Test Drive: รีวิว ทดลองขับ VOLVO S90 T8 AWD R-DESIGN โดยในรุ่น R-Design มีให้เลือกเฉพาะขุมพลัง Hybrid เท่านั้น ซึ่งพละกำลังรวมถึง 407 แรงม้า
Test Drive: รีวิว ทดลองขับ VOLVO S90 T8 AWD R-DESIGN
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
S90 คือรถที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกันรถรุ่นอื่น ๆ ในคลาสเดียวกัน เพราะไม่เพียงแค่คุณภาพวัสดุอันยอดเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีอันรุดหน้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเต็มพิกัด ในราคาที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง นั่นคือเหตุผลที่มันกลับมายัง Torque Magazine อีกครั้ง
เพียงแวบแรกจากภาพถ่ายคุณก็น่าจะสัมผัสได้ว่ามันดูเป็น S90 ที่ต่างออกไปจากเดิม นั่นเป็นผลมาจากการตกแต่งในแบบ R-Design บนตัวสีน้ำเงินเข้ม “Bursting Blue Premium Metallic” มีบางชิ้นส่วนที่เปลี่ยนไปจากรุ่นมาตรฐาน
เริ่มตั้งแต่กันชนหน้าซึ่งมีดีไซน์ต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ช่องรับลมขนาดใหญ่ทั้งซ้าย และขวาของกันชนซึ่งเป็นสี Piano Black เงาวับ กระจังหน้าก็เป็นแบบใหม่ และใช้สีดำเงาบนตะแกรงเช่นกัน สเกิร์ตข้างมีรูปทรงรวมทั้งส่วนโค้งเว้าที่สอดรับกันกันชนหน้า
ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์พิเศษสำหรับเวอร์ชั่น R-Design
ขณะที่กันชนหลังและปลายท่อไอเสียยังคงเป็นแบบเดียวกับ S90 รุ่นมาตรฐาน เพิ่มเติมด้วยดิฟฟิวเซอร์สีเดียวกับตัวรถ ติดตั้งอยู่ที่ส่วนล่างสุดของกันชน ปิดท้ายด้วยล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ดีไซน์พิเศษสำหรับเวอร์ชั่น R-Design พร้อมยาง Michelin Pilot Sport ขนาด 255/40-19
มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้มขรึม และเบาะนั่งแบบสปอร์ตบุด้วยหนัง Nappa สลับกับ Nubuck
คุณจะเห็นความแตกต่างได้มากขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร เวอร์ชั่น R-Design มาพร้อมกับการตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้มขรึม และเบาะนั่งแบบสปอร์ตบุด้วยหนัง Nappa สลับกับ Nubuck ถ้าคุณคิดว่ามันดูน่าอึดอัดล่ะก็ บอกเลยว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะเพราะมันยังคงนั่งสบายทั้งยังปรับได้ทุกทิศทางด้วยระบบไฟฟ้าเช่นเดิม พวงมาลัยก็เปลี่ยนใหม่เช่นกัน
เราไม่มีข้อมูลมากนักเกี่ยวกับมัน แต่รู้สึกได้ว่า วงพวงมาลัยอวบอ้วนจับถนัดมือมากขึ้น และก้านพวงมาลัยด้านล่างเป็นแบบ 2 ก้านคู่ พร้อมสัญลักษณ์ R-Design ระหว่างกลาง กับ Paddle Shifter ที่หลังพวงมาลัย ซึ่งไม่มีใน S90 เกรดอื่น ๆ
คุณภาพวัสดุที่นำมาใช้คือ สิ่งที่ทำให้ S90 โดดเด่นขึ้นมาจนสามารถต่อกรกับสองแบรนด์ใหญ่จากทวีปเดียวกันได้อย่างสูสี
ตำแหน่งเบาะนั่งจัดวางได้ยอดเยี่ยม ทัศนวิสัยรอบด้านก็เช่นกัน พื้นที่วางขา และเหนือศีรษะอยู่ในเกณฑ์กว้างขวางในทุก ๆ ตำแหน่ง ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถขนาดใหญ่ และค่อนข้างลึก สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 2 ใบได้สบาย ๆ
คุณภาพวัสดุที่นำมาใช้คือ สิ่งที่ทำให้ S90 โดดเด่นขึ้นมาจนสามารถต่อกรกับสองแบรนด์ใหญ่จากทวีปเดียวกันได้อย่างสูสี และยิ่งดูน่าหลงใหลขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในโทนสีเคร่งครึมของ R-Design แม้จะมีภาพลักษณ์ที่สปอร์ตมากขึ้นทั้งภายนอกและภายใน ทว่าสมรรถนะเกือบทั้งหมดของ S90 เวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษนี้ ไม่ได้ถูกแตะต้องใด ๆ มีเพียงแค่การปรับช่วงล่างให้กระชับขึ้น และเตี้ยลงจากรุ่นมาตรฐาน 15 มม. เท่านั้น
ราคาเพียง 3.59 ล้านบาท ในเวอร์ชั่น R-Design
ด้วยราคาเพียง 3.59 ล้านบาท เวอร์ชั่น R-Design เข้ามาคั่นกลางเกรด Momentum ราคา 3.39 ล้านบาท และ Inspcription ที่ 3.79 ล้าน นั่นหมายถึงแก็ป 2 แสนบาทระหว่างรุ่นเริ่มต้นกับรุ่นท้อป แต่คุณจะได้อุปกรณ์ตกแต่ง R-Design และที่เหลือเกือบทั้งหมดเทียบเท่ากับรุ่นท้อป
จุดที่แตกต่างมีเพียงชุดเครื่องเสียงที่เปลี่ยนจาก 1,400 วัตต์ กับลำโพง 19 ตัว จาก Bowers & Wilkins มาเป็น Harman Kardon 600 วัตต์ และลำโพง 14 ตัว กับเบาะคู่หน้าที่ไม่มีระบบระบายอากาศ เท่านั้นเอง… ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะครับ?
ขุมพลัง Hybrid มีพละกำลังรวมถึง 407 แรงม้า
ในรุ่น R-Design มีให้เลือกเฉพาะขุมพลัง Hybrid เท่านั้น พละกำลังรวม 407 แรงม้า โดยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศซูเปอร์ชาร์จและเทอร์โบ สามารถทำได้ถึง 320 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที ส่วนอีก 87 แรงม้า ได้มาจากมอเตอร์ไฟฟ้า
เมื่อทั้งสองแหล่งพลังทำงานร่วมกันจะทำแรงบิดได้ 640 นิวตันเมตร นั่นมากพอที่จะส่ง S90 ที่ยาวเกือบ 5 เมตร ให้เร่งจากจุดหยุดนิ่งสู่ 100 กม./ชม. ได้ใน 4.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้เต็มเพดานจำกัดของกฏหมายยุโรปที่ 250 กม./ชม.
เครื่องยนต์สันดาปภายในจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานที่ล้อคู่หลัง ทั้งหมดถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งจะคอยบริหารจัดการแหล่งพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพการขับขี่โดยอัตโนมัติ ในกรณีที่มีพลังงานจากแบตเตอรี่ ลิเธียม-ไอออน เหลืออยู่มากพอ ระบบจะพยายามให้รถขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นหลัก
และเฉพาะการใช้งานด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวสามารถทำระยะทางได้เฉลี่ยราว 40 กม. นอกจากนั้นคุณยังสามารถเลือกแหล่งพลังงานได้ด้วยตัวเองผ่านลูกกลิ้งที่ติดตั้งอยู่ข้างคันเกียร์หรือจากหน้าจอแนวตั้งขนาดใหญ่กลางแดชบอร์ดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึง S90 R-Design จะมาพร้อมกับสไตล์ที่ดุดันยิ่งขึ้น และช่วงล่างแบบสปอร์ต ทว่ามันก็ไม่ใช่รถที่มีบุคลิกห้าวหาญแต่อย่างใด แม้อยู่ในโหมด Dynamic ที่เซ็ตอัพของจังหวะการเปลี่ยนเกียร์รวมทั้งน้ำหนักพวงมาลัยเป็นแบบสปอร์ต
ส่วนเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าก็ผนวกกำลังทำงานร่วมกันก็ตาม จริงอยู่ที่มันเร็ว, แรง และเร่งสู่ความเร็วสูงได้เพียงชั่วพริบตา แต่ด้วยการแสดงออกที่เหมือนการ “โยน” มากกว่า “ขว้าง” ออกไป ต้องยกความดีความชอบนี้ให้กับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ที่เซ็ตอัตราทดมาได้อย่างไหลลื่นลงตัว
ส่งให้ S90 สามารถเร่งความเร็วได้อย่างฉับพลันทว่าราบรื่น ไม่กระโชกโฮกฮาก การขับด้วยความเร็วบนไฮเวย์เป็นอะไรที่คุณจะไว้วางใจ มันยังสามารถเร่งแซงได้ทันใจ แม้จะอยู่ในรอบเครื่องค่อนข้างสูงก็ตาม
แต่คุณอาจต้องทำความคุ้นเคยกับระบบเบรคสักเล็กน้อย จริงอยู่ที่มันให้พลังเบรคมหาศาลมาก ๆ ทว่า สัมผัสที่ทื่อ ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในจังหวะแรกที่กดลงไป ทำให้คุณต้องเพิ่มแรงกดเข้าไปอีก – มากไปนิดหน่อย รถจะเบรคหัวทิ่ม น้อยไปก็แทบจะไม่ลดความเร็วลง –
นี่คือรอยตำหนิที่ทำให้เราลดคะแนนความพึงพอใจในการขับขี่ลงไป เพราะมันรบกวนสมาธิทุกครั้งเมื่อต้องการหยุดหรือ ลดความเร็ว ต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวให้คุ้นเคย… น่าเสียดาย..
