Breaking News

The new Porsche 911 เจเนอเรชั่นที่ 8 เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ Los Angeles

The new Porsche 911 เจเนอเรชั่นที่ 8 ทรงพลังยิ่งขึ้น รวดเร็วยิ่งกว่า ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ Los Angeles

The new Porsche 911 เจเนอเรชั่นที่ 8 เผยโฉมครั้งแรกในโลกที่ Los Angeles

ยานยนต์ ที่ท้าทายทุกข้อจำกัดของกาลเวลา เปี่ยมล้นด้วยอัจฉริยภาพแห่งการบังคับควบคุมจากระบบช่วงล่างชั้นเลิศผสานการ ทำงานกับนวัตกรรมระบบช่วยเหลือการขับขี่ล้ำสมัย คล่องแคล่ว ปราดเปรียว มั่นใจทุกสถานการณ์ รักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ของยนตรกรรมสปอร์ตเครื่องยนต์วางหลังสุดคลาสสิก รองรับทุกความต้องการและความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี ดิจิทัล

ขุมพลังเครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบชาร์จ เจเนอเรชั่นล่าสุด พัฒนาขึ้นใหม่และให้พละกำลังมากกว่ารุ่นเดิม ที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) สำหรับรุ่น S สมรรถนะที่เหนือล้ำยิ่งขึ้น เกิดจากการปรับปรุงกระบวนการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับเปลี่ยน การวางตำแหน่งของระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบ charge air cooling ใหม่ พละกำลัง มหาศาลจะถูกส่งต่อ ไปยังระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะคลัทช์คู่ 8 จังหวะ เสริมด้วยนวัตกรรมระบบช่วยเหลือการขับขี่รุ่นล่าสุดมากมาย รวมทั้งโปรแกรมควบคุมการขับขี่ Porsche Wet เพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งานบนเส้นทาง เปียกลื่นและระบบเพิ่ม ทัศนวิสัยยามค่ำคืนหรือ Night Vision Assist พร้อมกล้องตรวจจับวัตถุด้วยอุณหภูมิ thermal imaging camera

The new Porsche 911-เจเนอเรชั่นที่ 8-เผยโฉมครั้งแรกในโลก-Los Angeles-Carrera 4S-1.jpg
Porsche 911 Carrera 4S
The new Porsche 911-เจเนอเรชั่นที่ 8-เผยโฉมครั้งแรกในโลก-Los Angeles-Carrera 4S-2.jpg
Porsche 911 Carrera 4S
The new Porsche 911-เจเนอเรชั่นที่ 8-เผยโฉมครั้งแรกในโลก-Los Angeles-Carrera 4S-3.jpg
Carrera 4S
The new Porsche 911-เจเนอเรชั่นที่ 8-เผยโฉมครั้งแรกในโลก-Los Angeles-Carrera 4S-4.jpg
Carrera 4S

The new Porsche 911 Carrera S 

  • พละกำลังกว่า 450 แรงม้า เครื่องยนต์ 6 สูบนอน พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จของThe new Porsche 911 Carre-ra S*
  • อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ตามมาตรฐาน NEDC) อยู่ที่ 11.2 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 8.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
  • อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 205 กรัมต่อกิโลเมตร

The new Porsche Carrera 4S 

  • ให้กำลังสูงสุดที่ 450 แรงม้า (331 กิโลวัตต์) เพิ่มขึ้นถึง 30 แรงม้า (22 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
  • อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย (ตามมาตรฐาน NEDC) ทำได้ที่ 11.1 กิโลเมตรต่อลิตร หรือ 9.0 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
  • อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 206 กรัมต่อกิโลเมตร

ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ 911 ใหม่ทั้ง 2 รุ่น

สามารถเร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปยังระดับความเร็วที่ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในระยะเวลาต่ำกว่า 4 วินาที : กล่าวคือในรุ่นตัวถังสปอร์ตคูเป้ 2 ประตูขับเคลื่อนล้อหลังใช้เวลาเพียง 3.7 วินาที และสำหรับ 911 Carrera 4S ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ใช้เวลาที่รวดเร็วกว่าที่ 3.6 วินาทีเท่านั้น ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 0.4 วินาที และจะสามารถลดระยะเวลาลงได้อีก 0.2 วินาที เมื่อได้รับการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package

