รีวิว ทดสอบรถ ใหม่ล่าสุด (22/03/19) Suzuki Ertiga GX อีกหนึ่งรถ 7 ที่นั่งเอนกประสงค์ที่คุ้มค่า ด้วยราคาช่วงเปิดตัว 695,000 บาท สำหรับรุ่น GX
รีวิว ทดสอบรถ (22/03/19) Suzuki Ertiga GX อีกหนึ่งรถ 7 ที่นั่งเอนกประสงค์ที่คุ้มค่า
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
อีกค่ายรถที่น่าสนใจ ด้วยการทำตลาดด้วยรถเล็กที่มีความคุ้มค่าที่ทำยอดขายถล่มทลายมาแล้วใน Suzuki Swift ล่าสุด
ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) ได้เปิดตัวอีกทางเลือกด้วยรถเอนกประสงค์ประเภท MPV รุ่นใหม่
เออร์ติก้า เจเนอเรชันที่ 2 เด่นด้วยโครงสร้างตัวถังใหม่ HEARTECT เบา และแข็งแกร่ง เครื่องยนต์ใหม่ขยับพิกัดเป็น 1,500 ซีซี
มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่ใหม่หมด เน้นความโฉบเฉี่ยวทันสมัย คุ้มค่าด้วยราคาช่วงเปิดตัว 695,000 บาท สำหรับรุ่น GX
Suzuki Ertiga
Suzuki Ertiga รถเอนกประสงค์ 7 ที่นั่ง เปลี่ยนโฉมทันสมัยขึ้น โคมไฟหน้าพื้นดำ แบบโปรเจคเตอร์ พร้อมชุดไฟส่องสว่างแบบฮาโลเจน กระจังหน้าโครเมียม เข้าชุดกับคิ้วระหว่างไฟท้าย
และที่เปิดประตู ที่เป็นสีโครเมียมเช่นกัน ไฟท้าย LED ในรุ่น GX ไฟเบรกเป็นเส้นแนวตั้ง ตัวรถใหญ่กว่ารุ่นเดิมในทุกมิติ ห้องโดยสารจึงกว้างขวางขึ้น แต่น้ำหนักตัวรถกลับเบาลงถึง 50 กิโลกรัม
ด้วยโครงสร้างตัวถังใหม่ HEARTECT ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่ง ภายในเน้นเป็นสีดำ เพื่อให้ดูแลรักษาง่าย และสีดำค่อนข้างเป็นที่นิยมในกลุ่มคนใช้รถมากกว่า โดยเบาะผู้ขับปรับสูง-ต่ำได้ 60 มิลลิเมตร
พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้ 40 มิลลิเมตร เบาะแถว 2 ออกแบบใหม่ พับได้ง่ายด้วยระบบ One Touch มีคันโยกด้านหลังพนักพิง เพียงดึงคันโยกพนักพิงจะพับไปด้านหน้า และตัวเบาะนั่งจะเลื่อนไปด้านหน้า
เปิดพื้นที่ 240 มิลลิเมตร เพื่อให้เข้าไปนั่งบนเบาะแถว 3 ได้ง่ายขึ้น พนักพิงเบาะแถว 2 แยกพับได้แบบ 60:40 ส่วนเบาะแถว 3 พับได้ 50:50 และพับได้ราบเรียบกว่าเดิม
จากการขยายฐานล้อยาวขึ้น 130 มิลลิเมตร ส่งผลให้เบาะแถว 3 มีระยะวางขาเพิ่มขึ้น 70 มิลลิเมตร โดยไม่รบกวนพื้นที่ของเบาะแถว 2 และที่เก็บของด้านหลังมีระยะเพิ่ม 90 มิลลิเมตร ประตูทั้ง 4 บาน
ออกแบบให้เปิดได้เป็นจังหวะ หรือ Door Open Stoppers เพิ่มความสะดวกเมื่อต้องจอดในที่แคบ ประตูคู่หน้าเปิดได้ 3 ระดับคือ 31, 49 และ 66 องศา
ส่วนด้านหลังเปิดได้ 27,48 และ 67 องศา และเมื่อเปิดกว้างสุด ประตูบานหลังจะมีช่องกว้าง 925 มิลลิเมตร เพิ่มความสะดวกในการเข้า-ออก
เพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่ นอกจากเบาะแถว 2 และ 3 ที่สามารถพับได้ราบแล้ว เมื่อเปิดประตูบานท้ายขึ้นสุด ช่องประตูจะมีความกว้าง 980 มิลลิเมตร สูง 850 มิลลิเมตร ลึก 440 มิลลิเมตร
พื้นห้องเก็บสัมภาระแบบ 2 ชั้น มีความลึก 170 มิลลิเมตร ขอบล่างของห้องเก็บสัมภาระสูงจากพื้น 715 มิลลิเมตร ประตูบานท้ายแบบเปิดขึ้นบน เปิดแล้วสูง 1,840 มิลลิเมตร
ถ้าผู้ใช้งานมีความสูงไม่เกิน 175 เซนติเมตร ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหัวโขกประตู เมื่อใช้งานเบาะทั้ง 2 แถว ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายจะมีความจุ 199 ลิตร และเมื่อพับเบาะแถว 3 จะเพิ่มความลึกเป็น 1,080 มิลลิเมตร รองรับสัมภาระที่มีขนาดใหญ่ได้สบาย
อุปกรณ์มาตรฐานที่เด่น ๆ ก็เช่น กุญแจรีโมทแบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start ชุดมาตรวัดสามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ได้ ทั้งการเปิด-ปิดเสียงเตือนเมื่อกดรีโมท
เปิด-ปิดระบบไฟเลี้ยว 3 ครั้ง และเปิด-ปิดเสียงแตรกันขโมย มีเซ็นเซอร์ถอยหลัง เตือนเสียงยาวเมื่อระยะห่างเหลือ 60 เซนติเมตร
