รีวิว ทดสอบ Mitsubishi Outlander PHEV (2.4 Plug-in Hybrid) รถปลั๊กอินไฮบริด ให้กำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 305 แรงม้า ราคาเริ่มต้นที่ 1,640,000 บาท
รีวิว ทดสอบ Mitsubishi Outlander PHEV (2.4 Plug-in Hybrid)
Mitsubishi Outlander PHEV
Mitsubishi Outlander PHEV เป็นรถเอสยูวีที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ รูปลักษณ์ภายนอกของ Mitsubishi Outlander PHEV มีความผสมผสานระหว่างความโฉบเฉี่ยวและความเรียบหรูในแบบของ SUV ส่วนของหน้ารถถูกออกแบบตามแนวคิด Advanced Dynamic Shield Design อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Mitsubishi ไฟหน้าเป็นระบบส่องสว่างด้วยหลอด LED โดยระบบสามารถปรับระดับสูง – ต่ำ ให้เองอัตโนมัติ เพื่อป้องกันปัญหาแสงไฟไปรบกวนสายตาผู้ขับรถคันอื่น
อีกทั้งยังมีไฟตัดหมอก LED สีขาว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยไฟ LED Daytime Running Lights ที่ส่องสว่างอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งในเวลากลางวัน ช่วยให้ผู้ขับรถคันอื่น คนเดินถนน และผู้ใช้จักรยานสามารถมองเห็นได้ชัดเจน มาพร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ให้คุณสะดวกสบายกว่าที่เคย
การออกแบบคอนโซลหน้าและคอนโซลกลาง ทำให้พื้นที่ด้านฝั่งคนขับและห้องโดยสารกว้างขวางมาก สำหรับคนสูง 180 ซม. ไม่มีปัญหาในการเข้าออก พื้นที่ว่างระหว่างขาก็มีเหลือเฟือ รวมไปถึงพื้นที่เหนือศรีษะ พร้อมเบาะที่โอบแนบตัวนั่งสบาย และในตัวท็อปจะมีลายดีไซน์ Diamond Quilting มาอีกด้วย หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟน พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth Hand Free รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง เชื่อมทุกความบันเทิงไร้ขีดจำกัดกับ Apple CarPlay
อีกจุดเด่นของรถคันนี้คือ ช่องเสียบปลั๊กชาร์จจ่ายกระแสไฟฟ้าออกเป็นกระแสสลับได้ไม่เกิน 1500 วัตต์ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่มากกว่า ซึ่งคุณสามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในเรือนไม่ว่าจะเป็นทีวี เครื่องดูดฝุ่น ไมโครเวฟ ได้เลย โดยน้ำมันถังหนึ่งสามารถชาร์จไฟได้นานถึง 10 วัน (ในการใช้ไฟฟ้าที่เหมาะสม) โดยที่ญี่ปุ่นรถคันนี้ถูกใช้เป็นรถกู้ภัยพิบัติ ในพื้นที่ที่ได้รับภัยพิบัติทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้
โดยแบตเตอรี่ถ้าชาร์จด้วยระบบหัวชาร์จ CHAdeMO จะใช้เวลา 25 นาที จะได้ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นแบบทั่วไปจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง จะได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน 300 VOLT ความจุ 13.8 กิโลวัตต์-ชั่วโมง
Mitsubishi Outlander PHEV รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC MIVEC ขนาด 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 4,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 199 นิวตันเมตร มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ด้านหน้ากำลังสูงสุด 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 137 นิวตันเมตร และ ด้านหลังกำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 195 นิวตันเมตร ให้กำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 305 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 531 นิวตัน-เมตร
ระบบการขับขี่มีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมด ได้แก่ EV Drive Mode สำหรับใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% โดยสามารถวิ่งได้ไกลถึง 55 กิโลเมตร ที่ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 120 กิโลเมตร , Series Hybrid Mode ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยเครื่องยนต์จะทำงานแต่ป้อนไฟฟ้ากลับสู่แบตตอรี่ และ Parallel Hybrid Mode ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์พร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งระบบนี้เครื่องยนต์จะทำงานพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าก็ต่อเมื่อความเร็วเกิน 135 กิโลเมตรขึ้นไป
