รีวิว ทดสอบรถ ใหม่ล่าสุด (5/03/19) Toyota Camry Hybrid 2.5HV Premium มาพร้อมด้วยความเหนือชั้นแห่งเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change”
รีวิว ทดสอบรถ (5/03/19) Toyota Camry Hybrid 2.5HV Premium
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
Toyota Camry สำหรับตลาดเมืองไทยนั้นถือได้ว่าเป็นยนตรกรรมเรือธง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงนับตั้งแต่เปิดตัวในเมืองไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งรวมไปถึงการส่งต่อสู่ยนตรกรรมรุ่นใหม่ ๆ
ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง จนในปี พ.ศ. 2552 ค่าย Toyota ได้ทำเซอร์ไพรส์ให้กับชาวไทย ด้วยการเป็นผู้ “บุกเบิก” อย่างจริงจังในเรื่องของยนตรกรรมระบบไฮบริด
จนทำให้โมเดล Toyota Camry ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และล่าสุด Toyota Camry โมเดลใหม่ ก็ถูกเปิดตัวขึ้น พร้อมด้วยความเหนือชั้นแห่งเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change”
หรือ “ปรากฎการณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่” เพื่อยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ลองตามไปดูทีละส่วนดีกว่า เริ่มจากงานดีไซน์ ที่เรียกว่า Sensual-Smart Confidence
เน้นความสะดุดตาด้วยการผสมผสานอารมณ์สปอร์ต และหรูหรา ผ่านเส้นสายคมชัด ที่ดูไปดูมาแล้วรู้สึกคุ้นตา เพราะความละม้ายคล้ายคลึงกับน้องชายคนกลางอย่าง Vios ไม่น้อย
เพียงแต่มันดูหล่อเหลากว่าเมื่อเส้นสายงานดีไซน์ ถูกวางตัวใหม่บนขนาดตัวถังแบบ Midsize Sedan กับความยาว 4,885มม. ความกว้าง 1,840 มม. ความสูง 1,445 มม. และระยะฐานล้อ 2,825 มม.
แถมยังมีองค์ประกอบเสริมความโดดเด่น เช่น ชุดไฟหน้าแบบ LED ที่มาพร้อมไฟ Daytime Running Light, ไฟตัดหมอกหน้า และไฟเลี้ยวแบบ LED ใหม่
ตลอดจนชุดไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์สุดหรู ไปจนถึงการติดตั้งหลังคา Moonroof มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ภายในห้องโดยสาร
ด้านในห้องโดยสารถูกเติมเต็มความเหนือระดับเต็มขั้น ตั้งแต่การเลือกใช้กระจกบังลมหน้าแบบ Acoustic High Solar Energy Absorb Glass เพื่อเพิ่มความเงียบสงบ
รวมถึงป้องกันแสงแดดได้อีกด้วยเช่นกัน และด้วยฐานะของยนตรกรรมระดับ “เรือธง” คงไม่ต้องสงสัยเรื่องออฟชั่นอำนวยความสะดวกสบาย เพราะ Toyota ใส่มาให้ไม่ยั้ง โดยถ้าว่ากันไปตามลิสต์
คงเรียกได้ว่าเกือบเทียบชั้นยนตรกรรมระดับยุโรป ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบเปิดประตูอัจฉริยะที่มากับฟังก์ชั่นการควบคุมการล็อก – ปลดล็อกประตู และที่เก็บสัมภาระท้าย
ตามมาด้วยระบบสตาร์ทอัจฉริยะ และระบบปรับอากาศแยกอิสระ 3 โซน ซ้าย-ขวา และด้านหลัง พร้อมระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร Nanoe รวมไปถึงเบาะนั่งคู่หน้าแบบ Seat Ventilator อันแสนฉลาด
ด้วยความสามารถในการปรับระดับได้ถึง 8 ทิศทาง แถมระบบปรับดันหลังไฟฟ้า, พัดลมใต้เบาะ และพนักพิง ทั้งยังสามารถบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ กระจกมองข้าง และพวงมาลัย ได้อีกด้วย
ขณะเดียวกันในตำแหน่งผู้ขับขี่ ก็มีมาตรวัดเรืองแสง Optitron ที่มากับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับแสดงสถานะการทำงานของระบบต่าง ๆ
รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้าแบบ Head Up Display พร้อมด้วยพวงมาลัยที่มากับปุ่มควบคุมเครื่องเสียง, จอแสดงข้อมูลการขับขี่ และแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift
สำหรับผู้โดยสารด้านหลังก็สบายไม่แพ้กัน จากเบาะนั่งแบบ Reclining Rear Seat ที่ปรับเอนได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมแผงควบคุมหน้าจอสัมผัสแบบดิจิตอล ไปจนถึงม่านบังแดดไฟฟ้ากระจกหลัง ที่สามารถลดระดับอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอย เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
ระบบความบันเทิง
