10 Best cars: Road Test Editor’s choice

A200 คว้าตำแหน่งผู้ชนะของปีนี้ไปครองด้วยสมรรถนะและคุณภาพอันยอดเยี่ยมในราคาที่ “ถูกเหลือเชื่อ” เมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้รับ เจ้าตัวจิ๋วจาก Mercedes ได้รับการเอาใจใส่เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับรถรุ่นสูงกว่านี้ของพวกเขา กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องโดยสารที่กว้างขวางเกินตัว แล้วคุณจะพบว่าคุณภาพของวัสดุต่างๆ นั้นดูพรีเมี่ยมเกินราคาไปมาก

เช่นเดียวกับลิสต์อุปกรณ์นวยความสะดวกที่ยาวเป็นหางว่าว พร้อมระบบ MBUX เวอร์ชั่นล่าสุด และแน่นอน… หน้าจอความละเอียดสูง 2 จอ ที่เรียงต่อกันเป็นแนวยาวเกินครึ่งหนึ่งของความกว้างรถ ไฮไลต์ของ Merc ยุคใหม่ ก็มีติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานเช่นกัน

เหนือสิ่งอื่นใดคือสมรรถนะของมัน… A200 ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ 1,332 ซีซี ซึ่งทำกำลังได้ถึง 163 แรงม้า และ 250 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 8.1 วินาที และทำท้อปสปีดได้ที่ 230 กม./ชม. มันเร็วมากเมื่อมองในแง่ของซิตี้คาร์ ทั้งยังขับสนุกด้วยพวงมาลัยที่ตอบสนองและสื่อสารดีเยี่ยม ช่วงล่างแบบสปอร์ต (เฉพาะเกรด AMG Dynamic) เกาะหนึบ ทว่ายังคงให้ความนุ่มนวลได้เป็นเยี่ยม

นี่จึงเป็นรถที่คุณสามารถใช้งานได้ครอบคลุมตั้งแต่การขับขี่ในเมืองไปจนถึงการเดินทางไกล ด้วยขนาดที่กะทัดรัด, สมรรถนะระดับสูง, แฮนด์ลิ่งยอดเยี่ยม และความสะดวกสบายตลอดจนคุณภาพอันน่าประทับใจตามมาตรฐานของ Mercedes

เกินกว่าคำว่า “คุ้มค่า” ไปมาก 

2. NISSAN KICKS 1.2 VL AUTO ราคา 1,049,000 บาท

ทำได้ดีอย่างที่เราคาดหวังเอาไว้ตั้งแต่เริ่มมีข่าวลือว่าจะเปิดตัว (เป็นครั้งแรกของโลก) ในไทย ด้วยการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า Kicks จึงได้เปรียบในเรื่องอัตราเร่งที่ทันอกทันใจกว่ารถในคลาสเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเร็วต่ำขณะใช้งานในเมือง นอกจากนั้นมันยังประหยัดน้ำมันและคายมลพิษต่ำอีกด้วย ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลได้น่าพอใจและเกาะถนนใช้ได้เลยทีเดียว ห้องโดยสารกว้างขวางสมน้ำสมเนื้อกับขนาดตัวและใช้วัสดุที่ดี

คุณสามารถเลือกเกรดสูงสุด VL ที่มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน, เกรดรองลงมา ไปจนถึงเกรด S ราคา 889,000 บาท (ถูกกว่า VL ถึง 160,000 บาท) ที่มีอุปกรณ์มาให้เพียงพอสำหรับการใช้งาน ถึงจะไม่ฟู่ฟ่านัก แต่ถ้าคุณอยากได้รถ SUV พลังไฮบริด และโฟกัสเรื่องอัตราสิ้นเปลืองกับการปล่อยมลพิษเป็นหลัก นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์แน่นอน

3. BMW 330E M SPORT ราคา 2,799,000 บาท (รวม BSI)

อาจไม่นุ่มนวลเหมือน Merc C300e หรือมีพละกำลังมากมายและอุปกรณ์แพรวพราวเท่ากับ Volvo S60 แต่ BMW 330e กลับเป็นรถ PHEV ตัวถังซาลูนที่ทำได้น่าประทับใจกว่าคู่แข่งทั้งสอง มันมีเรี่ยวแรงน้อยที่สุดในกลุ่ม (กำลังรวม 292 แรงม้า) ทว่ากลับเป็นรถที่ขับได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด แฮนด์ลิงขึงขังได้มาจากชุดเกียร์อัตโนมัติแบบสปอร์ต 8 จังหวะ

