กลุ่มพระนครยนตรการ ผู้ดำเนินธุรกิจรถยนต์แบบครบวงจรมากว่า 66 ปี ซึ่งได้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก (ดีลเลอร์) รถยนต์หลากหลายแบรนด์ ทั้ง ฟอร์ด (FORD), มาสด้า (MAZDA), มิตซูบิชิ (MITSUBISHI), วอลโว่ (VOLVO), เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GMM), อีซูซุ (ISUZU), ฮอนด้า (HONDA), เอซี เดลโก้ (AC DELCO) หรือผู้ให้บริการหลังการขายรถยนต์เชฟโรเลต (CHEVROLET) โดยปัจจุบันมีโชว์รูมและศูนย์บริการกว่า 30 แห่ง ทั่วประเทศ
รวมไปถึงธุรกิจสินเชื่อรถมือสอง, ธุรกิจรถเช่า ไทย เพรสทิจ เร้นท์ เอ คาร์ (THAI PRESTIGE RENT A CAR), โรงงานประกอบรถยนต์บางชัน และศูนย์ทำ Pre-delivery Inspection (PDI) หรือการตรวจสอบรถยนต์อย่างละเอียดก่อนส่งมอบให้กับรถยนต์ Mercedes-Benz เตรียมอัดแน่นกิจกรรมให้ลูกค้าตลอดทั้งปี พร้อมเดินหน้าเปิดธุรกิจใหม่ คาดตลาดรถยนต์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
คุณธวัชชัย จึงสงวนพรสุข กรรมการบริหาร กลุ่มพระนครยนตรการ กล่าวว่า “ในปีนี้ คาดการณ์ว่าภาพรวมของตลาดรถยนต์น่าจะอยู่ในภาวะทรงตัวเท่าๆ กับปีที่แล้วที่มียอดขายอยู่ 775,780 คัน โดยปัจจัยที่ทำให้ตลาดไม่โตขึ้นนั้น เหตุผลหลักมาจากการที่ไฟแนนซ์ ออกมาตรการคุมเข้มเรื่องการปล่อยสินเชื่อ
แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือตลาดรถยนต์ในปีที่ผ่านมา (2023) ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) เติบโตขึ้นรวดเร็วมาก จนมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 12% และในปีนี้ (2024) ก็ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นต่อเนื่องไปอีก คาดว่าน่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 15% ทั้งจากกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่ต้องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
รวมถึงปัจจัยจากภาครัฐที่มีนโยบายช่วยสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) หรือ EV 3.5 ทำให้ทางกลุ่มพระนครฯ มองว่าในปีนี้เราจะเพิ่มการโฟกัสไปที่แบรนด์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) จำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) หรือแบรนด์ วอลโว่ (VOLVO) รวมถึงแบรนด์ใหม่ที่เรากำลังเซ็นต์สัญญาเพิ่มในไตรมาส 2 นี้
ขณะที่แบรนด์กลุ่มรถเครื่องยนต์สันดาป (ICE) เราก็ไม่ทิ้ง โดยเราจะผลักดันควบคู่กันไป เพราะหากดูจากภาพรวมเมื่อปีที่แล้ว (2023) กลุ่มพระนครฯ เราทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่เราวางไว้ แม้ตลาดของรถกลุ่มนี้จะหดตัวลง แต่ถ้ามองในเชิงส่วนแบ่งการตลาด หรือมาร์เก็ตแชร์ ถือว่าเราอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
โดยเหตุผลส่วนหนึ่งที่เรายังคงครองส่วนแบ่งการตลาดที่ดีอย่างนี้ได้ จากยอดขายรวมที่เราทำได้จากทุกดีลเลอร์ในระดับ 2 หมื่นคัน เพราะทางกลุ่มพระนครยนตรการ ได้มีการจัดกิจกรรมให้กับลูกค้าตลอดต่อเนื่องทั้งปี และในปีนี้เราก็จะยังคงเน้นการจัดกิจกรรมดีๆ ให้กับลูกค้า
โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ เราจะกระตุ้นตลาดช่วงต้นปี ด้วยการจัดงาน “PHRANAKORN CLEARANCE SALE @MEGA BANGNO” โดยเราได้รวม 3 แบรนด์ดังในเครือฯ ฟอร์ด, มิตซูบิชิ และมาสด้า ซึ่งจะมาพร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ พร้อมรวมสิทธิประโยชน์ ที่จะมอบให้ลูกค้าสูงสุดถึง 2 แสนบาท
โดยงานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ลานน้ำพุ ศูนย์การค้าเมกะ บางนา ซึ่งเชื่อว่างานนี้น่าจะมียอดจองในงานไม่ต่ำกว่า 100 คัน
นอกจากนี้ในเดือนหน้า วันที่ 9-10 มีนาคม 2567 ทางพระนคร สวีดิช คาร์ หนึ่งในผู้แทนจำหน่ายรถยนต์วอลโว่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย จะจัดงาน “VOLVO PHRANAKORN FEST 2023 ครั้งที่ 3 … มหกรรมรถผู้บริหารป้ายแดง ไมล์น้อย” ขึ้นที่โชว์รูมวอลโว่ ถนนวิภาวดี ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี จากการจัดงานครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ที่ผ่านมา
ขณะที่ในส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์บางชัน “บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี” ซึ่งเราเป็นโรงงานในประเทศไทยที่ทำการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ NETA ในปีนี้เราจะทำการลงทุนเพิ่ม ขยายโรงงาน เพื่อตอบรับการขยายกำลังการผลิตในปีนี้
นอกจากนี้สำหรับแผนในอนาคตของกลุ่มพระนครยนตรการ จะมีการขยายธุรกิจเพิ่มอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Center ซึ่งเป็นครั้งแรกกับการใช้เทคโนโลยี Dent Jet System จาก PIVAB ตามมาตรฐานสวีเดน ที่เพิ่มประสิทธิภาพและความเร็วในขั้นตอนการอบสี
และด้วยคุณสมบัติของห้องพ่นสีที่มีการติดตั้งตัวกรองอากาศจึงไม่ก่อให้เกิดฝุ่นในเนื้อสี ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพและความสวยงามเรียบเนียนของสีรถ ซึ่งจากการที่เราได้เปิดศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร Volvo Certified Damage Repair Center
ทำให้ พระนคร สวีดิช คาร์ เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์วอลโว่ที่ให้บริการแบบครบวงจรทั้ง โชว์รูม, งานขาย, ศูนย์บริการ, ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง รวมไปถึงจำหน่ายรถยนต์วอลโว่มือสองมาตรฐานวอลโว่ ประเทศไทย
ส่วน ดีลเลอร์แบรนด์รถยนต์ ที่กำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 แบรนด์ในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นแบรนด์ไหนนั้น ในเร็วๆ นี้ น่าจะบรรลุข้อตกลง” คุณธวัชชัยกล่าวปิดท้าย