Breaking News

รีวิว Mercedes-Benz GLB 200 Progressive รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง 163 แรงม้า

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive รถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ทั้งจากคุณสมบัติตรงใจกลุ่มลูกค้าในราคา 2.86 ล้านบาท

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive
Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive รถอเนกประสงค์ SUV 7 ที่นั่ง

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

“Mercedes-Benz GLB ช่วยตอกย้ำให้เราเห็นภาพชัดเจน ถึงความจริงแท้ของรถอเนกประสงค์ SUV ท่ามกลางความชินตาจากภาพรถหลากประเภทหลายรุ่น ที่เรามักคิดเสมอว่าคงจบจากสถาบันออกแบบเดียวกันด้วยงานดีไซน์ เพราะอะไรๆ ก็มักจะเน้นการนำเสนอความสปอร์ตเป็นหลัก เช่นเดียวกับสมรรถนะ”

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive มากับมิติตัวถังขนาดความยาว 4,634 มม. ความกว้าง 1,834 มม. ความสูง 1,663 มม. ครอบทับด้วยงานดีไซน์ทรงเหลี่ยม ที่ไม่พยายามกลายร่างเป็น Sport SUV โดยเฉพาะในมุมมองด้านหลังของ Mercedes-Benz GLB หากเทียบกับภาพงานออกแบบของรถอเนกประสงค์ในปัจจุบัน คือ สิ่งที่ทำให้เราไม่ค่อยคุ้นตา จนถึงขั้นมองข้ามไปก็ว่าได้

แต่ถ้าสำหรับคนที่มองว่างานดีไซน์เป็นแค่ “ประเด็นรอง” จากเรื่องของอรรถประโยชน์ใช้สอย เราคิดว่า Mercedes-Benz GLB น่าจะป็นรถอเนกประสงค์ SUV ที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง ทั้งจากคุณสมบัติตรงใจกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์การใช้งานแตกต่าง ไปจนถึงเรื่องสมรรถนะ และท้ายที่สุดกับค่าตัวที่ดีงามเพียง 2.86 ล้านบาท

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ส่วนงานดีไซน์ก็มาพร้อมการแฝงด้วยความโดดเด่นของ SUV ภายใต้แนวคิด Sensual Purity ที่มีมุมมองด้านหน้าหล่อหรูตามสไตล์ ซึ่งประกอบด้วย ชุดกระจังหน้าที่ให้ความแข็งแกร่งได้อย่างชัดเจน

เช่นเดียวกับชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance ที่มีความเหลี่ยมสันของเส้นสายเป็นองค์ประกอบ พร้อมการเสริมความโดดเด่นที่เกิดชุดไฟ DRL, ช่องดักอากาศบนชุดกันชนหน้า และแผ่นกันกระแทกด้านล่าง รับกันดีกับทรง Power Domes ของฝากระโปรงหน้า

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

มุมด้านข้างรู้สึกถึงความแข็งแรงได้อย่างชัดเจน ผ่านเส้นตรงที่ประกอบด้วย แนวหลังคา, ขอบกระจก ไปจนถึงชุดสเกิร์ตสีดำตกแต่งด้วยโครเมียมออกแบบให้เป็นชิ้นเดียวกับบานประตู ลงตัวกับชุดโป่งล้อ และล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 235/55 R18

ต่อเนื่องไปจนถึงมุมมองด้านหลังที่มากับรูปทรงท้ายตัดตรง ผสมความสปอร์ตด้วยรายละเอียดเล็กๆ เช่น สปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 บนหลังคา, ชุดไฟท้ายแนวนอน และชุดกันชนหลังตกแต่งโครเมียม ประกบด้วยชุดท่อไอเสียทรงเหลี่ยมทั้ง 2 ฝั่ง

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

รีวิว ทดสอบ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

และอย่างที่บอกไป หากใครยังคงรู้สึกไม่คุ้นชิน เราแนะนำให้ก้าวเข้าไปสู่ห้องโดยสารภายใน เพราะส่วนใหญ่ยังเต็มไปด้วย “อารยธรรม” งานดีไซน์จากค่ายดาวสามแฉก พร้อมด้วยการเลือกสรรวัสดุที่เพียงแค่สัมผัสก็รู้ได้เลยว่า “ใช่” รวมไปถึงเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานแบบเดียวกับ Mercedes-Benz หลายรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

เช่น เบาะนั่งคู่หน้าฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำ, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่มาพร้อมกับ Paddle Shift, ชุดหน้าจอมาตรวัด และหน้าจอบนคอนโซลกลางแบบ All-Digital Instrument Display ที่ดีไซน์มาให้เป็นชิ้นเดียวกัน