ร่วมด้วยช่วงล่างที่หนักแน่นมั่นคง พวงมาลัยเฉียบคมและสื่อสาร คุณสามารถเรียกหาความสนุกจากมันได้ทุกครั้งที่ต้องการ เช่นเดียวกับการใช้เป็นพาหนะสำหรับการเดินทางทั้งในและนอกเมือง อาจมีตำหนิเรื่องความแข็งของช่วงล่าง แต่คนที่ชอบรถขับสนุกอย่างคุณและผม ไม่เห็นว่านั่นเป็นปัญหาใหญ่อะไรหรอก… จริงไหมครับ?

4. TOYOTA CROSS HYBRID PREMIUM SAFETY ราคา 1,199,000 บาท

ห้องโดยสารที่กว้างขวางคือจุดเด่นของ Cross มันเป็นรถที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดเมื่อเทียบกับรถในราคาเดียวกัน สมรรถนะอาจไม่ตื่นตาตื่นใจนัก แต่เทคโนโลยีไฮบริดของ Toyota นั้นรุดหน้ากว่าแบรนด์ใดๆ ในตลาด นั่นหมายถึงคุณจะได้รถซึ่งมีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีและคายมลพิษต่ำอีกด้วย

ช่วงล่างให้ความนุ่มนวลได้ในระดับที่น่าพอใจ ขณะที่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ก็มีมาให้พียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ถึงจะไม่มากมายนักแต่ก็ถือว่าแลกกับความกว้างขวางนั่งสบายทุกตำแหน่ง ที่มีมากกว่ารถรุ่นอื่นในราคาระดับนี้

5. MAZDA CX-8 2.2 XDL EXCLUSIVE (6-SEAT) ราคา 2,069,000 บาท

นับตั้งแต่ความยอดเยี่ยมของ CX-3 เราไม่ได้เห็น Mazda รุ่นใดทำได้ดีแบบนั้นอีกเลย จนกระทั่งการมาถึงของ CX-8 รถที่คุณจะรื่นรมย์ไปกับมันได้ทุกที่และทุกเวลา ด้วยช่วงล่างอิสระสี่ล้อที่ทรงตัวดีและนุ่มนวล ห้องโดยสารกว้างขวางมีเบาะที่นั่งได้สบายในทุกๆ ตำแหน่ง วัสดุมีคุณภาพสมราคา

พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกตลอดจนเทคโนโลยีสมัยใหม่ครบครันสำหรับช่วยเหลือขณะขับขี่เพื่อลดและป้องกันอุบัติเหตุ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลคือตัวเลือกที่ดี แม้พละกำลังไม่หวือหวานักแต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งาน ต้องขอบคุณชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่เซ็ตอัตราทดได้เข้าขากับพลังของเครื่องยนต์เป็นอย่างดี 

6. MG ZS 1.5X + AUTO ราคา 799,000 บาท

เวอร์ชั่นปรับโฉมของ ZS ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมแบบหน้ามือกับหลังมือ เมื่อเทียบกับโฉมแรกที่ดูไม่สมราคานัก มันดูสวยงามลงตัวขึ้นและอุปกรณ์ในห้องโดยสารก็ได้รับการปรับปรุงให้น่าประทับใจกว่าเดิม

ชุดเกียร์ที่เปลี่ยนจากแบบคลัตช์คู่มาเป็น CVT ทำให้ความสนุกในการขับขี่ลดลงไป แต่ก็แลกมาด้วยการขับเคลื่อนที่นุ่มนวลมากยิ่งขึ้น และเช่นเดียวกับ HS ด้วยราคาเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้มา ส่งให้ ZS เป็นรถที่สมเหตุสมผลกับเงินที่จ่ายไปที่สุดในคลาสของมัน

7. MG HS 1.5T X DCT ราคา 799,000 บาท

ถ้าตัดเรื่องคันเร่งพรวดพราดควบคุมยากตอนออกตัว และความเฉื่อยชาของจังหวะเปลี่ยนเกียร์ออกไป MG HS นับว่าเป็นรถที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง มันมีพละกำลังที่สมน้ำสมเนื้อเพียงแต่คุณจะต้องเรียกใช้งานด้วยการเลือกเปลี่ยนเกียร์เองจากแพดเดิลหลังพวงมาลัย มากกว่าจะปล่อยให้ระบบอัตโนมัติทำงานเอง

