Breaking News

รีวิว ทดสอบรถ: Mini Clubman Cooper S

รีวิว ทดสอบรถ ใหม่ล่าสุด (18/04/19) Mini Clubman Cooper S โดย BMW Group ปลุกปั้น Mini Clubman ให้ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งสู่เวอร์ชั่นล่าสุด

Mini Clubman Cooper S

รีวิว ทดสอบรถ (18/04/19) Mini Clubman Cooper S รถเล็กสุดเร้าใจ

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

Mini Clubman Cooper S

“พูดถึงรถเล็กสุดเร้าใจในฝัน หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อ Mini รวมอยู่ด้วย ซึ่งถ้าไปไม่ถึงฝันอย่างเวอร์ชั่น JCW ระดับ Copper S ที่เกรี้ยวกราดไม่แพ้กันน่าจะก็เกินพอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติมเต็มความเร้าใจให้เหล่า “พ่อบ้าน” ด้วยการใส่เวอร์ชั่น Cooper S ลงไปในรุ่น Clubman ก็น่าจะทำให้แฟน ๆ รุ่นใหญ่ ยิ้มแก้มปริได้ไม่น้อย”

Mini Clubman Cooper S

ยนตรกรรมที่ต่อยอดมาจากเวอร์ชั่นคลาสสิคในปี 1969

Mini Clubman คือ ยนตรกรรมที่ต่อยอดมาจากเวอร์ชั่นคลาสสิคในปี 1969 ซึ่งไม่ได้ใช่ชื่อว่า Clubman แต่ว่ากันตรง ๆ ในชื่อ Estate

Mini Clubman Cooper S

อันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนถึงยุคเปลี่ยนถ่ายอำนาจการดูแลซึ่งตกมาอยู่ในมือของ BMW Group และปลุกปั้น Mini Clubman

ให้ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้งในโมเดลปี 08 ก่อนจะปรับปรุงใหม่สู่เวอร์ชั่นล่าสุดที่ออกจำหน่ายมาจนถึงปัจจุบัน

Mini Clubman Cooper S มี 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน

Mini Clubman Cooper S

โดย Mini Clubman Cooper S จะมี 2 เวอร์ชั่นด้วยกัน คือ เวอร์ชั่นมาตรฐาน และเวอร์ชั่นทรงเครื่องแบบ Hightrim สีแดง Pure Burgundy

ซึ่งอย่างที่บอกล่ะครับว่า “ทรงเครื่อง” ด้วยออพชั่นที่ “มากกว่า” อันเป็นสิ่งที่เราไม่ใช่ผู้ตัดสิน หากแต่เป็นผู้บริโภคที่อยากครอบครอง และควรเอาสเปคของ 2 รุ่นมาเทียบกัน

Mini Clubman Cooper S

เพื่อ “จัด” ความคุ้มค่า ชั่งตวงวัดจากส่วนต่างของ “ราคา” เพราะสำหรับเราคำว่า “Cooper S” นั้นมีความ “เหนือ” กว่า “ออพชั่น” แน่นอน

แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เรามาชมกันก่อนดีกว่าว่าความ “หล่อ” ของ Clubman นั้นมีอะไรบ้าง

ภายนอกห้องโดยสาร

Mini Clubman Cooper S

เริ่มต้นจากรูปลักษณ์ภายนอกในมุมมองด้านหน้าที่ยังรักษามาตรฐานงานดีไซน์ของ Mini อย่างดี โดยความ “สดใหม่” ที่แท้จริง จะอยู่บริเวณด้านหลัง เช่น

งานออกแบบไฟท้ายแนวนอนแบบ LED ที่คั่นกลางด้วยมือจับเปิดประตูท้ายสไตล์ “ตู้กับข้าว” พร้อมการประทับตัวอักษร Clubman อยู่ด้านล่าง โดยใต้ชุดไฟท้ายด้านซ้าย คือ โลโก้แบรนด์ Mini

Mini Clubman Cooper S

ในขณะที่ด้านใต้ไฟท้ายข้างขวาคือ ชื่อรุ่น Cooper S และมีด้านล่างสุดบริเวณ Diffuser กันชนหลังเป็นตำแหน่งชองชุดท่อไอเสียคู่ฝั่งละข้าง

นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมช่องระบายอากาศ Air Breather บริเวณหลังซุ้มล้อคู่หน้ามาเป็นครั้งแรก เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านอากาศพลศาสตร์

