รีวิว ทดสอบ BMW X7 M50d รถอเนกประสงค์ SAV (Sports Activity Vehicle) ขนาดใหญ่แห่งค่าย BMW กับสมญานาม “The President” ราคาจำหน่าย 8,999,000 บาท
รีวิว ทดสอบ BMW X7 M50d รถอเนกประสงค์ (SAV) พิกัดใหญ่สุดของแบรนด์
BMW X7 M50d
รู้หรือไม่ … ? ว่า ยนตรกรรมอเนกประสงค์จากค่าย BMW เค้ามีชื่อเล่นเป็น “ฉายา” บอกฐานะ เช่น BMW X5 กับนามที่เหล่า Bimmer เรียกขานกันว่า “The Boss” … เพราะงั้นเราเลยจะมา บอกว่าทำไม BMW X7 อัครยานยนต์อเนกประสงค์พิกัดใหญ่สุดของแบรนด์ ถึงเหมาะกับสมญานาม “The President”
สำหรับ BMW X7 เวอร์ชั่นที่จำหน่ายในบ้านเราจะมากับรหัสเครื่องยนต์ M50d ที่มีความต่างหลักๆ คือ จำนวนที่นั่ง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ แบบ 6 ที่นั่ง (6 Seater) และแบบ 7 ที่นั่ง (7 Seater) ภายใต้ความสมบูรณ์แบบบนตัวถังรถอเนกประสงค์ SAV (Sports Activity Vehicle) ขนาดใหญ่แห่งค่าย BMW จากมิติตัวถังที่ว่ากันด้วยความยาวระดับ 5,151 มม., ความกว้าง 2,000 มม. และความสูง 1,805 มม. กับน้ำหนักตัวระดับ 2,535 กก.
ทั้งยังมีรายละเอียดงานดีไซน์ที่โดดเด่น และใหญ่โตเหมาะสมกับขนาดตัว เช่น ชุดกระจังหน้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี Active Air Stream สำหรับเปิด-ปิดซี่กระจัง สำหรับทำหน้าที่ควบคุมความเหมาะสมของอุณหภูมิในห้องเครื่อง ประกบด้วยชุดไฟหน้าทรงเฉี่ยว BMW Laserlight ที่มาพร้อมระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ ขณะที่ด้านล่างมากับช่องดักอากาศชุดกันชนหน้าขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ โดยมีชุดไฟตัดหมอกแบบ LED ประจำการทั้ง 2 ฝั่งซ้าย-ขวา
นอกจากนี้ในส่วนของช่องดักอากาศบริเวณไฟตัดหมอก ยังถูกออกแบบให้ทะลุต่อเนื่องไปถึงช่องดักอากาศ Air Breather ขนาดใหญ่บริเวณหลังซุ้มล้อหน้า เพื่อช่วยจัดเรียงกระแสลม และระบายความร้อนให้ระบบเบรก M Sport ที่ที่ติดตั้งอยู่ในล้ออัลลอย BMW Individual ขนาด 22 นิ้วอีกด้วย
ในด้านหลังเรียกได้ว่าแสดงอย่างชัดเจนถึงความบึกบึนจากความเหลี่ยมสัน ขณะเดียวกันก็เพิ่มเติมความรู้สึกกว้างขวางเข้าไปอีกขั้นด้วยชุดไฟท้ายแนวนอน ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียม รับกับชุดท่อไอเสียขนาดใหญ่ที่มุมกันชนทั้ง 2 ฝั่ง
ซึ่งบอกตามตรงเลยว่า แม้จะใช้เส้นสายโค้งมน รวมไปถึงการใส่ชุดแต่ง M Aerodynamics เข้ามากลบเกลื่อนความใหญ่โต ด้วยการสร้างอารมณ์ความสปอร์ต ปราดเปรียว แต่เชื่อเถอะว่าแค่เดินมองรอบๆ คัน มันก็ทำให้หลายคนที่ไม่คุ้นชินกับรถขนาดใหญ่ แอบหวั่นใจได้ง่ายๆ เหมือนกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ลองเอาตัวเองเข้าไปประจำการอยู่ในห้องโดยสาร คุณจะรู้สึกได้ถึงความสูงที่มากกว่าปกติ ซึ่งข้อดีก็คือทัศนวิสัยที่เหนือกว่า และช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น ส่วนฟังก์ชั่นที่จัดมาให้นั้นบอกเลยว่า “ยาวเหยียด” ครบครันแบบไม่ขาดตกบกพร่องทั้งในรุ่น 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง ชนิดที่ว่า “เปลือง” เวลาถ้าจะลองเล่นทุกอย่าง แถม “เปลือง” หน้ากระดาษแน่นอนถ้าจะร่ายให้หมด ฉะนั้นเอาแค่ฟังก์ชั่นหลักที่ใช้งานบ่อย และเทคโนโลยีที่เรารู้สึก “ว้าว” ดีกว่า