HS มีห้องโดยสารที่ออกแบบและตกแต่งมาเป็นอย่างดี เบาะคู่หน้าทรงสปอร์ตนั่งสบาย นอกจากนั้น ยังอัดแน่นด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายตามสไตล์ MG ที่ “ให้เยอะ” เอาไว้ก่อน ทำให้มันเป็นรถที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป

8. PORSCHE TAYCAN 4S ราคา 7,100,000 บาท

4S คือรุ่นเริ่มต้นของ Taycan และด้วยพละกำลังที่ควบคุมได้ง่ายกว่ารุ่น Turbo (เราขับทดสอบไปแล้วเช่นกัน) และ Turbo S ที่บ้าระห่ำ มันจึงเป็นรถที่ให้ความกลมกล่อมและอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงที่สุดในเรนจ์ แน่นอนว่า 4S ยังคงให้อรรถรสในการขับขี่ที่เดือดพล่านตามสไตล์ Porsche

ทั้งยังมีฟิลลิ่งที่เป็นธรรมชาติไม่ต่างจากรถที่ใช้เครื่องยนต์ จุดที่มันได้คะแนนไปเยอะมากก็คือ ถึงจะมีราคากว่า 7 ล้านบาท แต่ด้วยความเป็นรถไฟฟ้าหมายถึงคุณแทบไม่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามหลังมาเลย มีเพียง 2 รายการ คือไส้กรองของระบบปรับอากาศและน้ำมันเบรก ที่ระบุให้เปลี่ยนทุก 2 ปี เรียกได้ว่า จ่ายค่าตัวไปแล้ว ก็แทบไม่ต้องจ่ายอะไรอีกเลย 

9. BMW 745LE xDRIVE M SPORT ราคา 6,439,000 บาท (รวม BSI)

การให้ความใส่ใจลงลึกไปถึงรายละเอียดแม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ ส่งให้ 745Le เข้ามาอยู่ในลิสต์รถยอดเยี่ยมของปีนี้ นี่เป็นรถที่คุณจะสนุกไปกับการได้ค้นพบรายละเอียดอันน่าประทับใจที่ถูกบรรจุเอาไว้ในทุกอณูของตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสารและบรรดาเทคโนโลยีล้ำสมัย อาทิ กล้องหน้าและหลังที่จะแพนตามทิศทางที่คุณหมุนพวงมาลัยไป เพื่อเพิ่มมุมมองรอบๆ ได้มากยิ่งขึ้น, ระบบปรับอากาศที่จะเป่าลมอุ่นเบาๆ มาที่ขา เมื่อคุณตั้งอุณหภูมิห้องโดยสารไว้ค่อนข้างเย็น เป็นต้น

นอกจากนั้น BMW ยังใช้วัสดุคุณภาพสูงและให้ความรู้สึกสูงค่าน่าหลงใหลเมื่อสัมผัส บวกด้วยความนุ่มนวลและเงียบกริบในขณะขับเคลื่อน และพละกำลังที่ไม่เป็นรองใคร ทั้งยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

10. LAND ROVER DEFENDER 110 D240 SE ราคา 7,100,000 บาท

เราชอบรถที่มีเป้าประสงค์ชัดเจน และในปี 2020 Defender คือรถคันนั้น เวอร์ชั่นใหม่ถอดด้ามของตำนานแห่งพาหนะสำหรับการบุกป่าฝ่าดง ได้รับการพัฒนาให้ยอดเยี่ยมและเกิดมาเพื่อ “ลุย” เป็นหลักเช่นเดิม มันมาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เอื้อให้คุณสามารถขับขี่แบบออฟโรดได้อย่างง่ายดาย บวกด้วยการขจัดจุดด้อย อาทิ เฮดรูมที่จำกัดและช่วงล่างแข็งกระด้าง ออกไป

ปัจจุบัน Defender จึงใช้ขับขี่ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี เหนือสิ่งอื่นใดคือ การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย คุณสามารถเลือกตกแต่งและสั่งติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ Land Rover จัดเตรียมไว้ให้หลากหลายรายการ ได้ตามใจชอบอีกด้วย