Test Drive: รีวิว ทดลองขับ MAZDA MX-5 RF

Test Drive: รีวิว ทดลองขับ MAZDA MX-5 RF สปอร์ตคาร์ขนาดเล็กจิ๋ว ที่มุ่งเน้นแฮนด์ลิ่งมากกว่าพละกำลัง นี่คือรถที่เป็น Best Seller ตลอดกาลในคลาส

Test Drive: รีวิว ทดลองขับ MAZDA MX-5 RF เวอร์ชั่น 2019

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

MAZDA MX-5 RF เวอร์ชั่น 2019 มาพร้อมกับพละกำลังที่เพิ่มขึ้น และเสริมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเข้าไป แต่น้ำหนักที่มากกว่าเดิมจากหลังคาแข็ง จะบั่นทอนสมรรถนะของมันลง หรือ ไม่?

แรงบันดาลใจจาก Lotus Elan คือต้นกำเนิดของ Mazda MX-5 สปอร์ตคาร์ขนาดเล็กจิ๋ว ที่มุ่งเน้นแฮนด์ลิ่งมากกว่าพละกำลัง นี่คือรถที่เป็น Best Seller ตลอดกาลในคลาสของมัน และยังคงเป็นเช่นนั้น แต่… เพราะเหตุใดกัน ?

แน่นอนว่า ความสนุกในการขับขี่ และบุคลิกอันโดดเด่นตามสไตล์รถ “ขับเคลื่อนล้อหลัง-ฐานล้อสั้น” ที่กระฉับกระเฉง ทว่าไม่เปิดโอกาสให้คุณได้แก้ตัวหากเพรี่ยงพร้ำ คือความท้าทายที่แสนยั่วยวนใจจนใคร ๆ ก็อยากพิสูจน์ฝีมือ

บวกด้วยราคาค่าตัวที่ยากจะปฏิเสธ (เอิ่ม… ในกรณีที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้านะครับ) MX-5 จึงเป็นสปอร์ตคาร์ที่ชายหนุ่มต่างฝันหา และคาดหวังว่าจะได้ครอบครองมันสักครั้งในชีวิต

ด้วยยอดจำหน่ายทั่วโลกที่ถล่มทลาย เราจึงได้เห็น MX-5 มาตลอด 3 ทศวรรษ จนถึงปัจจุบัน ทายาทลำดับที่ 4 ยังคงสายเลือดอันเข้มข้นของต้นตระกูลเอาไว้อย่างครบถ้วน มันเบากว่าเดิมและกะทัดรัดยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับโฉมที่แล้ว พร้อมรูปโฉมคมคาย เต็มไปด้วยเหลี่ยมสันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เส้นสายเฉียบคมที่ปาดไปมาทั่วเรือนร่างส่งให้ภาพรวมของรถดูดุดันมากทีเดียว

Mazda คาดหวังว่า หลังคาแบบ RF (Retractable Fastback) จะช่วยขยายฐานลูกค้าออกไปยังกลุ่มคนที่ต้องการสไตล์ที่พรีเมี่ยมมากขึ้น ทั้งหมดของหลังคาได้รับการออกแบบใหม่ มีความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่น Roadster 5 มม. หลังคาชิ้นบนที่ผลิตจากอลูมิเนียม

รวมถึงกระจกบานหลังจะถูกพับลงไปเก็บใต้เสาหลัง (หลังคาชิ้นที่อยู่ใกล้ฝาท้าย) นั่นทำให้ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีขนาดเท่าเดิม ซึ่งหมายถึงคุณยังสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดกลาง ๆ ได้ 2 ใบเช่นเคย

การเปิด หรือ ปิดหลังคาใช้เวลาเพียง 13 วินาที และเพิ่มน้ำหนักให้กับรถอีกราว 40 กก. เมื่อเทียบกับรุ่น Soft Top ส่งให้น้ำหนักรวมของ MX-5 RF ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,113 กก. เพื่อรับมือกับเรื่องนี้ จึงใช้เหล็กกันโคลงหน้าที่มีขนาดใหญ่ (แข็ง) ยิ่งขึ้น, ปรับความแข็งของช็อคอับหน้า, เพิ่มความแข็งสปริง และช็อคอับหลัง รวมถึงการปรับคานช่วงกลางของตัวรถใหม่เพื่อคืนความสมดุลให้กับความแข็งแกร่งของโครงสร้างโดยรวม