และยกระดับอารมณ์ความสปอร์ต ตลอดจนการระบายความร้อนของระบบเบรกที่ซุกอยู่เบื้องหลังล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้วอีกด้วย

Mini Clubman Cooper S

ภายในห้องโดยสาร

ด้ายภายในของห้องโดยสารนั้นต้องบอกว่ามีความกว้างขวาง สะดวกสบายเป็นจุดขายหลัก จากขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าพี่น้องในค่าย ที่เอื้ออำนวยให้ผู้โดยสารด้านหลังน่าจะนั่งได้สบายมากขึ้น

Mini Clubman Cooper S Mini Clubman Cooper S

รวมถึงการบรรทุกสัมภาระที่น่าจะประทับใจพ่อบ้าน แม่บ้าน ไม่น้อย ด้วยความจุระดับ 360 แบบไม่พับเบาะ ที่จะกลายเป็นขนาด 1,250 ลิตรได้เมื่อพับเบาะ

ส่วนด้านหน้าของห้องโดยสารนั้นยังมีอารมณ์ของความเป็น Mini ผ่านการปรับดีไซน์ให้มีความลงตัวกับความกว้างของมิติตัวรถ พร้อมด้วยการติดตั้งฟังก์ชันสำหรับการใช้งานแบบที่เราคุ้นเคยกันดี

Mini Clubman Cooper S Mini Clubman Cooper S

เช่น พวงมาลัยแบบมัลติฟังค์ชั่น ที่สามารถควบคุมเครื่องเสียง, โทรศัพท์, ระบบสั่งการด้วยเสียง ไปจนถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ฉะนั้นเราจึงไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้การใช้งานอะไรต่าง ๆ มากมาย

Mini Clubman Cooper S Mini Clubman Cooper S

บททดสอบสมรรถนะ

และเริ่มต้นที่จะสร้างความเร้าใจทันทีดีกว่า ด้วยการกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และเปลี่ยนโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือก 3 โหมด คือ Mid, Green และ Sport ซึ่งเราคงไม่ต้องบอกว่า “เลือก” แบบไหนใน 3 โหมดนี้

Mini Clubman Cooper S

เพราะด้วยศักดิ์ศรีระดับ Cooper S คงจะไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าโหมด Sport อีกแล้ว เพื่อให้เรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พ่วงระบบอัดอากาศ Twin Power Turbo

ทั้งหมด 192 แรงม้า และแรงบิด 280 นิวตันเมตร ที่มีให้ใช้ตั้งแต่ 1,250 รอบต่อนาที พร้อมฟังก์ชัน Overboost สนองความต้องการเราได้อย่างเต็มที่

Mini Clubman Cooper S

เราเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าออกจากฐานทัพ พบปะกับการจราจรที่ไม่คล่องตัวนัก จนเราอยากจะกลายร่างเป็นเจ้า Mini Hatch จอมซนที่ทีขนาดตัวกะทัดรัด มากกว่าการเป็นรถอเนกประสงค์อย่าง Clubman

แต่ดูเหมือนวิศวกรของ Mini จะเข้าใจอารมณ์ผู้ขับขี่ได้ดี เลยสร้างเจ้า Clubman Copper S ให้มีความสามารถเกินตัวกว่าที่คิด ด้วยการตอบสนองที่เร้าใจจากขุมพลัง

Mini Clubman Cooper S

และความฉับไวของพวงมาลัย ตลอดจนการถ่ายทอดกำลังของชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Steptronic ที่เป็นหัวใจหลักในการสร้างความคล่องตัวให้กับ Clubman

Mini ก็ยังคงเป็น Mini ที่มีคาแร็คเตอร์อันชัดเจนในสไตล์การขับขี่

Mini Clubman Cooper S

เรียกได้ว่า Mini ก็ยังคงเป็น Mini ที่มีคาแร็คเตอร์อันชัดเจนในสไตล์การขับขี่ ด้วยความกระชับ เฉียบคม เพื่อสร้างอรรถรสการขับขี่ที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่า “สนุก” โดยเฉพาะในโหมด Sport

นอกจากนี้ Clubman ยังสอดแทรกความนุ่มนวลเข้ามาเป็นส่วนประกอบ ดังจะสังเกตได้ว่าอารมณ์ของช่วงล่างที่เคย “ตึงตัง” นั้นถูกลดทอนลงไปอย่างเห็นได้ชัด