ด้านระบบความบันเทิงก็น่าสนใจไม่น้อย ด้วยชุดเครื่องเสียงจาก JBL พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง และหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ DVD, การเชื่อมต่อด้วย USB ด้านหลัง 2 ช่อง และอุปกรณ์ชาร์จไฟไร้สายแบบ Qi ที่เพียงวาง สมาร์ทโฟน หรือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนถาดชาร์จเท่านั้น
ระบบ T-Connect Telematics
อีกหนึ่งความ “เจ๋ง” ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ เรื่องของระบบ T-Connect Telematics ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว และควบคุมได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นหลัก ๆ
เช่น Geo-Fencing แจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณที่กำหนด, Find My Car เช็คตำแหน่งรถผ่านแอพพลิเคชั่น, Parking Alert แจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือ เคลื่อนที่
Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อถูกโจรกรรม ไหนจะฟังก์ชั่น OPS (Operator Service) ที่ทำให้การเดินทาง และการใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย
เช่น Navigator ระบบนำทางพร้อมแสดงข้อมูลจราจร ด้วยผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชม., บริการจองร้านอาหารชั้นนำ, SOS Emergency Service ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม.,
Pay As You Drive การบริการเกี่ยวกับเรื่องประกันภัย อย่างการ “ขับน้อย จ่ายน้อย” แล้วก็ระบบ My Toyota Wi-Fi ที่สามารถเชื่อมต่อทุกความบันเทิงได้พร้อมกันสูงสุดถึง 9 อุปกรณ์ ที่น่าจะถูกคนในวัย “สังคมก้มหน้า” ไม่น้อย
Toyota New Global Architecture
ประเด็น คือ ออฟชั่นเพียบ, ดีไซน์คม ยังไม่ใช่ส่วนผสมที่ทำให้เกิดการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในเรื่องของ “สมรรถนะ” หากแต่เป็นเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ในชื่อ TNGA หรือ Toyota New Global Architecture
ที่สร้างศักยภาพสูงสุดในการขับขี่ จากการผสานผู้ขับขี่ และรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งมีรายละเอียดหลัก ๆ คือ Body Rigidity ที่เพิ่มความมั่นคงให้โครงสร้างตัวถังด้วยวัสดุเหล็ก
พร้อมกับการเพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวรถ (Spot Welding) ในบริเวณรองรับแรงบิด ตามด้วยการทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ Low Center of Gravity เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว
และการเกาะถนน ปิดท้ายด้วยความ Excellent Visibility ที่เกิดจากการออกแบบตัวรถให้เหมาะกับสรีระ, มีทัศนวิสัยดี และจุดอับสายตาน้อยลง รวมไปถึงการปรับเซ็ทพวงมาลัย และระบบช่วงล่างปีกนกคู่ Double Wishbone Suspension ใหม่อีกด้วย
ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4
ส่วนขุมพลังของพระเอกที่อยู่กับเรานั้นมากับรหัส A25A-FXS VVT-iE & D-4S แบบ Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 (4th Generation Hybrid)
โดยใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ไฮบริดใหม่แบบ Ni-MH (Nickel-Metal Hydride) ที่พัฒนาให้มีขนาดเล็กลง แต่สามารถกักเก็บประจุไฟฟ้าได้รวดเร็ว และจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบระบายความร้อน และกล่อง PCU (Power Control Unit) ให้มีความทนทาน และสามารถควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
ซึ่งเรี่ยวแรงที่มีให้ใช้ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 178 แรงม้าที่ 5,700 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 221 นิวตันเมตรที่ 3,600-5,200 รอบต่อนาที จากเครื่องยนต์ ตามด้วย 88 แรงม้า และแรงบิด 202 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้า
โดยมีระบบส่งกำลังแบบเกียร์ E-CVT พร้อม Sequential Shift ซึ่งมากับโหมดการขับขี่ 4 โหมดได้แก่ EV, Eco, Normal และ Sport ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรี่ยวแรง
และสร้าง “สมรรถนะ” ที่หลายต่อ หลายเสียงต่าง ๆ ก็ยกย่อง จนเราเองอดใจไม่ไหวแล้วที่จะลอง ฉะนั้นอย่ารอช้า … สตาร์ทเครื่องแล้ว “ซัด” กันเลยดีกว่า
บททดสอบ Toyota Camry Hybrid 2.5HV Premium
เริ่มต้นจากการเคลื่อนตัวช้า ๆ ในเมืองที่การจราจรแน่นหนา และไม่สามารถใช้ความเร็วได้สูงมากนัก เพื่อปรับตัวสร้างความคุ้นเคย โดยเฉพาะตำแหน่งผู้ขับขี่ที่ให้ความกระชับ และสร้างความรู้สึกราวกับอารมณ์ของรถสปอร์ต
ที่เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจในการควบคุม ต่อเนื่องไปจนถึงการสร้างความรู้สึกกระชับ ที่ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบในการควบคุม และสร้างความเฉียบคมของพวงมาลัยในจังหวะเปลี่ยนเลน
ทั้งยังมีเรี่ยวแรงที่ตอบสนองได้อย่างทันใจ มากพอที่จะทำให้รถซีดานขนาดกลางอย่าง Camry เต็มเปี่ยมไปด้วยความคล่องตัว จนกลายเป็นความสนุกสนานในการขับขี่ หรือ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นอารมณ์ที่เข้าใกล้กับยนตรกรรมชั้นนำจากแบรนด์ยุโรป
และทำให้การขับขี่ในเมืองด้วยรถคันใหญ่ ไร้ความน่าเบื่ออีกต่อไป ลองไปว่ากันที่ทางโล่ง ๆ ยาว ๆ กับความเร็วสูงดูบ้าง แล้วคุณจะพบว่านี่เป็นหนังคนละม้วนกับ Camry ที่ผ่าน ๆ มาโดยสิ้นเชิง
ทั้งจากความเนียนของการรับช่วงส่งต่อกำลังของระบบเกียร์ ที่ต่อเนื่องลื่นไหล ในขณะที่ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ นั้นสอดผสานกันอย่างเป็นระเบียบในโหมด Eco และ Normal
ในขณะที่โหมด Sport คือ ส่วนที่เราชอบที่สุด กับจังหวะดึงของแรงบิดที่หนักแน่น แต่สุภาพ ลากยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมันส์ในการแหวกอากาศโดยมีช่วงล่างที่รองรับได้น่าประทับใจ ในทุกสภาพถนนหนทาง
ตลอดจนการกดคันเร่งเข้าไปในทางโค้ง ที่คุณสามารถใช้ความเร็วเหมาะสมกับโค้ง หรือ เกินกว่านั้นไปอีกเล็กน้อยได้แบบไร้กังวล ด้วยเพราะโครงสร้างตัวถัง และการปรุงแต่งช่วงล่างใหม่
จะทำหน้าที่ทรงตัว และยึดเกาะถนนอย่างแนบแน่น พร้อมกับระบบบังคับเลี้ยวที่เฉียบคมคอยตอบสนองอย่างทันใจ ด้วยน้ำหนักที่แปรผันไปตามความเร็ว
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้น ได้กลายเป็นอะไรที่ทำให้ All-New Camry Hybrid แตกต่างจากที่ผ่านมาโดยสิ้นเชิง จากยนตรกรรมขนาดกลางที่อรรถรสจืดชืด
กลายเป็นความ “แซ่บ” แบบถึงทรวง ชนิดที่คุณหาความสนุกจากเค้าได้ในทุก ๆ วัน เมื่อประจำการอยู่หลังพวงมาลัย เช่นเดียวกับที่เราทำ ด้วยเหตุผลเดียวที่มีคือ “ลองแล้วติดใจ”
บทสรุป
Toyota Camry Hybrid 2.5HV Premium อัพเกรดใหม่ จนทำให้มี “สมรรถนะ” โดดเด่นแบบผิดหู ผิดตา ชนิดที่เรียกว่า “ลืม” Camry เวอร์ชั่นที่ผ่าน ๆ มาได้เลย
โมเดลใหม่ ก็ถูกเปิดตัวขึ้น พร้อมด้วยความเหนือชั้นแห่งเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “Unprecedented Change” มาพร้อมเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ในชื่อ TNGA หรือ Toyota New Global Architecture
ระบบความบันเทิง มากับชุดเครื่องเสียงจาก JBL พร้อมลำโพง 9 ตำแหน่ง และหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ DVD พร้อมทั้งระบบT-Connect Telematics ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว และควบคุมได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สำหรับการใช้งานฟังก์ชั่นหลัก
ขุมพลังนั้นมากับรหัส A25A-FXS VVT-iE & D-4S แบบ Atkinson Cycle ทำงานร่วมกับระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 (4th Generation Hybrid)
เมื่อเราได้ทดสอบ All-New Camry Hybrid ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความคล่องตัว จนกลายเป็นความสนุกสนานในการขับขี่
หรือ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นอารมณ์ที่เข้าใกล้กับยนตรกรรมชั้นนำจากแบรนด์ยุโรป เมื่อประจำการอยู่หลังพวงมาลัย เช่นเดียวกับที่เราทำ ด้วยเหตุผลเดียวที่มีคือ “ลองแล้วติดใจ”
Specification: Toyota Camry Hybrid 2.5HV Premium
- Price: 1,799,000 BHT
- Engine: 2,487 CC / 4 Cylinder / 16 Valve /178 hp @ 5,700 / 221 Nm @ 3,600-5,200 Electronic 88 hp / 202 Nm
- Transmission: E-CVT / Front-Wheel Drive
- Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A, Top Speed @ N/A
- Weight: 1,650 Kg.