ในส่วนของความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 308 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสำหรับ 911 Carrera S และ 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับเวอร์ชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อในรุ่น 9911 Carrera 4S

งานออกแบบที่เด่นชัดด้วยอัตลักษณ์ของยนตรกรรมแห่งตำนาน

งานออกแบบภายนอกใหม่ สมบูรณ์แบบด้วยรูปลักษณ์ที่เน้นสมรรถนะชั้นเลิศของ Porsche 911 รหัสตัวถัง 992 เริ่มจากซุ้มล้อที่ได้รับการขยายความกว้างยิ่งขึ้น เพื่อรองรับล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ที่คู่หน้า และ 21 นิ้ว ที่คู่หลัง มุมมองด้านหน้ารถถูกปรับให้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกับสายพันธุ์ปอร์เช่รุ่นอื่น ๆ

เส้นสายที่พริ้วไหววางตัวตาม แนวยาวจากหน้าจรดหลังกันชนหน้ากว้างขึ้น 45 มิลลิเมตร ให้ความต่อเนื่องกลมกลืนมาถึงมือเปิดประตูแบบ electrical pop-out handles ก่อเกิดพื้นผิวด้านข้างรถที่ไหลลื่นเรียบเนียน โค้งมนราวกับไม่มีจุดสิ้นสุด

สิ่งที่วางตัวระหว่างโคมไฟหน้า LED แบบใหม่ คือ ฝากระโปรงที่ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของงานออกแบบที่ถ่ายทอดมาจากปอร์เช่ 911 เจเนอเรชันแรก ตัวถังด้านท้ายขยายกว้าง เน้นย้ำถึงความเป็นยนตรกรรมสปอร์ตยุคใหม่เฉกเช่นปอร์เช่ทุกรุ่นในปัจจุบัน เสริมความแข็งแกร่งดุดันด้วยชุดสปอยเลอร์หลังปรับระดับได้ สะกดทุกสายตาด้วยแถบไฟส่องสว่างคาดยาวทุกส่วน ประกอบของตัวถังภายนอกล้วนแล้วแต่ถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุอะลูมิเนียม

การตกแต่งภายในห้องโดยสารสมบูรณ์แบบด้วยบุคลิกที่เด่นชัด เป็นผลจากความปลอดโปร่งที่เกิดขึ้นด้วยแนวเส้นตรงของ แผงคอนโซลและแผงหน้าปัทม์ ซึ่งแรงบันดาลใจในการออกแบบได้รับอิทธิพลจาก Porsche 911 รุ่นปี 1970 มาตรวัดรอบเครื่องยนต์ติดตั้งบริเวณกึ่งกลางอันเป็นสไตล์ดั้งเดิมของปอร์เช่

ประกบด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ทั้ง ฝั่งซ้ายและขวาบริเวณคอนโซลกลางเป็นตำแหน่งหน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงของระบบ Porsche Communica-tion Management ขนาดใหญ่ถึง 10.9 นิ้ว ใช้สำหรับควบคุมและสั่งการทำงานของฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ต้องยกประโยชน์ดังกล่าวให้สถาปัตยกรรมการออกแบบยุคใหม่ นอกจากนี้ชุดสวิทช์ที่วางตัวอยู่ด้านล่างของหน้าจอทั้ง 5 นั้น ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในกรณีที่ผู้ขับขี่ต้องการเข้าถึงฟังก์ชันหลักของตัวรถโดยตรง

ปลอดภัยและสะดวกสบายเหนือระดับด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่สุดล้ำ