Mini Clubman Cooper S Mini Clubman Cooper S

โดยเฉพาะเมื่อได้ลองขับขี่กับโหมด Mid หรือ โหมด Green รวมไปถึงโหมด Sport ที่คุณก็สามารถรู้สึกได้เช่นกันหากเป็นคนที่ผ่านมือ Mini มาบ่อยพอสมควร

ฉะนั้นบอกได้เลยว่า Clubman คือ Mini อีกหนึ่งรุ่นที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ดีจากอารมณ์ที่ “ขับสบาย” ไม่ “เฉพาะ” จนเกินไป อีกทั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด

Mini Clubman Cooper S

ที่มีการส่งต่อกำลังอย่างราบรื่นก็ทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความเร้าใจในอัตราเร่งสไตล์ Cooper S ตลอดจนบุคลิกการเป็นรถครอบครัวที่ให้ “ความสบาย”

ในการเดินทางอันยอดเยี่ยม และให้ความมั่นใจได้ดี จนเราเองยังติดใจ และเผลอไผลไปกับการขับขี่ในความเร็วปกติวิสัยตามสภาพการจราจร ทั้งในเมือง และนอกเมืองอยู่เกือบค่อนวัน

Mini Clubman Cooper S

ก่อนที่จะรู้สึกตัวว่ายังขาดอะไรไปอย่าง ซึ่งนั่นคือ การเมามันส์ในคันเร่งตามสไตล์เรา ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงเวลารถติดของชาวกรุง ว่าแล้วเราก็เบนหัวออกนอกเมืองอย่างด่วน

ไหลไปตามการจราจรที่แน่นหนา และค่อย ๆ เจือจางลง ให้เราใช้คันเร่งได้อย่างเต็มเหนี่ยวมากขึ้น จากความเร็วเดินทางปกติที่ 120-130 กม./ชม. แค่กระแทกคันเร่งเพียงครั้ง

Mini Clubman Cooper S

เจ้า Clubman Copper S ก็เหมือนปลาได้น้ำ นำเสนอความกระปรี้กระเปร่า จนเร่าร้อน ด้วยพละกำลังที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และรุนแรง ชนิดที่สาวก Cooper S ทั้งหลายน่าจะรู้จักกันดี

อรรถรสความสนุกขณะล้อเล่นอยู่กับโค้ง

Mini Clubman Cooper S

ในขณะที่อีกหนึ่งความมันส์ที่พลาดไม่ได้ในการ “หวด” Mini เวอร์ชั่น Cooper S ก็คือ อรรถรสความสนุกขณะล้อเล่นอยู่กับโค้ง ซึ่งคุณจะได้รับรู้ถึงความยอดเยี่ยมโดยรวม

ตั้งแต่พละกำลัง และทีเด็ดสุด ๆ ก็คือ น้ำหนักของพวงมาลัยที่ให้น้ำหนักอย่างเหมาะสมกับระดับความเร็วที่ใช้ โดยเฉพาะบนความเร็วสูง ตลอดจนความสามารถของช่วงล่างที่หนักแน่นสไตล์ยุโรป

Mini Clubman Cooper S

ที่มีความนุ่มนวลผสมผสานในความเร็วต่ำ และแปรผันสู่ความสปอร์ตที่มีการยึดเกาะถนนดีเยี่ยมตามมาตรฐาน ซึ่งในภาพรวมมันอาจจะไม่ได้เร้าใจในระดับเทียบเท่าเวอร์ชั่น Hatch ทั้งจากด้วยขนาด และน้ำหนัก

บทสรุป

Mini Clubman Cooper S

แต่เชื่อเถอะว่าทุกองค์ประกอบที่รวมกัน มันยังคงทำให้ Mini Clubman Copper S เป็นยนตรกรรมที่รักษามาตรฐานความเป็น Mini

และความเป็น Cooper S ไว้ได้อย่างดี และทั้งหมดนั่นแหละ คือ “เสน่ห์” อันหาตัวจับยากที่ “สาวก” ทั่วโลกต่างหลงใหล ซึ่งเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

Specification: Mini Clubman Cooper S

Mini Clubman Cooper S

  • Price: 3,348,000 BHT
  • Engine: 1,998 cc / 4-cylinder / 16-valves / Twin Power Turbo 192 hp @ 5,000 rpm, 280 Nm @ 1,250 rpm
  • Transmission: A/T 8-Speed, Front Wheel Drive
  • Performance: 0 – 100 Km/h @ 7.1 Sec, Top Speed @ 228 Km/h
  • Weight: 1,465 Kg.

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …