รีวิว ทดลองขับ Toyota Corolla Cross GR Sport ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,249,000 บาท
รีวิว ทดลองขับ Toyota Corolla Cross GR Sport รถอเนกประสงค์ C-SUV
Toyota Corolla Cross GR Sport
“นามสกุลต่อท้าย GR Sport ไม่ได้หมายถึงการได้มาซึ่งจิตวิญญาญแห่ง Gazoo Racing แบบที่ใครๆ คาดหวัง เพราะโดยสรุปมันคือ “รูปลักษณ์ที่หล่อ” ขึ้นอีกนิด และ “อารมณ์การขับขี่เฟิร์ม” ขึ้นอีกหน่อย แค่นั้น … แต่เชื่อเถอะว่า “นั่นมากพอ” ที่จะทำให้ความรู้สึกเดิมๆ ของ Corolla Cross เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แน่นอนว่า ณ เวลานี้ ใครๆ ก็รู้จัก Toyota Corolla Cross รถอเนกประสงค์ในตลาด C-SUV ที่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ส่งตรงมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคชาวไทยตั้งแต่ปี 2020 แล้วก็ด้วยผลตอบรับที่มากมายเกินคาด โดยเฉพาะในเวอร์ชั่นเครื่องยนต์ Hybrid …
ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่ Cross จะถูกเลือกเข้ามาเป็นอีกหนึ่งสมาชิกแห่งตระกูล GR Sport เพื่อต่อยอดความสำเร็จ และเอาใจผู้รักความสปอร์ตที่มากขึ้น จากรุ่นมาตรฐาน
แน่นอนคำว่า GR ย่อมาจาก Gazoo Racing เพราะงั้น Corolla Cross GR Sport จึงรับเอาจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ตเข้ามา เพื่อเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เร้าใจมากขึ้น ผ่านการเสริมแต่งด้วยชุดแพ็กเกจ GR อันประกอบด้วย ชุดกันชนด้านหน้า และด้านหลัง พร้อมชุดสเกิร์ตข้าง ตลอดจนชุดกระจังหน้า, ไฟท้ายแบบ LED และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ออกแบบใหม่สำหรับเวอร์ชั่น GR Sport โดยเฉพาะ มาพร้อมยางขนาด 225/50 R18
ส่วนภายในมากับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในรายละเอียด เช่น การเดินตะเข็บด้ายสีเงินบนพวงมาลัย, เบาะนั่ง และพนักพิงศีรษะ ตามด้วยการหยิบเอาวัสดุโทนสีดำเงา Piano Black มาตกแต่งบนคอนโซลหน้า ก่อนปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ GR บนปุ่ม Push Start … ซึ่งสำหรับเราเอง บอกตรงๆ ว่ามันยังไม่ได้เติมเต็มความสปอร์ตมากมายเท่าไหร่
เพราะจุดเด่นที่น่าสนใจจริง คือ รายละเอียดการปรับแต่งสมรรถนะ โดยมีองค์ประกอบจากช่วงล่างใหม่ คือ คอยล์สปริง และโช๊คอัพ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรุ่น GR Sport โดยเฉพาะ เข้าไปผสมผสานกับพื้นฐานอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงในด้านหน้า และแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลงในด้านหลัง
เสริมด้วยเหล็กค้ำตัวถังด้านล่าง ซึ่งเฉลี่ย คือ ช่วยให้ “ เฟิร์ม” ขึ้นจากรุ่นมาตรฐานราวๆ 10% จากนั้นจึงตามด้วยการปรับแต่งพวงมาลัยไฟฟ้าใหม่ เพื่อ “เปลี่ยน” อารมณ์การขับขี่ให้แตกต่าง
และเราคาดหวังว่ามันจะออกมายอดเยี่ยมมากๆ ด้วย เพราะการมีพื้นฐานที่ดีงามอย่าง สถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ได้พิสูจน์ถึงศักยภาพการขับขี่ให้เหล่าสาวกได้เห็นมาแล้ว ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ถูกยกระดับขึ้นจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
แต่ … ก่อนจะไปเล่าให้ฟังกันยาวๆ ในเรื่อง “การขับขี่” อีกหนึ่งเรื่องดีที่อยากบอกก็คือ นอกเหนือจากระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense ที่ไว้วางใจได้แล้ว Corolla Cross HEV GR Sport ยังได้รับการเพิ่มเติม “ของใหม่” มาให้อีกด้วย โดยระบบที่ว่าก็คือ All-Speed Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist ที่สามารถควบคุมความเร็วอัตโนมัติชนิดที่ปรับลดได้จนถึงจุดหยุดนิ่ง
อีกทั้งยังสามารถเร่งความเร็วกลับสู่ระดับที่ตั้งไว้ได้อย่างง่ายดาย เมื่อไม่มีรถขวางด้านหน้าอีกด้วย ซึ่งเมื่อรวมกับอุปกรณ์มาตรฐานที่จัดมาให้อย่างแน่นหนา เราเชื่อว่า Corolla Cross GR Sport จะเป็นอีกหนึ่งรถอเนกประสงค์ สำหรับครอบครัวที่วางใจได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะผู้ขับ หรือผู้โดยสารแน่นอน
