าวขอบคุณ กับคนในชุมชนที่ได้ให้ความสนใจ และได้ร่วมทำกิจกกรรมในครั้งนี้ และทาง นิสสัน เองก็มีแผนโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” ปีที่ 3 อย่างต่อเนื่อง
เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงได้ทำนุบำรุงประเทศชาติ และราษฎรมา ตลอดทุกรัชสมัย และเพื่อสร้างสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่สมบูรณ์มากขึ้นต่อไปในอนาคตต่อไป
- ขอขอบคุณ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้ชวนมาร่วมทำกิจกรรมในโครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ” (Honor The King’s Legacy) ปี 2 ณ ปากน้ำปราณ จ.ประจวบคีรีขันธ์