เช่น หน้าจอ BMW Live Cockpit Professional แบบดิจิตอลที่แสดงผลอย่างชัดเจอ เช่นเดียวกับหน้าจอ Infotainment ที่มากับระบบ BMW ConnectedDrive ที่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และช่อง USB แถมด้วยระบบเครื่องเสียงจากแบรนด์ชั้นนำ Harman Kardon ที่ควบคุมได้ง่ายๆ ทั้งปุ่มมัลติฟังก์ชั่นบนพวงมาลัย, ฟังก์ชั่น iDrive หรือการเคลื่อนไหวด้วยมือจากระบบ Gesture Control
รวมไปถึงระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายที่ไม่เพียงชาร์จแบตได้แค่โทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกุญแจรีโมท BMW Display Key ที่จะทำให้ไม่ต้องกลัวเรื่องกุญแจแบตหมดอีกต่อไป แถมกุญแจรีโมทนี้ยังเป็นอีกสิ่งที่สร้างความสะดวกสบายจากฟังก์ชั่นการควบคุมต่างๆ เช่น การปรับระดับสูง-ต่ำของตัวรถ ไปจนถึงการแจ้งเตือน
และตรวจสอบการล็อค หรือปลดล็อคประตู จนกระทั่งลืมปิดหน้าต่าง ส่วนด้านหลังก็มากับความ “อัตโนมัติ” ของฝาท้ายที่มาพร้อมระบบ Kick Sensor รวมไปถึงการปรับเบาะนั่งแถวที่ 2 หรือ 3 ที่ทำได้ง่ายๆ เพียง “กดปุ่ม” เท่านั้น
และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า BMW X7 เวอร์ชั่นที่จำหน่ายในบ้านเรานั้นมีเพียงรุ่นเดียว คือ เครื่องยนต์ M50d ซึ่งมีความเร้าใจจากขุมพลัง ดีเซล 6 สูบ พิกัด 3.0 ลิตร เป็นพื้นฐาน เสริมแรงด้วยเทคโนโลยี BMW M Performance TwinPower Turbo แบบ Quad Turbo ที่มีทั้งหมด 4 ตัว
โดยแบ่งเป็นความดันต่ำ 2 ตัว และความดันสูง 2 ตัว ประมวลผลรวมแล้วมีเรี่ยวแรงให้ใช้ถึงระดับ 400 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาล 760 นิวตันเมตร ถ่ายทอดกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Steptronic สู่ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะแบบ 4 ล้อ xDrive
ภายใต้การควบคุมที่ง่ายดายจากชุดพวงมาลัยไฟฟ้าแบบ Servotronic และระบบปรับองศาล้อหลัง Integral Active Steering เสริมชุดเฟืองท้าย M Sport ตลอดจนการติดตั้งระบบช่วงล่างถุงลมแบบ Adaptive 2-Axle พ่วงออปชัน Executive Drive Pro ที่สามารถแปรผันระดับความสูงได้อัตโนมัติตามระบบ BMW Driving Experience Control หรือเลือกปรับแบบ Manual ได้จากทั้งบนกุญแจรีโมท BMW Display Key และปุ่มบนคอนโซลเกียร์
ซึ่งด้วยรายละเอียดด้านสมรรถนะที่ยั่วใจขนาดนี้ ทำให้เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าอยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดกับเจ้า BMW X7 M50d เพราะงั้นปุ่ม Start ที่ตกแต่งด้วยผลึกแก้ว Crafted Clarity จึงถูกใช้งานเป็นอย่างแรก ตามด้วยชุดหัวเกียร์ที่ตกแต่งด้วยผลึกแก้ว Crafted Clarity เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งจาก P เป็น D ก่อนจะเคลื่อนตัวช้าๆ เพื่อทำความคุ้นเคยกับตัวรถพิกัดยักษ์ท่ามกลางสภาพการจราจร
จนกระทั่งเกิดความมั่นใจเต็มพิกัด ในการเพิ่มน้ำหนักเท้าขวา เพื่อเคลื่อนย้ายร่างด้วยความเร็วมากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือข้อดีของ “ความสูง” ตัวรถ ที่เอื้ออำนวยให้ทัศนวิสัยเบื้องหน้าดี จนตัดสินใจได้ง่าย แถมด้วยเรี่ยวแรงเหลือๆ และการตอบสนองอย่างฉับไว ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมในการสร้างความสนุก จากความคล่องตัวแบบเหนือคาด
โดยทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยกความดีให้กับน้ำหนักของพวงมาลัยแบบแปรผัน และระบบปรับองศาล้อหลัง Integral Active Steering ที่ทำให้วงเลี้ยวนั้นมีความแคบสุดในระดับใกล้เคียงกับ 3-Series
และหลังจากที่เรามั่นใจว่า “ขนาด” ไม่ใช่ “ปัญหา” เมื่อใช้งานในเมือง เราจึงไม่รอช้าที่จะออกเดินทางไปเล่นกับระดับความเร็วที่มากขึ้น พร้อมกับเลือกรูปแบบการขับขี่จากฟังก์ชั่น BMW Driving Experience Control ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่โหมด Eco Pro, Adaptive หรือ Comfort หากแต่ต้องเป็น Sport เท่านั้น ถึงจะรู้สึกได้ว่าเรากำลังให้ความเคารพ เรี่ยวแรงระดับ 400 แรงม้า และแรงบิด 760 นิวตันเมตรที่ให้มา
ซึ่งทันทีที่เราได้จังหวะถนนโล่งมากพอให้บดคันเร่งเต็มเท้า ความดุเดือดจากขุมพลังก็แสดงออกมาให้เห็นทันที จากแรงดึงหนักแน่น และต่อเนื่อง ในแบบที่แทบไม่อยากเชื่อว่าเรากำลังอยู่ในรถคันโตน้ำหนักกว่า 2.5 ตัน และด้วยความสามารถระดับนี้ แน่นอนคุณอาจ “กลัว” แต่เชื่อเถอะว่า ในเวลาไม่นานความกลัวที่ว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นความ “สนุก” จากองค์ประกอบหลากหลายอย่างที่สร้างความ “มันส์” ไปพร้อมกับความ “มั่นใจ”
ว่าไปตั้งแต่ “แรงดึง” หนักแต่ไม่กระชากกระชั้น หากแต่เป็นไปอย่างนุ่มนวลต่อเนื่อง ทัศนวิสัยที่ดี ไปจนถึงการแปรผันของน้ำหนักพวงมาลัยที่กระชับ รวมถึงความสามารถของระบบช่วงล่างอันหนักแน่น อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ ในแบบที่แม้คุณซิ่งด้วยความเร็วเกินมาตรฐานความเร็ว ผู้โดยสารบนรถก็ยังนั่งกันได้อย่างสบายใจ ได้ไร้อาการเหงื่อชื้นมือ
และเหนืออื่นใดก็คือมาตรฐานความปลอดภัยจากตัวช่วยต่างๆ ที่เรียงรายกันเข้ามาตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน จนกระทั่งถึงระดับอัจฉริยะ ที่ช่วยทำให้การขับขี่เป็นเรื่องง่าย และมั่นใจ แม้กระทั่งการจอดรถที่มีระบบ Parking Assistant Plus คอยช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติทั้งแบบเทียบข้าง หรือถอยเข้าซอง
โดยการทำงานร่วมกับกล้องมองภาพรอบทิศทาง จากนั้นสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ “นั่งเฉยๆ” ไม่ต้องควบคุมอะไร เพราะไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเกียร์, ทิศทางของพวงมาลัย และการเบรก ทุกอย่างจะกระทำโดยอัตโนมัติ
ซึ่งรวมไปถึงฟังก์ชั่น Reversing Assistant หรือ “การถอย” อัตโนมัติในระยะ 50 เมตร เพียงแค่ผู้ขับขี่ต้องทำหน้าที่ควบคุมคันเร่ง และเบรกด้วยตัวเอง แต่แค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เส้นทางแคบๆ ยากต่อการกลับรถกลายเป็นเรื่องง่ายไปโดยปริยายเลยทีเดียว
Specification : BMW X7 M50d
- Price : 8,999,000 BHT
- Engine : Diesel / BMW M Performance TwinPower Turbo 2,993 CC / 6 Cylinder / 24 Valve / 400 hp @ 4,400 rpm / 760 Nm @ 2,000-3,000 rpm
- Transmission : 8A/T / xDrive (All Wheel Drive)
- Performance : 0 – 100 Km/h @ 5.4 Sec / Top Speed @ 250 Km/h
- Weight : 2,535 Kg.