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

โดยในส่วนของ Infotainment นั้นมีระบบปฏิบัติการมัลติมีเดีย MBUX รุ่นใหม่ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ซึ่งสั่งการได้ทั้งจากระบบสัมผัส หรือฟังก์ชัน Touchpad

ขณะที่ความอเนกประสงค์นั้นคุณสามารถสัมผัสได้จากเบาะนั่งที่ออกแบบให้แถว 2 และแถว 3 ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ แถมเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระจาก 630 ลิตรไปเป็น 1,800 ลิตรได้อีกด้วย

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ก่อนที่เราจะร่วมเดินทาง เราขอแนะนำให้รู้จักกับขุมพลังขับเคลื่อนของ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive ซึ่งทำตลาดในประเทศไทยเพียงรุ่นเดียว โดยใช้พื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน พิกัดเล็กเพียง 1,332 ซีซี. เสริมแรงด้วย เทอร์โบชาร์จ อินเตอร์คูลเลอร์ และระบบฉีดจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection เค้นเรี่ยวแรงสูงสุดออกมาให้ 163 แรงม้าที่ 5,500 รอบต่อนาที

พร้อมแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ตั้งแต่รอบต่ำ 1,620 ไปจนถึง 4,000 รอบต่อนาที โดยมีชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7G-DCT) ส่งกำลังสู่พื้นถนน ที่บอกได้เลยว่าประมาทเรื่องความสามารถไม่ได้ ด้วยตัวเลขที่เค้าการันตีจาก 0-100 กม./ชม. ใน 9.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 207 กม./ชม.

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

มาถึงจุดนี้ สำหรับหลายคนที่ได้เห็นรถจริง คุณอาจจะคิดว่า Mercedes-Benz GLB 200 Progressive นั้นเป็นรถอเนกประสงค์ SUV ที่มีขนาดใหญ่ “ซึ่งนั่นไม่จริง” เพราะสิ่งที่กำลังชักจูงคุณอยู่ คือ เรื่องราวของงานดีไซน์ ซึ่งหากกางแคตตาล็อกดู จะพบว่าขนาดมิติตัวถังกว้าง x ยาว x สูง ของ Mercedes-Benz GLB นั้นมีขนาดใกล้เคียงกับ Mercedes-Benz GLC – Class เลยทีเดียว

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ฉะนั้นอย่างที่บอกล่ะครับว่า “ขนาด” เป็นแค่เรื่องของ “ความรู้สึก” รวมไปถึงเรื่องของรูปลักษณ์มาตรฐานผ่านภาพของ AMG ที่ใช้ “ความสปอร์ต” เข้ามามีส่วนช่วยปรับความคิดในเรื่องของ “ขนาด” ต่างกับ Mercedes-Benz GLB ที่มีทำตลาดเดิมๆ

จากโรงงานเพียงสไตล์เดียวคือ Progressive (เพราะ AMG เป็นออปชันต้องจ่ายเพิ่ม) ซึ่งพูดกันตรงๆ ว่ามันดู “ธรรมดา” ด้วยอาจเป็นเหตุผลในเรื่องของการวางตำแหน่งสินค้า และกลุ่มเป้าหมายก็ได้ เลยทำให้รวมๆ แล้วจะบอกว่า “ด้อย” แรงดึงดูดทางสายตาก็คงจะไม่ผิดนัก

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ว่าแล้วเราก็ยกเรื่องงานดีไซน์ให้กับคุณผู้อ่านเป็นคนตัดสินใจ และหันมาดูอะไรที่น่าสนใจดีกว่า โดยเฉพาะในเรื่องของ “สมรรถนะ” เพราะ SUV น้ำหนักหนึ่งตันกลางๆ รุ่นนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซินบล็อกเล็กเพียง 1,332 ซีซี. หรือพูดง่ายๆ ว่าบล็อกเดียวกันกับ A-Class …  ซึ่งแน่นอนมันทำให้เกิด “คำถาม” ตามมาว่า “เพียงพอหรือไม่?” ฉะนั้นวันนี้เราจะได้รู้กัน

เริ่มจากส่วนแรกที่เราประทับใจ คือ ทัศนวิสัยในการขับขี่จากพื้นฐานของรถอเนกประสงค์ จนทำให้สัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่ง รวมไปถึงความมั่นใจ และปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ในเมือง แล้วก็อย่างที่บอกไปว่า “ขนาด” เป็นแค่เรื่องของ “ความรู้สึก” ฉะนั้นไม่ว่าจะด้านหน้า หรือด้านหลัง การกะระยะของ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive จึงไม่ต่างอะไรกับ Mercedes-Benz GLC

