TorqueThailand.com
VinFast ได้ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจใหม่พร้อมเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบใน 5 เซกเมนต์ระหว่างงาน VinFast Global EV Day ที่มหกรรม Consumer Electronics Show (CES 2022)
หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในสหรัฐไปที่มหกรรม 2021 LA Auto Show บัดนี้ VinFast ขอเดินก้าวสำคัญสู่อนาคตของการเดินทางอย่างยั่งยืน โดยประกาศแผนหยุดผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ภายในปลายปี 2565 ทั้งนี้ VinFast จะให้ความสำคัญกับการวิจัย
และพัฒนาระบบส่งกำลังรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบเพื่อนำไปใช้กับรถยนต์ของบริษัทความเคลื่อนไหวอันโดดเด่นนี้ ทำให้ VinFast กลายเป็นบริษัทยานยนต์รายแรก ๆ ของโลกที่หันไปผลิตรถระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้นำการปฏิวัติวงการ EV ระดับโลก
VinFast มีพันธสัญญาในการเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ จึงได้เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยเปิดตัวรถเซกเมนต์ A-B-C เป็นครั้งแรกรวม 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ VF 5 (เซกเมนต์ A), VF 6 (เซกเมนต์ B) และ VF 7 (เซกเมนต์ C) ส่วนรถเซกเมนต์ D
และ E อีก 2 รุ่น ได้แก่ VF e35 และ VF e36 (เปิดตัวไปที่มหกรรม 2021 LA Auto Show) ได้เปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น VF 8 และ VF 9 แล้ว ซึ่งการลบตัว “e” (electric) ออกจากชื่อรุ่นนั้น สะท้อนให้เห็นเป้าหมายของบริษัทในการลุยตลาดระบบไฟฟ้าเต็มตัว
รถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 5 รุ่นนี้ มีการออกแบบภายนอกที่น่าประทับใจและทันสมัย โดยมีบริษัทออกแบบสัญชาติอิตาลีชื่อดังของโลกอย่าง Pininfarina และ Torino Design เป็นผู้ออกแบบ
รถรุ่น VF 8 และ VF 9 มาพร้อมคุณสมบัติการขับขี่อัตโนมัติระดับ 2+ สำหรับรุ่น Eco และ Plus และระดับ 3-4 สำหรับรุ่น Premium นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นดังกล่าวยังมีฟีเจอร์บริการอัจฉริยะที่หลากหลาย เช่น Smart Home, Mobile Office, In-car Shopping, In-car Entertainment และคุณสมบัติขั้นสูงอื่น ๆ อีกมากมายที่พร้อมมอบความสะดวกสบาย ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน
“VinFast วาดอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับผู้คนและโลกใบนี้ ผ่านนวัตกรรมที่ส่งเสริมการเดินทางอย่างใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สะอาด และปลอดภัย นี่คืออนาคตที่สร้างบนบริการอัจฉริยะ ประสบการณ์ลูกค้าที่โดดเด่น และการเอาใจใส่โลกและคนรุ่นหลัง VinFast มีความมุ่งมั่นในการคิดค้นนวัตกรรมด้านการออกแบบ คุณภาพ และเทคโนโลยียานยนต์ พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ เรายังปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำอันดับต้น ๆ ของโลก พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกค้าของเรากล้าข้ามขอบเขตไปด้วยกัน และร่วมเดินบนเส้นทางการปฏิวัติวงการรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้ทุกคน” Madam Le Thi Thu Thuy รองประธาน Vingroup และซีอีโอ VinFast กล่าว
ที่งาน VinFast Global EV Day ทางบริษัทยังได้ประกาศราคาขายอย่างเป็นทางการ พร้อมแคมเปญจองรถสำหรับรุ่น VF 8 และ VF 9 ในสหรัฐ ยุโรป และเวียดนามด้วย
รถรุ่น VF 8 ราคาเริ่มต้นที่ 41,000 ดอลลาร์สหรัฐในสหรัฐ เริ่มต้น 36,133 ยูโรในยุโรป และ 961 ล้านดองในเวียดนาม ส่วนรุ่น VF 9 ราคาเริ่มต้น 56,000 ดอลลาร์สหรัฐ (สหรัฐ) 49,280 ยูโร (ยุโรป) และ 1.312 พันล้านดอง (เวียดนาม) รถ EV แต่ละคันของ VinFast มีระยะเวลาประกัน 10 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตรแรก (แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน)
และที่สำคัญคือ ในช่วง 3 เดือนระหว่างวันที่ 5 มกราคม ถึง 5 เมษายน 2565 (PST) VinFast จะเปิดตัวโปรแกรมสมาชิกสุดพิเศษอย่าง “VinFirst – Pioneer’s Gratitude to Pioneers” เพื่อมอบรางวัลและสิทธิประโยชน์มากมายให้ผู้ถือใบจองกลุ่มแรก (อ่านรายละเอียดได้ที่ภาคผนวกด้านล่าง)
VinFast เป็นบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายแรกที่นำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้รับคำสั่งซื้อและยืนยันสิทธิการเป็นเจ้าของ โดยทางบริษัทเตรียมมอบสิ่งจูงใจอีกมากมายแก่ลูกค้าในสหรัฐเพื่อชวนให้เข้าร่วมโปรแกรม VinFirst ใบจองล่วงหน้าทั้งหมดคืนได้ ส่งเป็นของขวัญได้ หรือโอนสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2565
นอกเหนือจากการประกาศนโยบายราคาแล้ว VinFast ยังได้ประกาศโปรแกรมเช่าแบตเตอรี่ที่น่าดึงดูดใจ โดยให้ลูกค้าสมัครใช้บริการเช่าใน 2 แพ็กเกจด้วยกัน ได้แก่ “Flexible” (คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ 300 ไมล์/500 กิโลเมตรต่อเดือน คิดเพิ่มตั้งแต่ไมล์ที่ 301/ กิโลเมตรที่ 501)
และ “Fixed” (ไม่จำกัดระยะทาง) ต้นทุนการขับรถ EV ของ VinFast ในแต่ละเดือนนั้นพอ ๆ กับค่าน้ำมันเบนซินในแต่ละตลาด นอกจากนี้ VinFast จะดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการดูแลรักษาแบตเตอรี และจะเปลี่ยนแบตเตอรีของเจ้าของรถฟรีเมื่อความสามารถในการชาร์จและดิสชาร์จเหลือไม่ถึง 70%
แคมเปญจองรถ VF 8 และ VF 9 เปิดฉากอย่างเป็นทางการเวลา 17:00 น. ตามเวลา PT ของวันที่ 5 มกราคม 2565 ในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
