Breaking News

Porsche Wet Mode เสถียรภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม แม้บนเส้นทางเปียกลื่น

The new Porsche 911 ที่สุดแห่งศักยภาพความปลอดภัยในการขับขี่ด้วย Porsche Wet Mode เสถียรภาพการขับขี่อันยอดเยี่ยม แม้บนเส้นทางเปียกลื่น

YouTube : AAS Auto Service Porsche Thailand

ข่าว Porsche ก่อนนี้

 

ข่าวสด รถยนต์ The new Porsche 911 ที่สุดแห่งศักยภาพความปลอดภัยในการขับขี่

สตุ๊ทการ์ท. ทายาทลำดับที่ 8 เจเนอเรชั่นล่าสุดของปอร์เช่ 911 ไม่ได้มีเพียงพละกำลังมหาศาลที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ยังคงพกพาความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่เหนือขึ้นไปอีกขั้นด้วย Porsche Wet Mode, ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง นวัตกรรมล้ำเลิศทางวิศวกรรมยานยนต์ที่มาพร้อมยนตรกรรมสปอร์ตคัน

พร้อมส่งมอบประสิทธิภาพการขับขี่ และบังคับควบคุมอันเฉียบคมอย่างน่าอัศจรรย์แม้บนถนนที่เปียกลื่น – ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรก ของโลก พิเศษสุดสำหรับ Porsche 911 ด้วยการรวมฟังก์ชันการทำงานที่สามารถตรวจสอบสภาพเส้น ทางที่มีน้ำขัง จากนั้นรถยนต์จะได้รับการปรับตั้งค่าการตอบสนองเพื่อรองรับการขับขี่และเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวสูงสุด แม้บนพื้นผิวที่เจิ่งนองหรือเปียกลื่นไปด้วยน้ำ

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ

เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download free ที่นี้

กระบวนการทำงานของ Porsche Wet Mode

The new Porsche 911

Wet Mode ได้รับการคิดค้นพัฒนาขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ ในสภาพการณ์ที่ต้องเผชิญกับพื้นถนน ที่เปียกลื่นการทำงานของระบบช่วยเหลือดังกล่าวไม่ได้เป็นการขวางกั้นพละกำลังมหาศาลของขุมพลังเครื่องยนต์และไม่ได้เป็น การจำกัดความเร็วสูงสุดแต่อย่างใด

สิ่งนี้ไม่ได้เป็นหลักประกันความปลอดภัยต่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินขอบเขต ในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยน้ำ แต่รับรองได้ว่านี่คือ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่สามารถเข้าถึงทุกประสาทสัมผัสของผู้ขับขี่ได้อย่างแท้จริง” ข้างต้นคือคำกล่าวของ August Achleitner หัวหน้าทีมพัฒนารถยนต์หลากรุ่นมาเป็นระยะเวลาหลายปี

The new Porsche 911

Porsche Wet Mode เปี่ยมไปด้วยความยอดเยี่ยมในการตรวจจับสภาพถนนที่เปียกลื่นโดยอัตโนมัติ และสามารถส่งสัญญาณไปยังผู้ขับขี่เพื่อให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการเหินน้ำ หรือ aquaplaning กระบวนการทำงานดังกล่าว เกิดขึ้นจากอุปกรณ์ acoustic sensors รับหน้าที่ในการตรวจจับปริมาณละอองน้ำที่ถูกสาดขึ้นมาบริเวณซุ้มล้อหน้า

โดยอาศัยหลักการที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง จากวิธีการทำงานของเซนเซอร์ปัดน้ำฝนกระจกบังลมหน้า หรือ windscreen wiper rain sensors ซึ่งตรวจสอบเพียงการสะท้อนแสงของหยดน้ำที่ตกกระทบลงบนผิวกระจก ไม่ได้สื่อถึงสภาพเส้นทางที่แท้จริงแต่อย่างใด เนื่องจากในสถานการณ์จริงอาจยังมีน้ำขังอยู่บนผิวทางแม้ว่าฝนจะหยุดตกไปแล้วก็ตาม

The new Porsche 911

ในกรณีที่ระบบตรวจพบผิวถนนที่เปียกลื่น พฤติกรรมในการตอบสนองของระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวด้วย อิเล็กทรอนิกส์ Porsche Stability Management (PSM) และระบบ Porsche Traction Management (PTM) จะได้รับการปรับตั้งการทำงานล่วงหน้าโดยทันทีทันใด

ระบบทั้ง 2 จะถูกเตรียมพร้อมและเพิ่มอัตราการตอบสนองที่รวด เร็วยิ่งขึ้นกว่าในสถานการณ์ปกติทั่วไป สัญญาณเตือนจะแสดงขึ้นบนหน้าจอฝั่งขวามือของมาตรวัดความเร็วรอบ เครื่องยนต์เพื่อให้ข้อมูลไปยังผู้ขับขี่ถึงสภาพถนนที่มีน้ำขัง และแนะนำให้เปลี่ยนรูปแบบการขับเป็น Wet Mode

