ข่าวสด รถยนต์ วันนี้ (19/03/19) เปิดตัว All-new Honda Accord เจเนอเรชันที่ 10 เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda SENSING”
ข่าวสด (19/03/19) เปิดตัว All-new Honda Accord เจเนอเรชันที่ 10
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นรถยนต์ที่สำคัญรุ่นหนึ่งของฮอนด้า
ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลกรวมถึงลูกค้าชาวไทย และได้ทำการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึงเจเนอเรชันที่ 9 โดย ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นรถยนต์ที่เป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยียนตรกรรมใหม่ ๆ
เข้าสู่ตลาดเพื่อต่อยอดการพัฒนายนตรกรรมเสมอมา ในปัจจุบันโลก และเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และไม่หยุดนิ่ง ครั้งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนายนตรกรรมให้เหนือระดับไปอีกขั้น
เพื่อก้าวนำเทคโนโลยี ด้วยการก้าวข้ามข้อจำกัด และท้าทายความเชื่อแบบเดิม ๆ ครั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชันที่ 10 จะยังความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแห่งยนตรกรรมยุคใหม่
ทั้งเทคโนโลยีการขับเคลื่อน และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย พร้อมถ่ายทอดจิตวิญญาณความสปอร์ตพรีเมียมผ่านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อพาคุณสัมผัสโลกบทใหม่แห่งยนตรกรรม”
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่
- 1.5 VTEC TURBO HI-POWER 190 PS
เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิด 243 นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยี Direct Injection
ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง และ Turbocharger ที่ช่วยอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว
ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้สมรรถนะการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร และให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร
ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม โดยเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85 ได้อีกด้วย
- SPORT HYBRID i-MMD Intelligent Multi-Mode Drive
ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร
Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง 2 ตัว พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ถึง 215 แรงม้า สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างอัจฉริยะ เพื่อตอบสนองทุกการขับขี่ ได้แก่
- โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
- โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
- โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์ เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสอารมณ์การขับขี่ในสไตล์สปอร์ตที่สนุกสนานเร้าใจ
โดยระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง และอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร
อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 97 กรัม/กิโลเมตร สู่อีกระดับของเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
ที่ผสานการทำงานของเรดาร์ และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนน ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่ และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ซึ่งมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ประกอบด้วย
- ระบบเตือนการชนรถ และคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยอันล้ำสมัยระดับพรีเมียม อาทิ
- ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ด้วยเสียง และสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอ เมื่อมีรถยนต์คันอื่นขับสวนเข้ามาทางด้านซ้ายหรือขวาขณะรถถอย
- ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) จะทำงานผ่านกล้องที่ติดตั้ง 4 จุดรอบคัน (ด้านหน้า หลัง ซ้าย และขวา) สามารถแสดงภาพได้ครบทุกมุมมอง รวมถึงภาพจำลองจากมุมสูงเพื่อให้เห็นทุกทิศทางรอบคัน ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างชัดเจน
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
- ระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System)
- ระบบจะช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ โดยเพียงแค่เดินหน้า หรือ ถอยหลังไปตามคำแนะนำ และตามตำแหน่งบนหน้าจอ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ทั้งการจอดรถแนวขนาน และการถอยหลังเข้าจอดได้อย่างง่ายดาย เป็นต้น
ดีไซน์ภายนอก
ผสานความหรูหราสง่างามกับความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว ผ่านการออกแบบที่เรียบหรูแต่ประณีตในทุกรายละเอียด ด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียว และเฉียบคม สะท้อนความสปอร์ตพรีเมียมอย่างเหนือระดับ
มาพร้อมกระจังหน้าโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED
โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยไฟท้ายดีไซน์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ แบบ LED พร้อมด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ตขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเทอร์โบ และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นไฮบริด
ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร
อีกขั้นของดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ผสมผสานความความสปอร์ตพรีเมียมได้อย่างลงตัว ผ่านการใช้โครงสร้างเส้นสายในแนวนอน
เพื่อทำให้บริเวณคอนโซลกลางโปร่งโล่ง และส่งผลให้มีพื้นที่ช่วงขามากขึ้น อีกทั้งมอบทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบายด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมียม อาทิ
- ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD) มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
- ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay
- ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
- ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start) เป็นต้น
ซึ่งครั้งนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ได้รับการพัฒนาในเรื่องความเงียบภายในห้องโดยสารไปอีกขั้น เพื่อมอบสุนทรียภาพในทุกการเดินทางอย่างเหนือระดับยิ่งขึ้น
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่
- สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก)
- สีดำคริสตัล (มุก)
- สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก)
- สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก)
มาพร้อมสีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่
- สีไอวอรี่เบจ
- สีดำ
- สีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH)
***ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก
โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น HYBRID TECH ราคาไม่เกิน 1,800,000 บาท
- รุ่น HYBRID ราคาไม่เกิน 1,650,000 บาท
- รุ่น TURBO EL ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท
***ทางฮอนด้า จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ในเดือนพฤษภาคม 2562
หมายเหตุ:
- อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
- สีภายในแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
- สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
บทสรุป
All-new Honda Accord เจเนอเรชันที่ 10 เปิดโลกใหม่แห่งยนตรกรรม ชูเทคโนโลยีการขับเคลื่อน และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย
2 ขุมพลังขับเคลื่อน ทั้งขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO 190 แรงม้า และระบบ Sport Hybrid i-MMD
เหนือระดับด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียมครบครัน ประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย ในเดือนพฤษภาคม 2562
ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัสรถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 40 ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 นี้ ณ บูธ A9 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี
โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และสำรองสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ ก่อนใครได้ภายในงาน หรือ ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ หรือ www.honda.co.th/accord