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ขุมพลังเรา “ประเมิน” ไว้แค่ “ดี” … แต่เจ้านี่ให้มามากกว่านั้น จนกลายเป็น “ประทับใจ” ตั้งแต่การออกตัวที่รวดเร็ว ราวกับเป็นรถเครื่องใหญ่ แถมส่งกำลังได้อย่างราบเรียบ ต่อเนื่องด้วยความดีจากแรงบิด 250 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 1,620 – 4,000 รอบต่อนาที และเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (7G-DCT) ซึ่งไม่เพียงแค่ให้ความเร้าใจในช่วงออกตัวเท่านั้น

แต่ยังให้ความคล่องตัว และความสนุก เมื่อผสานเข้ากับการตอบสนองของพวงมาลัย ต่อยอดไปยังความมั่นใจด้วยทัศนวิสัย ที่ทำให้การขับขี่ในเมืองด้วย ”รถใหญ่” ไม่ได้สร้าง “ภาระ” ให้ชีวิต แถมยังสร้าง “สีสัน” เพิ่มเติมได้ด้วยการปรับเปลี่ยนโหมดที่มีให้ 4 รูปแบบ คือ  Eco, Comfort, Sport และ Individual

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

ซึ่งดูจากรูปการแล้ว เราคาดเดาว่ากลุ้มเป้าหมายของ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive น่าจะเน้นความสำคัญด้านการใช้งานมากกว่าการขับ ทำให้เราเลือกขอเอาโหมด Sport ไว้ลองทีหลัง และเอาโหมด ECO พับเก็บใส่กระเป๋า เพราะถ้าซื้อรถราคาเกือบ 3 ล้านบาท เรื่องประหยัดก็อาจจะไม่ใช่ประเด็นเช่นกัน

ฉะนั้นโหมด Comfort ดูจะเป็นอะไรที่ลงตัว ทั้งยังมากพอจะบอกเราว่าค่อนข้างเหมาะสมกับผู้ที่รักความสบายๆ ในภาพรวมของการใช้งาน ทั้งจากสมรรถนะของเครื่องยนต์, การควบคุม และช่วงล่างซึ่งออกแนวนุ่มแน่นมากกว่า

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

เรามีโอกาสหลุดออกนอกเมืองให้ขยับความเร็วขึ้นอีกนิด เพื่อลองสัมผัสอารมณ์ย่านความเร็วสูง ซึ่งยังคงน่าประทับใจ แม้ช่วงล่างจะถูกเซ็ท โดยไม่เน้นการฉายแววความสปอร์ตมากนัก แต่ก็ถือว่าเอาเรื่องอยู่ทั้งด้านการทรงตัว และการยึดเกาะถนนที่มั่นใจ ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้งานปกติ โดยหากอยากได้รสชาติมากกว่านี้โหมด Sport สามารถปรุงเพิ่มให้ได้ หรือไม่ก็กระดิก Paddle Shift หลังพวงมาลัย แต่ก็อย่า “คาดหวัง” เกินไป

เพราะอย่าลืมว่า “สถานะ” ของ Mercedes-Benz GLB 200 Progressive คือ รถอเนกประสงค์แบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง แล้วก็ไม่ใช่ AMG Look ฉะนั้นการปรับเซ็ทจึงเป็นอะไรที่มีรสชาติความสปอร์ตให้ได้ชิมเบาๆ เช่นเดียวกับฐานะการเป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า

ที่มีขีดจำกัดมากกว่ารถในกลุ่ม Off-Road ซึ่งกลายเป็นกรอบจำกัดตามสไตล์ Crossover ที่ลุยได้เล็กๆ น้อยๆ โดยหันไปเลือกตอบโจทย์การใช้งานในเมือง หรือเดินทางข้ามจังหวัดมากกว่า

Mercedes-Benz GLB 200 Progressive
Mercedes-Benz GLB 200 Progressive

Specification : Mercedes-Benz GLB 200 Progressive         

  • Price : 2,860,000 BHT
  • Engine : 1,332 CC / 4 Cylinder / 16 Valve / Turbocharger / Intercooler 163 hp @ 5,500 rpm / 250 Nm @ 1,620-4,000 rpm 
  • Transmission : 7A/T (7G-DCT) / Front Wheel Drive
  • Performance : 0 – 100 Km/h @ 9.1 Sec / Top Speed @ 207 Km/h
  • Weight : N/A

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …