รีวิว ทดสอบ BMW 330e M Sport เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พิกัด 2 ลิตร 292 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
รีวิว ทดสอบ BMW 330e M Sport Plug-in Hybrid เจนเนอเรชั่นล่าสุด รหัส G20
BMW 330e M Sport Plug-in Hybrid
เรายังคงเชื่อมั่นว่ายนตรกรรมสไตล์ Plug in Hybrid ของ BMW นั้นไม่ได้เกิดมาเพื่อเน้นในเรื่องของความ “ประหยัด” เพียงอย่างเดียว และคุณจะเชื่อเราได้ก็มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นก็คือการ “กดคันเร่ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ BMW 330e M sport เจนเนอเรชั่นล่าสุดรหัส G20 รุ่นนี้
e Drive i-Performance คือ แกนกลางอันเป็นหัวใจหลักของ BMW 330e M Sport เจนเนอเรชั่นล่าสุดรหัส G20 ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายใต้รูปลักษณ์ที่แรกๆ ส่วนตัวเรารู้สึกว่าแตกต่างจากรุ่นพี่เจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา โดยเฉพาะมุมมองจากด้านหน้าในส่วนของ “รอยหยัก” เล็กๆ ที่ขอบด้านล่างของชุดไฟหน้า ซึ่งนั่นคืองานออกแบบจากดีไซเนอร์ที่เราสารภาพตรงๆ ว่า “เข้าไม่ถึง” เรื่องการนำเสนอ
แต่ถ้าได้มองจนคุ้นตา และข้ามรายละเอียดเฉพาะจุด ไปมองภาพรวมการออกแบบมากกว่า คุณจะรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ปัญหา โดยเฉพาะเมื่อเจาะจงลงไปที่ออปชันมาตรฐาน ซึ่งไล่มาตั้งแต่ ชุดไฟหน้าแบบ LED ที่มาพร้อมกับชุดไฟ Daytime Running Lights แบบ LED เช่นกัน นอกจากนี้ในส่วนของชุดกระจังหน้ารูปไตคู่
ยังมาพร้อมกับระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ซึ่งจะทำงานตามระดับอุณหภูมิเครื่องยนต์ เพื่อช่วยยกระดับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ร่วมกับชุดกันชนหน้าสไตล์ M ที่ดีไซน์มาให้มีความโดดเด่นทั้งในส่วนของชุดไฟตัดหมอก LED และช่องดักอากาศขนาดใหญ่ลายรังผึ้ง
ส่วนด้านข้างยังคงมากับความเป็นรถ 4 ประตู ที่ผสมผสานความเร้าใจจากชุดแต่ง M Sport รอบคัน โดยมีจุดเด่นเป็นล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง 225/40 R19 ขณะที่ล้อคู่หลังแม้จะมากับขนาด 19 นิ้วเท่ากัน แต่ก็เพิ่มความหล่อเข้าไปอีกขั้นด้วยล้ออัลลอยขนาด 255/35 R19
โดยมีด้านหลังที่สะดุดตาจากชุดไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ในรูปทรงแนวนอนทอดตัวยาวบนแนวของฝากระโปรงท้าย ที่ออกแบบให้มีลักษณะเป็นสปอยเลอร์ทรง Duck Tail ในตัว รับกับด้านล่างที่มากับชุดกันชนหลัง เสริม Diffuser พองาม ประกบด้วยชุดไอเสียทรงกลมคู่
เปิดประตูเข้ามาในห้องโดยสารคุณจะพบกับความพรีเมี่ยม ทั้งงานดีไซน์ และการเลือกใช้วัสดุ ต่อเนื่องไปจนถึงบรรดาอุปกรณ์ล้ำสมัยที่ถูกใส่มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ภายใต้แนวทางที่ต้องบอกว่าสาวก BMW น่าจะคุ้นเคย จากเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา เพราะแค่มีรายละเอียดที่สดใหม่กว่า เช่น
เบาะนั่งหนังแท้ Vernasca ดีไซน์สปอร์ตพร้อมระบบปรับไฟฟ้า, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น M Sport ตลอดจนชุดคอนโซลเกียร์ ที่มาพร้อมแผงสวิตช์ควบคุม และฟังก์ชั่นระบบ iDrive ที่แสดงผลได้ทั้งบนหน้าจอ BMW Live Cockpit Professional และหน้าจอ Infotainment ขนาด 12.3 นิ้ว บนคอนโซลกลางได้
แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เคยผ่านมือยนตรกรรม Plug in Hybrid ของ BMW มาก่อน สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น คงเป็นอะไรที่แทบจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจเป็นเจ้าของ นอกจากความร้ายกาจของขุมพลัง ที่หลายคนคงน่าจะสงสัยในวัตถุประสงค์ไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างเรี่ยวแรงที่ถูกอัพเกรดให้มากขึ้นกว่าเจนเนอเรชั่นที่ผ่านมา
จากส่วนประกอบของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ พิกัด 2 ลิตร เสริมแรงด้วยระบบอัดอากาศ BMW TwinPower Turbo สำหรับทำเรี่ยวแรงสูงสด 184 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีกำลังรวม 113 แรงม้า ซึ่งมากับแรงบิด 265 นิวตันเมตร ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น Electric Boost
ซึ่งรวมกันแล้วทำกำลังได้สูงสุดอยู่ที่ 292 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 420 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังจะมากับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดแบบ Sport Steptronic ที่ลำเลียงกำลังทั้งหมดออกมาสร้างอัตราเร่งร้ายกาจระดับ 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 230 กม./ชม.
การควบคุมยังคงเป็นหน้าที่ของชุดพวงมาลัยไฟฟ้า BMW Servotronic ซึ่งแปรผันน้ำหนักไปตามความเร็ว และโหมดในการขับขี่ ตามด้วยระบบช่วงล่างแบบ M Adaptive Suspension จากพื้นฐานด้านหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ก่อนปิดท้ายด้วยระบบเบรกที่จัดชุดใหญ่แบบ BMW M Performance Brakes มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อเป็นส่วนผสมอันสมบูรณ์แบบให้กับ BMW 330e M sport
ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนคงรับรู้ได้ทันที ที่เริ่มสัมผัส โดยเฉพาะอัตราเร่งอันดุเดือดจากโหมด Sport เพื่อเค้นความสามารถของพละกำลังทั้ง 292 แรงม้า และแรงบิดระดับ 420 นิวตันเมตร ซึ่งนอกจาก “แรงดึง” หนักแน่นแล้ว ยังมี “เสียง” เป็นสิ่งยั่วยุสำคัญ ที่รับรองว่าใครได้ฟังก็เลือกเสพความเร้าใจในโหมด Sport ได้ยาก จนบางครั้งเราเองก็สงสัยว่านี่คือสมรรถนะจาก BMW Plug in Hybrid หรือ BMW M กันแน่
รวมไปถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากระบบพวงมาลัย และระบบช่วงล่าง ซึ่งเรียกว่าได้เป็น BMW Style อันชัดเจน ทั้งจากน้ำหนักหน่วงที่ชัดเจน ขณะควบคุมผ่านถนนคดเคี้ยว และอารมณ์ตึงตังของช่วงล่างที่คนชอบความนุ่มนวลอันเพลิดเพลินอาจไม่ถูกใจนัก แต่หากเป็นพวกหลงใหลการขับ รับรองว่าต้องมีรอยยิ้มเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยนอกจากโหมด Sport แล้ว 330e M sport ยังมากับโหมด Hybrid, โหมด Electric และโหมด Adaptive ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม
ซึ่งบอกตรงๆ ว่าด้วยตัวตนความเป็น BMW ที่แสดงออกผ่านงานดีไซน์ ตลอดจนองค์ประกอบด้านไดนามิคทั้งหลาย มันทำให้เราสนใจโหมด Sport มากกว่าสิ่งอื่นใด เวลาที่ได้ออกมาโลดแล่นอยู่นอกเมือง บนถนนสายรองที่พิ้นผิวราบเรียบ และน้อยเพื่อนร่วมทาง เอื้ออำนวยให้เราได้ใกล้ชิดกับความเร้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะกับการสัมผัสศักยภาพในการเข้าโค้ง ที่เปี่ยมด้วยเสถียรภาพ และความแนบแน่นของเบื้องล่าง ที่สร้างความมั่นใจได้มากพอให้คุณเพิ่มน้ำหนักเท้าขวาขึ้นอีกนิด เมื่อสายตามองเห็นทางออกที่ปลายโค้ง จนเราพนันได้ว่าคุณไม่เบื่อที่จะทำแบบนั้นครั้งแล้ว ครั้งเล่า
ก่อนที่จะกลับเข้ามาในเมืองช่วงเย็น ซึ่งแน่นอนหล่ะว่าหน้าที่นี้ต้องเป็นโหมด Hybrid เพื่อให้เจ้า 330e M sport ได้พักผ่อนบ้าง หลังจากที่รับบทหนักมาแล้วทั้งวัน พูดง่ายๆ ว่าเหมือนเป็นการ “ปลอบใจ” เล็ก ก่อนที่เราจะเริ่มกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะต่อให้มันมีคุณสมบัติความประหยัดมากพอๆ กับรถ Eco Car แต่เชื่อเถอะว่าคุณจะคิดถึงเรื่องนั้นน้อยที่สุดมากๆ หากได้ครอบครองสปอร์ตซีดานพลังสูงอย่าง BMW 330e M sport
Specification: BMW 330e M Sport
- Price : 2,799,000 BHT
- Engine : 1,998CC / 4 Cylinder 16 Valve 184 hp @ 5,000 – 6,500 rpm / 300 Nm @ 1,350 – 4,000 rpm
- Electric Motor : 113 hp / 265 Nm
- Transmission : 8A/T / Rear Wheel Drive
- Performance : 0 – 100 Km/h @ 5.9 Sec / Top Speed @ 230 Km/h
- Weight : N/A