อ้อ! ผมลืมบอกไปว่านี่คือ MX-5 ไมเนอร์เชนจ์ และให้เวลาคุณ 1 สัปดาห์ในการหาว่า มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง ? ผมล้อเล่น คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหา เพราะนอกจากล้อสีใหม่แล้ว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างอีกเลย

จุดที่ได้รับการปรับปรุงอย่างเด่นชัดที่สุดก็คือ พวงมาลัยซึ่งสามารถปรับ ใกล้-ไกล ได้แล้ว กับสิ่งที่คุณมองไม่เห็น แต่ (อาจจะ) สัมผัสได้ นั่นคือเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้น 29 แรงม้า และเรดไลน์ขยับขึ้นจาก 6,800 สู่ 7,500 รอบ/นาที

ในประเทศไทยจำหน่ายเพียงเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เท่านั้น ขุมพลัง SkyActiv-G ได้รับการปรับปรุงในหลาย ๆ ชิ้นส่วน ไล่ตั้งแต่การเปลี่ยนมาใช้ลูกสูบและก้านสูบที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม, ข้อเหวี่ยงแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ร่วมด้วยการเปลี่ยนแคมชาฟต์, วาล์ว, พอร์ตไอดี ไอเสีย, แหวนลูกสูบ, หัวฉีด, ลิ้นเร่ง บวกกับฟลายวีล, ท่อไอดี และท่อไอเสียแบบใหม่

ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ กำลังสูงสุดเพิ่มจาก 155 เป็น 184 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 200 สู่ 205 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที (ต่ำกว่าเดิม 600 รอบ/นาที) มีเกียร์ให้เลือกทั้งแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะ (ที่จะเพิ่มน้ำหนักรวมขึ้นไปอีก 27 กก.)

และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ เหมือนในคันทดสอบของเรา ซึ่งแน่นอนว่า เรา Recommend แบบหลังมากกว่า เพราะคุณจะไม่สูญเสียพลังเครื่องยนต์ไปกับทอร์คคอนเวอร์เตอร์ และน้ำหนักที่ตัวที่มากขึ้นไปอีก

พลังที่มากขึ้น หมายถึงอัตราเร่งที่ดีขึ้นตามไปด้วย MX-5 RF เกียร์ธรรมดา เร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ใน 6.8 วินาที เร็วขึ้น 0.6 วินาที เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2017 (และ 7.9 สำหรับเกียร์ออโต้ เร็วขึ้น 0.5 วินาที) มันให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวายิ่งขึ้นขณะขับขี่ อัตราทดของเกียร์ 1 สูงไปสักหน่อย

นั่นหมายถึง คุณต้องแอคทีฟมากพอ หากเหยียบคันเร่งมิดพื้นตั้งแต่ออกตัว และในกรณีที่เท้าซ้าย (รวมถึงมือซ้าย) ของคุณไวพอจะเข้าเกียร์ 2 ได้ก่อนรอบตัด สปอร์ตคาร์คันจิ๋วจะเริ่มเข้าฝัก รอบเครื่องไหลลื่นต่อเนื่องจากเกียร์สู่เกียร์ พร้อมความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่านุ่มนวล

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการปรับช่วงล่างให้ขึงตึงขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักของหลังคาที่มากกว่าเดิม แต่ MX-5 RF ก็ยังคงนุ่มนิ่มเกินไปสำหรับภารกิจทำความเร็ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ล้อคู่หลัง ระบบบังคับเลี้ยวที่ได้รับการปรับใหม่ (จากรุ่น Soft Top) ให้สัมผัสที่เบา และไวไปนิดที่ความเร็วสูง แต่ในเส้นทางที่คดเคี้ยวก็กระฉับกระเฉง และหนักมือขึ้นเล็กน้อยในขณะเบรกพร้อมกับเทิร์นอินสู่โค้ง