สามารถเปิด-ปิดได้ ระบบความปลอดภัยมีแอร์แบ็คคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบรั้งกลับอัตโนมัติ พร้อมจุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก
ขุมพลัง Suzuki Ertiga
ส่วนของเครื่องยนต์มีการขยายจาก 1.4 ลิตรเป็น 1.5 ลิตร พัฒนาจากบล็อกหลักรหัส K เปลี่ยนเสื้อสูบ และฝาสูบใหม่ ปรับอัตราส่วนการอัด ทำให้ได้แรงม้าที่มากขึ้น
โดยมีกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ในรุ่นก่อนจะมีเพียง 92 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ในส่วนของแรงบิดเพิ่มขึ้นมานิดหน่อย
แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที รุ่นเดิม 130 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ซึ่งยังคงรองรับแก๊สโซฮอล์ E20
บททดสอบสมรรถนะ
ในการทดสอบค่อนข้างประทับใจกับอัตราเร่งในรอบต้น และรอบกลางตอบสนองได้อย่างทันใจกว่าที่คิด ถ้าเทียบกับในรุ่นก่อนก็ถือว่าดีกว่าทีเดียว การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารถือว่าเป็นอีกจุดเด่นของรถ
พวงมาลัยให้น้ำหนักได้อย่างแม่นยำ และเฉียบคมไม่น้อย การตกแต่งโดยรวมถือว่าทำได้ดีเกินราคา ทั้งคุณภาพวัสดุ และการออกแบบ ตัวเครื่องเล่นวิทยุที่มากับรถอาจจะไม่ถูกใจนัก อาจจะเป็นด้วยเรื่องของการทำราคา
แต่ลองย้ายไปนั่งเบาะแถว 2 พบว่าแอร์บนเพดานทำงานได้ดี ส่งต่อความเย็นจากด้านหน้ามาอย่างทั่วถึง เย็นสบายทั้งที่รถไม่ได้ติดฟิล์ม และแดดค่อนข้างแรง เบาะแถว 2 เน้นความหนานุ่ม นั่งสบาย
เบาะนั่งมีความยาวรองรับต้นขาได้ดีกับความสูง 180 เซนติเมตร ก็ยังคงนั่งได้สบายอยู่ แต่แอบติจุดยึดเข็มขัดนริภัยจากเบาะหน้า
จุดยึดมันเปลือยทำให้คนนั่งแถวสองเท้ามักจะเผลอไปเหยียบที่สายเข็มขัดนริภัย ทำให้เข็มขัดไปกระตุกผู้นั่งด้านหน้า ถ้ามีแผ่นปิดให้มิดชิดจะดีมาก
ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง ให้ความรู้สึกแบบแน่น ๆ ไม่ถึงกับนุ่มมากนัก เหมือนตั้งใจไว้เผื่อต้องขนน้ำหนักที่มาก ใช้ความเร็วสูงบนทางตรง
และโค้งกว้างได้อย่างมั่นใจ ควบคุมง่าย หนักแน่นและไม่โคลงมาก ลองย้ายไปนั่งเบาะแถว 2 ในช่วงถนนที่คดโค้ง ก็ไม่รู้สึกว่าถูกเหวี่ยง หรือ เวียนหัว พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีการแปรผันการผ่อนแรงที่ชัดเจน
ถ้าเพิ่มความหนืดที่ความเร็วสูงอีกนิดก็จะดี การตอบสนองอยู่ในระดับกลาง ๆ เน้นควบคุมง่าย รัศมีวงเลี้ยว 5.2 เมตร เท่ารุ่นเดิม มาพร้อมตัวช่วยอย่าง ABS, EBD และ BA
และระบบ Hill Hold Control เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะหน่วงแรงเบรกให้ประมาณ 4 วินาที เพื่อให้ออกตัวบนทางลาดชันได้โดยรถไม่ไหลถอยหลัง
ระบบเบรกจะเป็นหน้าดิสก์ หลังเป็นดรัมเบรก แต่ก็สามารถเบรกได้อย่างใจทีเดียว ด้วยราคาที่น่าสนใจเพียง 655,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ 695,000 บาท สำหรับรุ่น GX
บทสรุป
Suzuki Ertiga GX เจเนอเรชันที่ 2 รถเอนกประสงค์ประเภท MPV รุ่นใหม่ เด่นด้วยโครงสร้างตัวถังใหม่ HEARTECT เบา และแข็งแกร่ง
มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่ใหม่หมด เน้นความโฉบเฉี่ยวทันสมัย คุ้มค่าด้วยราคาช่วงเปิดตัว 655,000 บาท สำหรับรุ่น GL และ 695,000 บาท สำหรับรุ่น GX
ขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พัฒนาจากบล็อกหลักรหัส K เปลี่ยนเสื้อสูบ และฝาสูบใหม่ ปรับอัตราส่วนการอัด ทำให้ได้แรงม้าที่มากขึ้น
โดยมีกำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที รองรับแก๊สโซฮอล์ E20
พบกับ Suzuki Ertiga GX พร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษ ได้ที่บูธ Suzuki ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 วันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ช่องทางติดต่อทางออนไลน์
ช่องทางติดต่อทาง Call Center
- โทรศัพท์พื้นฐาน โทร 1800-600-900
- โทรศัพท์เคลื่อนที่ โทร 1401-600-900