นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์อเนกประสงค์ SUV เป็นเซกเมนต์ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยในปี 2565 ที่ผ่านมา มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 81,900 คัน แสดงให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตที่ดีของรถในกลุ่มนี้ เพราะสามารถตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลายรูปแบบ
ด้วยความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารที่สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป การขับขี่ยังมอบสมรรถนะที่คล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง พร้อมเผชิญกับสภาพถนนทั้งแบบ On Road และ Off Road ได้เป็นอย่างดี
สำหรับซูซูกิ ได้มีการพัฒนารถยนต์อเนกประสงค์ออกมาตอบรับต่อความต้องการของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน เพราะเรามีความเชื่อมั่นว่ารถยนต์อเนกประสงค์แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง จะสามารถเข้าไปเติมเต็มความสุขของผู้บริโภคโดยเฉพาะการเป็นพาหนะของทุกคนในครอบครัว
ด้วยความกว้างขวางสะดวกสบายของห้องโดยสารที่สามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารได้มากกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป การขับขี่ยังมอบสมรรถนะที่คล่องตัว ทั้งในเมืองและนอกเมืองกับสภาพถนนทั่วไปและสภาพถนนขรุขระได้เป็นอย่างดี
โดยรถรุ่นสำคัญที่ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมแห่งรถแบบ 7 ที่นั่ง ที่คุ้มค่าอย่าง SUZUKI XL7 ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดประเทศไทยในปี 2563 ที่ผ่านมา ถูกนำเสนอด้วยแนวคิด “THINK XL คิดได้เกินคาด ไปได้เกินใคร”
วางตำแหน่งให้แตกต่างจาก SUZUKI ERTIGA รถอเนกประสงค์อีกหนึ่งรุ่นของซูซูกิ ชูความเป็นรถอเนกประสงค์แบบสปอร์ตครอสโอเวอร์ ตอบโจทย์ในไลฟ์สไตล์ของชีวิตคำนึงถึงทุกฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน มุ่งนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่แตกต่าง ด้วย 3 จุดเด่นสำคัญ
1.) สปอร์ตครอสโอเวอร์ ดีไซน์แข็งแกร่ง ดุดัน มิติตัวถังมีขนาดยาว 4,450 มม. กว้าง 1,775 มม. สูง 1,710 มม. ระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,740 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. ตัวรถถูกออกแบบให้สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทางเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกสปอร์ตเข้ม ดุดัน โดดเด่นด้วยสีทูโทน หลังคาสีดำตัดกับสีตัวรถ
กระจกมองข้างสีดำ กระจังหน้าดีไซน์สปอร์ตสีดำผสมโครเมียม สอดรับกับไฟหน้า LED ที่ปรับระดับองศาของไฟต่ำได้ มาพร้อม Daytime Running Light และไฟตัดหมอกหน้า ตกแต่งใต้กันชน ด้วยวัสดุสีเงินรอบคัน มาพร้อมไฟท้าย LED และไฟเบรกแนวตั้ง เติมความเข้มด้วยซุ้มล้อสีดำ ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว รวมถึงราวหลังคาเพื่ออรรถประโยชน์ในการบรรทุกสัมภาระมากยิ่งขึ้น
2.) ความคุ้มค่า สะดวกสบาย ใช้งานได้จริง SUZUKI XL7 ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์สปอร์ตครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง สามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่โดยสาร ห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 สามารถปรับเลื่อนได้ 240มิลลิเมตร อุปกรณ์อำนวยความสะดวกรองรับการใช้งานครบครัน
ด้วยแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger) รองรับการชาร์จโทรศัพท์มือถือได้หลากหลาย กล้องบันทึกภาพด้านหน้ารถ (Digital VDO Recorder) ติดตั้งมาจากโรงงานช่วยบันทึกทุกเหตุการณ์ในการขับขี่ เชื่อมต่อความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว พร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิทัล (Digital Sound Processor)
เพิ่มมิติและความสุนทรีย์ให้กับเสียงเพลง พร้อมฟังก์ชันเชื่อมต่อ Bluetooth การเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรวมไปถึงช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ที่บริเวณคอนโซลหน้า อีกทั้งช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 3 ตำแหน่ง เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างลงตัว นับว่าเป็นรถอีกหนึ่งรุ่นของซูซูกิที่ ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานในราคาที่ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่าย
3.) สมรรถนะโดดเด่น ดูแลรักษาง่าย ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ K15B ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิดที่ 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 4สปีด แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิที่ผสานเข้ากับระบบช่วงล่างซึ่งถูกปรับแต่งอย่างมีประสิทธิภาพมั่นใจด้วยเหล็กกันโคลงด้านหน้า (Front Stabilizer) ขนาดใหญ่พิเศษ
ลดอาการโคลงของตัวรถและเพิ่มการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมให้สมรรถนะในการขับเคลื่อน เป็นไปอย่างคล่องตัว ปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นรถที่ดูแลรักษาง่าย ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในราคาที่คุ้มค่า
จากคุณสมบัติอันโดดเด่นแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover สปอร์ตครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง เป็นรถที่ให้มากกว่าความคุ้มค่า โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2563 มียอดขายรวมไปแล้วทั้งสิ้น 8,153 คัน (กรกฎาคม 2563-มีนาคม 2566)
ตอกย้ำความเป็นรถอเนกประสงค์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบรับต่อความต้องการของลูกค้า ด้วยฟังก์ชันการใช้งานอย่างครบครัน สะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว ในราคาที่ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่าย
SUZUKI XL7, Multi-Dynamic Crossover มีราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 814,000 บาท มีให้เลือก 4 สี ได้แก่
- สีส้ม Rising Orange Pearl Metallic (ZZY)
- สีเทา Metallic Magma Gray (ZYZ)
- สีดำ Cool Black Metallic (ZBD)
- สีขาว Pearl Snow White (ZQZ)
พร้อมด้วยดีไซน์สีทูโทนตัวรถสีส้มตัดกับหลังคาสีดำ (Rising Orange Pearl Metallic/Cool Black Metallic) และตัวรถสีขาวตัดกับหลังคาสีดำ (Pearl Snow White/Cool Black Metallic)
ทั้งนี้ ซูซูกิพร้อมมอบความคุ้มค่าให้แก่ผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของ SUZUKI XL7 ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ด้วยแคมเปญพิเศษดังนี้
- ดอกเบี้ยพิเศษ 0%
- หรือ ขับฟรี 90 วัน
- หรือ ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 5,888 บาท
- พร้อมฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 ปี
นายวัลลภ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งตัวสินค้าและงานบริการในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีผู้จำหน่ายที่เข้มแข็งพร้อมจะพัฒนาและเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน รวมไปจนถึงการมีพันธมิตรเป็นสถาบันการเงินเข้ามาช่วยเรื่องการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้มีความหลากหลายและช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้สะดวกยิ่งขึ้น
สถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกันบซูซูกิ ได้แก่ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ภายใต้เงื่อนไขตามที่บริษัทฯ กำหนด โดยลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศ
ช่องทางการติดต่อ
- www.suzuki.co.th
- www.facebook.com/officialsuzukimotorthailand
- SUZUKI Cause We Care: 1800-600-900