เอาล่ะ … มาถึงส่วนสำคัญเรื่องการลองขับ Corolla Cross GR Sport ยังคงมากับเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร เพิ่มพลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจากระบบ Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 4 มีกำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 202 นิวตันเมตร รวมทั้งหมด 2 ระบบ คือ ตอบโจทย์ด้วยเรี่ยวแรง 122 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT
โดยผลสรุปหลังจากใช้ชีวิตร่วมกันอยู่หลายวัน ก็คือ บุคลิกของ Corolla Cross GR Sport นั้นเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน ตั้งแต่ในความเร็วต่ำที่อาการของช่วงล่างจะมีการนำเสนอความ “เฟิร์ม” มากขึ้น ทั้งหนักแน่น และนุ่มหนึบ ต่างจากรุ่นมาตรฐานชัดเจน เช่นเดียวกับน้ำหนักพวงมาลัยที่หนืดขึ้นเบาๆ เพื่อให้ในการเคลื่อนตัวช้าๆ ยังคงมากด้วยความ “คล่องตัว”
แต่ที่ดีงามจริงๆ คือ บนความเร็วเดินทาง ลากไปถึงความเร็วสูง ที่ความรู้สึกมั่นใจจะมีให้สัมผัสอย่างเด่นชัด จากอารมณ์ของช่วงล่าง ต่อเนื่องไปถึงน้ำหนักพวงมาลัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเข้าโค้ง ที่น้ำหนักพวงมาลัย และแปรผันความหนืดให้เข้ากับความเร็วอย่างลงตัว เพื่อสร้างการควบคุมที่มั่นใจ
ภายใต้อารมณ์สปอร์ต ซึ่งบอกตรงๆ ว่าด้วย ฟิลลิ่งของช่วงล่าง และพวงมาลัย คือ สิ่งที่ทำให้ Corolla Cross GR Sport เป็นรถอเนกประสงค์ที่ “ขับสนุก” ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างเดียวที่เรารู้สึกว่าควรต้อง “ขยับ” ตามช่วงล่าง และพวงมาลัย ก็คือ ความสามารถของเครื่องยนต์ที่ดูเหมือนจะ “สกัดกั้น” ความเร้าใจอยู่ไม่น้อย ก็คือ ความที่มากับฐานะเครื่องยนต์ Hybrid ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องผิด หากแต่เป็นธรรมชาติของเครื่องยนต์ที่หลายๆ คนน่าจะพอรู้คุณสมบัติ
เพราะฉะนั้น Corolla Cross GR Sport จึงกลายเป็นรถที่ผู้ผลิตต้องพยายามปรับสมดุล เพื่อให้มีทั้งอารมณ์การขับขี่ที่สปอร์ต ไปพร้อมๆ กับการรักษาไว้ซึ่งการประหยัดน้ำมัน
สำหรับผู้ที่คุ้นเคยในการขับรถประเภท Hybrid และโดยเฉพาะกับ Corolla Cross Hybrid รุ่นมาตรฐาน เราเชื่อว่านี่คือความแตกต่างที่สัมผัสได้ชัดเจน ในแบบที่คุณต้องรู้สึกสนุกไปกับทุกการขับขี่อย่างแน่นอน … ใช่ครับ เราหมายถึงพฤติกรรมการขับที่นุ่มนวล เรียบง่าย ด้วยการใช้คันเร่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะทั้งการกดคันเร่งลึกๆ เพื่อโดดออกตัว หรือแม้กระทั่งการ Kick Down ไม่ได้ช่วยเติมเต็มความรู้สึกดุดันมากเท่าที่ใจคิด ฉะนั้นสไตล์การขับขี่ที่ดีที่สุด คือ พฤติกรรมสุภาพกับคันเร่ง จนกระทั่งไต่ระดับไปยังความเร็วเดินทาง หรือสูงกว่านั้น แล้วก็ปล่อยให้ความสปอร์ตเป็นหน้าที่ของช่วงล่าง และระบบพวงมาลัยแสดงศักยภาพ
หากอ่านมาถึงบรรทัดนี้ แล้วมีคำถามในใจว่า “ต่างอะไร กับรุ่นมาตรฐาน” คำตอบง่ายๆ ก็คือ Corolla Cross GR Sport มาพร้อมกับความมั่นใจในการขับขี่จากเสถียรภาพการทรงตัว และการยึดเกาะถนนที่มากขึ้นโดยเฉพาะในโค้งด้วย เพราะ 10% ของการปรับแต่ง เพื่อขยับสถานะสู่ความเป็น GR Sport
และหากคุณได้ลองขับเจ้า Corolla Cross GR Sport บนถนนเส้นเดิม ที่มีโค้งเดิมๆ มากมาย ซึ่งใช้งานไป – กลับทุกวัน เราพนันว่าถ้าคุณเหลือบมองมาตรวัดความเร็ว แล้วเกิด “ตกใจ” กับความเร็วในโค้งที่อยู่ๆ ก็มากกว่ารถคันเดิมที่ใช้งานอยู่ หรือแม้กระทั่งมากกว่า Corolla Cross Hybrid รุ่นมาตรฐานก็ตาม …
เราขอบอกตรงนี้เลยครับว่านั่นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่นั่น คือ ขีดความสามารถของตัวเลข 10% ในการปรับแต่งช่วงล่าง ตลอดจนน้ำหนักพวงมาลัยที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน สู่ฐานะของ GR Sport … และ “คุ้มค่า” หรือ “ไม่” คุณเท่านั้นที่ “ตอบได้” หลังจากลองขับ
Specification : Toyota Corolla Cross HEV GR Sport
- Price : 1,249,000 BHT
- Engine : 1,798 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 98 hp @ 5,200 rpm / 142 Nm @ 3,600 rpm
- Electric Motor : 53 Kw / 163 Nm
- Transmission : E-CVT
- Performance : 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
- Weight : N/A