Test Drive: รีวิว ทดลองขับ NEW MG ZS EV รถไฟฟ้าคันแรกจากค่าย MG ที่มาพร้อมกับเสียงฮือฮาในราคา 1,190,000 บาท กับสีรถสีฟ้า “Copenhagen Blue”
Test Drive: รีวิว ทดลองขับ NEW MG ZS EV รถไฟฟ้าคันแรกจากค่าย MG
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
นับเป็นอีกกระแสที่ถูกกล่าวถึงไม่น้อย จากรถจากค่าย MG กับ MG ZS EV รถไฟฟ้าคันแรกจากค่ายนี้ที่มาพร้อมกับเสียงฮือฮากับ ราคา 1,190,000 บาท กับออฟชั่นที่สูงกว่ารถไฟฟ้าในตลาดบ้านเราแบบเห็นได้ชัด ซึ่งจัดว่าคุ้มค่าอยู่ไม่น้อย ซึ่งทางบริษัทเอ็มจี ไม่รีรอเชิญสื่อมวลชมไปร่วมทดสอบระยะทางเบา ๆ จากกรุงเทพสู่พัทยา ในสภาพถนนจริง จราจรจริงว่าจะพอกับการใช้งาน หรือ ไม่
NEW MG ZS EV
ภายนอกของรถรุ่นนี้ไม่แตกต่างจากในรุ่นปรกติมากนัก ที่โดดเด่นคงเป็นเรื่องของสี และล้อที่อาจจะทำให้คุณแยกแยะออกระหว่างรถรุ่นน้ำมันกับไฟฟ้าออก กับ “สีฟ้า Copenhagen Blue” พร้อมกระจังหน้า ออกแบบมาคล้ายทรวดทรงไดมอนด์กริลของรถหรูในหลายยี่ห้อ
ตัวกระจังสามารถเปิดได้ เพื่อใช้เสียบชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าแบตเตอรี่ หัวชาร์จใช้แบบ Type 2 และ CCS Combo ลงตัวด้วยล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้วไฟหน้า และไฟ Daytime ทรง London Eyes ตลอดจนไฟท้ายยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ห้องโดยสารตกแต่งโทนสีดำ พร้อมกุด้วยวัสดุนุ่มแบบ Soft touch ให้ความรู้สึกหรูหรามีระดับมากขึ้น พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมฟังก์ชันการใช้งานในรถที่เชื่อมกับหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ได้เพียงปลายนิ้ว
และระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มาพร้อมระบบกรองอากาศที่สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM 2.5 อีกทั้งยังมีห้องโดยสารที่กว้างสบาย และยังคงโดดเด่นด้วยหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ระบบปฏิบัติยังคงใช้ i-SMART ที่ที่มีการปรับปรุงพัฒนาให้ตอบสนองได้ดีขึ้นโดยเน้นในสามเรื่องคือ ด้านการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย
หรือ SMART Command ด้านการเชื่อมต่อผ่านหน้าจอภายในรถ หรือ SMART Connect และด้านการตรวจเช็กรถจากมือถือ หรือ SMART Check ซึ่งผู้ขับขี่ NEW MG ZS EV จะสามารถเช็คระดับพลังงานคงเหลือของแบตเตอรี่
การเช็คสถานะ และระยะเวลาของการชาร์จแบตเตอรี่แบบเรียลไทม์ การค้นหาสถานีอัดประจุไฟฟ้าใกล้เคียง หรือสถานีชาร์จที่โชว์รูมทั่วประเทศ รวมทั้งการสั่งการMG Home Charger สำหรับการชาร์จไฟที่บ้านได้อีกด้วย
เรื่องพละกำลังถูกเปลี่ยนมาใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์ให้ทั้งสมรรถนะ อัตราเร่งที่รวดเร็ว และต่อเนื่อง พร้อมการขับขี่ที่เงียบ ปราศจากมลพิษ และเสียงรบกวนจากมอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ที่ได้รับการพัฒนาให้ส่งกำลังได้ดีเยี่ยม
และช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมแบตเตอรี่ แบบลิเธี่ยม ไอออน (Lithium-ion) ความจุ 44.5kWh ที่ผ่านการรับรอง และทดสอบตามมาตรฐานสากล โดยสามารถวิ่งผ่านน้ำที่มีความสูงได้ถึงกว่า 40 เซนติเมตร ในขณะที่แบตเตอรี่ยังคงสามารถทำงานได้ตามปกติ
อีกทั้งยังมีระบบการปกป้องแบตเตอรี่แบบ 360 องศา และระบบการจัดการอุณหภูมิอัจฉริยะที่ช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ และสูง และระบบควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์
โดยมีพละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งจาก 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ด้วยระยะเวลาแค่ 3.1 วินาที และให้ระยะทางขับเคลื่อนสูงสุด 337 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC หรือ มาตรฐานการทดสอบความประหยัดน้ำมัน และมลพิษของยุโรป)
ยังสามารถปรับโหมดการขับขี่ได้ 3 รูปแบบ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์ในการขับขี่ของแต่ละคน ประกอบด้วย โหมดการขับขี่แบบ Eco เพื่อการประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น โหมด Normal สำหรับการขับขี่ทั่วไป และโหมด Sport เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ
เราใช้เวลาสั้น ๆ ในการเรียนรู้ระบบต่าง ๆ แบบคร่าวก่อนลงสู่ถนนจริงที่ MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งจะเป็นการเรียนรู้ในเรื่องการเบรก และการลองอัตราเร่งของรถ ซึ่งทำได้ไม่ผิดหวัง ซึ่งการตอบสนองทำได้เทียบเท่าเครื่องขนาด 2.5 ลิตร
ซึ่งเราสามารถเรียกพละกำลัง 150 แรงม้าไดด้ทันทีตั้งแต่กดคันเร่งลงไป ไม่มีอาการรอรอบเหมือนเครื่องน้ำมัน ระบบเบรกตอบสนองได้ดีตามเท้า เช่นเดียวกับรถทั่ว ๆ ไป ช่วงล่างถูกเซตมาให้นุ่มนวล ไม่แข็งแต่ในความเร็วสูงก็ยังคงให้ความมั่นใจได้ดี รวมไปถึงการกระโดดเนินสะพาน ก็ทำได้ดีไม่ย้วยให้หวาดเสียว
เราเดินทางจากศรีนครินทร์ พลังงาน 100 เปอร์เซ็นต์ วิ่งผ่านมอเตอร์เวย์จนถึงพัทยา พลังงานคงเหลือที่ประมาณ 40 กว่า ๆ โดยใช้ความเร็วอยู่ที่ 80- 120 กม./ชม. แสดงให้เห็นว่าการชาร์จครั้งเดียวสามารถถึงพัทยาได้สบาย ๆ และการเดินทางกลับ
ทางทีมงานก็ได้จัดให้ทดสอบการชาร์จจากตู้ชาร์จเร็วของ EA Anywhere ตู้ชาร์จแบบ DC หัว CCS Combo ใช้เวลาชาร์จไม่นาน ประมาณ 30 นาที ได้ไฟกลับมาที่ 80% โดยตู้นี้ยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบยังไม่เปิดให้บริการ
โดยปรกติ NEW MG ZS EV รองรับการชาร์จไฟได้ 2 รูปแบบ คือ
- 1. การชาร์จไฟแบบธรรมดา (Normal Charge) ผ่าน MG Home Charger ใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-100%ในระยะเวลาเพียง 6.5 ชั่วโมง
- 2. การชาร์จไฟแบบเร็ว (Quick Charge) ผ่านสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ (Public Charging Station) โดยใช้เวลาชาร์จไฟจาก 0-80% ในระยะเวลาเพียง 30 นาที
นอกจากนี้ เอ็มจี ยังได้ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เพื่อติดตั้งสถานีชาร์จ EA anywhere ให้กับโชว์รูมของเอ็มจี ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนโชว์รูมอยู่ถึง 110 แห่งทั่วประเทศและกำลังจะขยายเป็น 130 แห่ง ภายในปีนี้
อีกทั้งยังได้ลงนามความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (MEA) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการติดตั้งที่ชาร์จ เพื่อเป็นการลดข้อจำกัด และคลายความกังวลของผู้บริโภคในการที่จะตัดสินใจใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
รถไฟฟ้าอาจจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการใช้รถในประเทศ เพราะค่าไฟในการชาร์จถูกกว่าค่าน้ำมันที่คุณเติมเมื่อเทียบในระยะทางที่เท่า ๆ กัน
นั่นคือความมั่นใจว่ารถไฟฟ้าอาจจะเป็นหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการใช้รถในประเทศ เพราะค่าไฟในการชาร์จถูกกว่าค่าน้ำมันที่คุณเติมเมื่อเทียบในระยะทางที่เท่า ๆ กัน คุณสามารถเอาค่าน้ำมันที่เหลือมาเป็นค่าผ่อนรถให้ตัวคุณเอง แถมยังช่วยรักษ์โลกอีกทางหนึ่งก็เป็นได้