ซึ่งจากความก้าวหน้าแห่งการผสมผสานทำให้รถคันนี้สามารถทำอัตราบริโภคเชื้อเพลิงตาม ECO Sticker ได้ถึง 52.6 กิโลเมตรต่อลิตร พร้อมปล่อย CO2 เพียง 43 g/Km ระบบขับเคลื่อนและช่วงล่างนำมาจากรถแข่งในตำนานอย่าง Evolution ซึ่งเป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอิสระ S-AWC ที่มาพร้อมกับโหมดต่างๆ ให้เหมาะกับการขับขี่ในทุกภูมิประเทศ
ที่ปรับการขับได้ 4 รูปแบบตามสภาพเส้นทาง คือ Normal – ควบคุมการกระจายแรงบิดไปแต่ละล้อโดยอัตโนมัติ, Snow – สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวถนนลื่น, Lock สำหรับการขับขี่บนพื้นผิวถนนขรุขระ หรือขับบนทราย Sport – ตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ต
ด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยของ Mitsubishi Outlander PHEV ขนมาแบบเต็มพิกัดให้สมกับที่เป็นรถ PHEV คันแรกของทางมิตซูบิชิ โดยมีระบบที่น่าสนใจดังนี้
- ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM)
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW)
- ระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA)
- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
- ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC – Adaptive Cruise Control)
- ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS)
- กล้องมองภาพรอบคัน
รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่น ๆ คือ
- ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน
- ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD)
- ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
- ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC)
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA)
- ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
การทดสอบในครั้งนี้เป็นการทดสอบแบบสั้น โดยเรามีโอกาสขับ 4 รอบ โดยใช้โหมดการขับขี่ที่แตกต่างกัน โดยใช้ Normal, EV, Sport ซึ่งสัมผัสแรงที่รู้สึกเมื่อเข้ามาในรถ รถค่อนข้างกว้างสำหรับคนตัวใหญ่การเข้าออกไม่ใช้ปัญญา มีพื้นที่มากพอ โดยไม่ต้องกังวลว่าหัวจะชนกับสันเพดานประตู ทัศนวิสัยดูโปร่ง เสาเอไม่ใหญ่จนบังมุมมองขับขี่เวลาเลี้ยวโค้ง จุดอับถือว่าน้อยมาก
เริ่มต้นเรากดคันเร่งสุด อัตราเร่งถือว่าคล่องแคล่วเมื่อเทียบกับขนาดของรถที่มีขนาดใหญ่ ด้วยพละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว พร้องเครื่องยนต์กว่า 300 แรงม้า ทำให้อัตราเร่งแซงในชีวิตจริงคงไม่น่ากังวล เราชู๊ตตัวรถออกไประยะประมาณ 50 เมตร เราบรรจงกดเบรกแบบเต็มเท้าให้ตัวรถหยุดสนิท ระบบเบรกถือว่าสั้นพอสมควร
น้ำหนักเบรกไม่ทื่อเหมือนรถไฮบริดหลายรุ่น ตอบสนองตามเท้าดี ก่อนเข้าสู่วงเวียนที่มีการลาดน้ำผสมผงซักฟอง เพื่อเพิ่มความลื่น ซึ่งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอิสระ S-AWC และระบบช่วยเหลือในการขับขี่ ช่วยทำงานให้รถไม่เสียอาการได้เป็นอย่างดี
อีกจุดหนึ่งที่รู้สึกชอบคงเป็นพวงมาลัยที่แม้จะมีน้ำหนักเบา แต่ค่อนข้างแม่นยำ ทำให้รู้สึกว่าควบคุมรถที่มีขนาดใหญ่ให้ดูคล่องแคล่วไปเลย ซึ่งคุณผู้หญิงน่าจะชอบฟิลลิ่งของพวงมาลัยแบบนี้ ก่อนจบด้วยการสลาลอม ซึ่งถือว่าดีทีเดียว ตัวรถไม่ค่อยมีอาการโยน หรือยวบยาบมากนัก ช่วงล่างค่อนข้างนุ่มนวลน่าจะให้ความสะดวกสบายเวลาขับขี่ไปไกลๆ ได้เป็นอย่างดี
จากการทดสอบสั้นในเรื่องการขับขี่ถือว่า Mitsubishi Outlander PHEV นั้นทำได้ดีไม่เป็นลองใคร ซึ่งถ้าเทียบในกลุ่มตลาดรถแบบ PHEV ถ้าเป็นฝั่งยุโรปราคาจะเกินสองล้านแทบทั้งหมด จะมีก็แค่ MG ที่มาด้วยราคาแตะ 1.3 ล้านบาท ในรถแบบ PHEV
แต่กลุ่มรถที่ทางมิตซูบิชิกะเอามาท้าสู้นั้น ในตลาดรถ SUV-C ถือว่าราคาสูสีกันเลยทีเดียว แถมมิตซูบิชิก็มาด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจกว่า คงต้องรอดูว่าความประหยัดและความคุ้มค่าจะถูกใจผู้บริโภคชาวไทยได้มากน้อยเพียงใด
New Mitsubishi Outlander PHEV มีตัวถังให้เลือก 3 สีคือ
- White Diamond
- Sterling Silver
- Jet Black Mica
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
- 2.4 PHEV GT 4WD 1,640,000 บาท
- 2.4 PHEV GT-Premium 4WD 1,749,000 บาท