ในความเป็นจริงแล้ว แค่โหมด Comfort ก็สามารถใช้งานได้ครอบคลุมทุกย่านความเร็ว การสลับไปมาระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าช่างราบเรียบไร้รอยต่อ ช่วงล่างแบบสปอร์ตทำให้คุณรู้สึกถึงพื้นผิวถนนได้มากขึ้น แต่ก็ยังอยู่ในเรนจ์ที่จัดว่านุ่มนวล
ระบบ Pilot Assist ซึ่งทำงานร่วมกับ Cruise Control ช่วยให้ S90 สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองโดยอัตโนมัติ ไม่เพียงแค่ควบคุมความเร็วเท่านั้น แต่มันยังบังคับพวงมาลัย, ลดความเร็ว, เบรค, เร่ง ให้คุณอีกด้วย… ถูกต้องครับ! มันเป็นรถที่ขับได้เอง!
คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรนอกจากบีบพวงมาลัยเอาไว้เบา ๆ เพื่อให้ระบบรับรู้ว่าคุณยังพร้อมที่จะกลับมาควบคุมรถหากเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ใช้เฉพาะถนนที่ค่อนข้างตรงตลอดทาง, มีเส้นแบ่งเลนชัดเจน และไม่มีโค้งมุมแคบ เท่านั้น – เช่น มอเตอร์เวย์ หรือทางด่วนบางช่วง – เนื่องจากระบบไม่สามารถลดความเร็วเองเมื่อเข้าโค้ง และทำงานผิดพลาดหากไม่มีเส้นแบ่งเลนที่ชัดเจน นั่นเอง
การขับขี่โดยใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเดียวในโหมด Pure เพียงพอสำหรับความเร็วต่ำ และการจราจรที่ติดขัดในเมือง บวกด้วยข้อดีจากการไร้ซึ่งเสียงการทำงานใด ๆ และปราศจากมลพิษ ส่งให้การโดยสารอยู่ใน S90 เป็นอะไรที่ผ่อนคลายอย่างยิ่ง การเก็บเสียงทำได้ดีและระบบปรับอากาศก็สามารถรักษาอุณหภูมิในห้องโดยสารให้คงที่ได้ตลอดเวลา แม้คันทดสอบของเราไม่มีฟิล์มกรองแสงก็ตาม
ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกับ BMW 530e และ Merc E350 e ซึ่งเป็น PHEV ทั้งคู่ ต้องยอมรับว่า ในเรื่องของการยอมรับในแบรนด์นั้น Volvo ยังคงเป็นรองอยู่ ทว่าพวกเขาก็พยายามพัฒนา และเพิ่มศูนย์บริการอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับข้อเสนอพิเศษมากมายที่ช่วยดึงดูดใจได้ดีทีเดียว
หากตัดเรื่อง Brand Royalty ออกไป ยนตรกรรมจากสวีเดนที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน จากการระหกระเหินและโดนปู้ยี่ปู้ยำในอเมริกา วันนี้ Volvo ไม่เหลือร่องรอยบอบช้ำให้เห็นอีกต่อไป พวกเขามีอิสระเต็มที่เมื่ออยู่ภายใต้หลังคาของ Geely เอกลักษณ์ต่างๆ ถูกนำมาใช้อีกครั้ง และด้วยแนวทางที่พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด ส่งให้กองทัพ Volvo เจเนอเรชั่นใหม่ แข็งแกร่งเป็นทวีคูณ
ดั่งคลื่นใต้น้ำที่เงียบเชียบ แต่อานุภาพทำลายล้างสูง รถยนต์ Volvo จะดีขึ้น และดีขึ้น จนสั่นคลอนบัลลังก์แชมป์ได้ในท้ายที่สุด
VOLVO S90 T8 AWD R-DESIGN
- Price: 3,590,000 Baht
- Engine: 1,969 cc inline-4 supercharge+turbo, 320 ps @ 5,600 rpm with 87 ps electric motor (407 ps combined), 640 Nm
- Transmission: 8-speed auto, all-wheel drive
- Performance: 4.9 sec 0-100 km/h, 250 km/h, 41g/km CO2
- NCAP Rating: 5 stars