นับเป็นครั้งแรกของโลกสำหรับการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ Wet mode ในยนตรกรรมปอร์เช่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบดังกล่าว จะรับหน้าที่ตรวจจับปริมาณน้ำที่ขังอยู่บนพื้นผิวเส้นทาง ปรับแต่งระบบควบคุมอื่น ๆ และส่งสัญญาณเตือน ไปยังผู้ขับขี่ เพื่อเตรียมความพร้อมล่วงหน้าให้แก่รถยนต์ทั้งคัน ตอบสนองต่อความปลอดภัยสูงสุดในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง เพียงกดปุ่มสั่งการทำงานหรือปรับตั้งผ่านชุดสวิทช์เลือกโปรแกรมการขับขี่บนพวงมาลัย (เมื่อติดตั้งชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package)

นอกจากนี้ ระบบ warning and brake assist ซึ่งได้รับการติดตั้งเป็นมาตรฐานเช่นเดียวกัน จะรับบทบาทในการตรวจสอบอัตราเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการเฉี่ยวชนจากวัตถุเคลื่อนไหวอื่น ๆ และสั่งการเบรกฉุกเฉินล่วง หน้าในกรณีที่จำเป็น เติมเต็มความปลอดภัยด้วยระบบเพิ่มทัศนวิสัยยามค่ำคืน Night Vision Assist พร้อมกล้องตรวจจับวัตถุด้วยอุณหภูมิ thermal imaging camera อุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม ที่สามารถเลือกได้เป็นครั้งแรกสำหรับPorsche 911

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกติดตั้ง

  • ระบบควบคุมความเร็ว และระยะห่างแบบแปรผันอัตโนมัติ (adaptive cruise control includes automatic distance control)
  • ระบบหยุดและสตาร์ทการทำงานของเครื่องยนต์ (stop-and-go)
  • ระบบ reversible occupant protection
  • ระบบ autonomous Emergency Assist

***The new Porsche 911 เปิดรับคำสั่งซื้อแล้วตั้งแต่วันนี้ทั้งในรุ่น Carrera S และรุ่น Carrera 4S ราคาจำหน่ายขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มาตรฐานในแต่ละประเทศ สอบถามข้อมูลได้ที่ โชว์รูมปอร์เช่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ทุกสาขา

***อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและ อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานสากล ที่สอดคล้องกับวิธีการ Light Vehicle Test Procedure (WLTP) ล่าสุด สำหรับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน NEDC ที่ระบุในบทความนี้ ใช้อ้างอิงได้เฉพาะสภาพการทดสอบในช่วงเวลาเดียวเท่านั้น ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับค่าการตรวจวัดอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงของ NEDC ที่ได้จากวิธีการอื่นใดก่อนหน้า การทดสอบนี้

***สำหรับข้อมูลอย่างเป็นทางการของผลทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงและอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในรถยนต์รุ่นใหม่อื่น ๆ สามารถค้นหาได้จากเอกสาร

  • “Guidelines on fuel consumption
  • CO2 emis-sions and power consumption of new passenger cars” [Leitfaden über den Kraftstoffverbrauch
  • die CO2-Emissionen und den Stromverbrauch neuer Personenkraftwagen]
  • ผ่านตัวแทนจำหน่าย และสถาบัน Deutsche Automobil Treuhand GmbH (DAT) โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

เกี่ยวกับ AAS Auto Service

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 12 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย

โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

  • Porsche Centre Bangkok โทร. 02-522-6655
  • Porsche Centre Pattanakarn โทร. 02-369-1111
  • Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911
  • Porsche Studio Bangkok ICONSIAM ชั้น 1 โทร. 02-288-0911
porsche-banner.jpg
ปอร์เช่ ประเทศไทย

Check Also

Michelin at ThaiGp 2025

ยางตระกูล ‘มิชลิน พาวเวอร์’ โชว์ศักยภาพโดดเด่น ในสนามเปิดฤดูกาล ‘โมโตจีพี’ ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

การแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ‘โมโตจีพี’ สนามเปิดฤดูกาลปี 2568 ภายใต้ชื่อรายการ ‘พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์’ (PT Grand Prix of Thailand) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเร็ว …