ในอีกด้านหนึ่ง ช่วงล่างที่นุ่มนิ่มก็มีข้อดีเช่นกัน แน่ล่ะว่าคุณสามารถขับมันได้นานขึ้นโดยไม่ถอดใจไปกับความสั่นสะเทือนเสียก่อน เราใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์มุ่งหน้าสู่ชลบุรี และกลับกรุงเทพฯ MX-5 RF ให้ความนุ่มนวลได้ในระดับที่น่าพอใจ และข้อได้เปรียบจากการใช้หลังคาแข็งก็คือ ห้องโดยสารที่เงียบกว่ามาก

เมื่อเทียบกับแบบ Soft Top ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฉนวนซับเสียงที่ถูกเพิ่มเข้าไปบริเวณซุ้มล้อหลัง เบาะนั่งที่จัดวางไว้ค่อนข้างต่ำเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง บีบให้ทัศนวิสัยโดยรอบค่อนข้างแคบ แต่ก็ชดเชยด้วยการมีเฮดรูมเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ห้องโดยสารสำหรับคนที่สูงเกิน 175 ซม. อย่างแน่นอน แม้ Mazda เคลมว่ามีพื้นที่บริเวณเข่า และเหนือศีรษะมากกว่าโมเดลที่แล้ว แต่นั่นก็ยังไม่มากพออยู่ดี

ในกรณีที่คุณไม่สูงขนาดนั้น นี่คือห้องโดยสารที่คุณต้องประทับใจ ตำแหน่งของเบาะนั่งสัมพันธ์กับพวงมาลัย และคันเกียร์อย่างพอเหมาะพอเจาะ แป้นเหยียบทั้งสามและด้ามเบรกมือก็เช่นกัน เมื่อรวมเข้ากับเบาะกึ่งบักเก็ตที่โอบรับกระชับร่างกายได้เป็นอย่างดี

นี่จึงเป็นตำแหน่งการนั่งที่ลงตัว ช่วยให้บังคับควบคุมรถได้ถนัดมากขึ้น แต่ที่เราชอบมากที่สุดก็คือ ส่วนบนของแผงประตูที่เป็นสีเดียวกับตัวรถและมีรูปทรงรวมถึงเส้นสายที่เชื่อมโยงกับตัวถังภายนอก

นอกจากนั้น ใน MX-5 RF รุ่นปี 2019 คุณยังได้อุปกรณ์มาตรฐานใหม่ ๆ ในส่วนของความปลอดภัยเพิ่มเติมจากเดิมอีกเล็กน้อย อาทิ ไฟหน้า Adaptive, ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน, ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา, ระบบเตือนเมื่อมีรถกำลังวิ่งผ่านขณะถอยออกจากช่องจอด เป็นต้น อ้อ! รวมถึงระบบหยุด และสตาร์ทเครื่องยนต์อัตโนมัติด้วย

ราคาของทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ตั้งไว้เท่ากันที่ 2.89 ล้านบาท โดยรุ่นเกียร์ธรรมดาจะมาพร้อมกับเฟืองท้ายพร้อม Limited Slip ซึ่งไม่มีในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ขณะที่อุปกรณ์มาตรฐานอื่น ๆ เหมือนกันทุกประการ

นั่นเป็นราคาที่น่าคิดอยู่ไม่ใช่น้อย… อย่าลืมว่าเรามี Subaru BRZ ที่มีสมรรถนะใกล้เคียง แต่มีห้องโดยสารกว้างขวางกว่า แม้จะมีอุปกรณ์ต่าง ๆ น้อยกว่า และคุณภาพวัสดุด้อยกว่า ทว่าราคาถูกกว่ากันถึง 640,000 บาททีเดียว

เว้นเสียแต่ว่า คุณคือแฟนพันธุ์แท้ของ MX-5 ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่เหนือเหตุผล…

MAZDA MX-5 RF 6MT

• Price: 2,890,000 Baht
• Engine: 1998cc 16v 4-cyl, 184 hp @ 7,000rpm, 200 Nm @ 4,000rpm
• Transmission: 6-speed manual, rear-wheel drive
• Performance: 6.8sec 0-100 km/h, 220 km/h, 156g/km CO2
• Weight: 1,113 Kg
• NCAP rating: n/a