โดยสามารถสั่งการฟังก์ชันดังกล่าวได้อย่างง่ายดายผ่านแผงสวิทช์ควบคุมบริเวณคอนโซลกลาง หรือ สั่งการผ่าน mode switch บนพวงมาลัยเมื่อติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package

ขณะที่ Wet mode กำลังทำงาน ระบบ PSM, PTM, ระบบอากาศพลศาสตร์, อุปกรณ์พิเศษ Porsche Torque Vectoring (PTV) Plus และการตอบสนองของตัวรถทั้งหมดจะได้รับการปรับไปยังเงื่อนไขที่พร้อมเพิ่มเติมเสถียรภาพการบังคับ ควบคุมสูงสุดที่ความเร็วตั้งแต่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

ชุดสปอยเลอร์หลังแบบปรับระดับอัตโนมัติจะถูกตั้งไว้ใน ตำแหน่งที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุด ครีบดักอากาศจะได้รับการเปิดออกจนสุด การตอบสนองของแป้นคันเร่งจะลดความไวลง และผู้ขับขี่จะไม่สามารถสั่งปิดการทำงานของระบบ PSM รวมทั้งไม่สามารถเลือกใช้ Sport mode แรงบิดที่ได้จากเครื่องยนต์จะถูกปรับแต่งให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนอัตราทดของชุดเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ PDK แปดจังหวะจะ เป็นไปอย่างราบเรียบเช่นเดียวกัน

The new Porsche 911

สำหรับ Porsche 911 Carrera 4S รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel-drive พละกำลังส่วนหนึ่งจะถูกถ่ายเทไปยังล้อขับเคลื่อนคู่หน้าด้วยอัตราส่วนที่มากกว่าปกติเพื่อผลในการ เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว สัดส่วนการจับตัวของเฟืองท้าย electronically controlled differential เป็นอีกหนึ่ง กรรมวิธีของ Porsche 911 ที่ได้รับการปรับสภาพเพื่อพร้อมรับมือกับเส้นทางเปียกลื่น

ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน: Porsche 911 ให้การบังคับควบคุมที่มั่นใจเต็มพิกัด คล่องแคล่ว และแม่นยำ เปี่ยมสมรรถนะแม้ในยามที่ต้องหักพวงมาลัยเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน รองรับการตอบสนองที่ สัมพันธ์กันอย่างสมดุลระหว่างพละกำลังที่เหมาะสม และสภาพพื้นผิวเส้นทางที่เกิดการเปลี่ยนแปลงสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานตลอดเวลา ระบบช่วยเหลือการขับขี่ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ไม่เพียงให้ความเชื่อมั่นบนถนนเปียกเท่านั้น แต่ Wet Mode ยังครอบคลุมถึงการใช้งานบนพื้นผิวที่ปกคลุมด้วยหิมะเช่นเดียวกัน

The new Porsche 911 ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่ Los Angeles เมื่อปลายเดือน พฤศจิกายน 2018 ประจำการด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จ The new Porsche 911 Carrera S และ The new 911 Carrera 4S ให้กำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ The new 911 ทั้ง 2 รุ่น สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลา ต่ำกว่า 4 วินาที: กล่าวคือ ในรุ่นตัวถังสปอร์ตคูเป้สองประตูขับเคลื่อนล้อหลังใช้ เวลาเพียง 3.7 วินาที และสำหรับ 911 Carrera 4S ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าเพียง 3.6 วินาทีเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที

Porsche 911 Carrera S และ Porsche 911 Carrera 4S เปิดรับคำสั่งซื้อแล้ววันนี้ รวมถึงโมเดล Cabriolet ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับภาษีมูลค่าเพิ่มและอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศ

ทั้งนี้ Porsche Wet Mode จะได้รับการติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรญานใน The new Porsche 911 ทุกรุ่น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ปอร์เช่ เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Porsche-banner

Check Also

Embrace the future with AVATR 11 2024

“อินฟินิท ออโตโมบิล” ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมี่ยมแบรนด์ “AVATR” ล็อตแรกถึงมือลูกค้า พร้อมบริการสุดไฮคลาสเต็มรูปแบบ!!

สร้างกระแสความตื่นเต้นให้วงการรถยนต์ไฟฟ้าหรูเป็นอย่างมาก เมื่อ บริษัท อินฟินิท ออโตโมบิล จำกัด บริษัทในเครือเอเอเอส กรุ๊ป จัดงานฉลองการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมแบรนด์ AVATR ให้ลูกค้าล็อตแรก ภายใต้ชื่องาน “Embrace the future …