รีวิว ทดสอบรถ: All-New Corolla CROSS รถยนต์อเนกประสงค์ SUV ไฮบริด

รีวิว ทดสอบรถ: All-New Corolla CROSS ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพื่อที่สุดของความสะดวกสบาย

รีวิว ทดสอบรถ: All-New Corolla CROSS รถยนต์อเนกประสงค์ SUV ไฮบริด

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

รีวิว ทดสอบรถ: All-New Corolla CROSS

โตโยต้าเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทย “โคโรลล่า ครอส” ใหม่ A New Journey…ให้ชีวิตเดินทาง พร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นตอบโจทย์การใช้ชีวิตเพื่อที่สุดของความสะดวกสบาย กับการเดินทางที่จะเติมเต็มความหมายให้กับชีวิต ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2563

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์อเนกประสงค์ SUV ครั้งแรกของโลกที่ประเทศไทยกับ “โคโรลล่า ครอส” ใหม่ (All-New Corolla CROSS) ด้วยการออกแบบภายนอกให้ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว และมีความแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารกับที่สุดแห่งความกว้างขวาง สะดวกสบายพร้อมด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระที่มีความจุมากถึง 487 ลิตร และสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมอบความเงียบภายในห้องโดยสารได้อย่างยอดเยี่ยม ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคปัจจุบันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานของอุปกรณ์อำนวยความสะดวก อาทิ ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดฝาท้ายไฟฟ้าแบบ Kick activated และกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic view monitor) เพิ่มความสะดวกสบายเบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงปรับเอนได้ 6 องศา หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apply Carplay และ และ T-Connect เชื่อมต่อความสุขทุกเส้นทางให้คุณอุ่นใจปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้สมรรถนะที่เหนือกว่า ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร ทั้งแบบเบนซิน และแบบไฮบริดรุ่นล่าสุดเจเนเรชันที่ 4 ที่ให้ทั้งอัตราเร่งที่ตอบสนองได้ทันใจและประหยัดน้ำมัน

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ตามที่โตโยต้าได้ก้าวสู่การเป็นองค์กรแห่งการขับเคลื่อน (Mobility Company) ด้วยการเดินหน้ามอบความสุขและความปลอดภัยให้กับทุกคน ภายใต้ปรัชญาของโตโยต้าที่มุ่งสร้างสรรค์ “ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า” (Ever Better Car) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งขึ้น และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดนี้ คือรถรุ่นที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน และเป็นยนตรกรรมที่จะเปิดประสบการณ์ให้ท่านได้ไปพบกับการเดินทางครั้งใหม่ สำหรับวิถีชีวิตแบบใหม่ ภายใต้รถยนต์อเนกประสงค์ “โคโรลล่า ครอส” ใหม่ (All New Corolla CROSS)

สิ่งที่ทุกท่านจะได้รับจากรถรุ่นนี้ คือ “การได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัวในพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว” รวมถึง “สะท้อนตัวตนและบ่งบอกไลฟ์สไตล์” ด้วยการออกแบบภายนอกที่ผสานความทรงพลังกับความปราณีตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมมอบพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางโอ่โถง และความอเนกประสงค์ที่เป็นเลิศเหนือความคาดหมายภายใต้ราคาที่จับต้องได้

โดย โคโรลล่า ครอส จะถูกส่งออกจากโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าเกตเวย์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์นั่งของโตโยต้าที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นรถรุ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นโดยฝีมือคนไทย และส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ภายใต้ฝีมือการผลิตของคนไทย

นายสุรศักดิ์ สุทองวัน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โคโรลล่า ครอส ใหม่ จะสร้างนิยามใหม่ “A New Journey ให้ชีวิตเดินทาง” ในรูปแบบวิถีใหม่ (New Normal) ซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของโลกในประเทศไทย จากรถยนต์นั่งสู่รถยนต์อเนกประสงค์ โดยเพิ่มประโยชน์ใช้สอย มีความเป็นอิสระ และขับสนุกเหมือนรถยนต์นั่งสไตล์สปอร์ต อีกทั้งยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและระบบความปลอดภัยที่ครบครัน

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือ กลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลายและชอบความทันสมัย โดยเฉพาะจุดขายหลักของรถรุ่นนี้คือ สะดวก สบาย ปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว อีกทั้งยังนั่งสบายทุกเบาะ ขับขี่อย่างมั่นใจตลอดการเดินทาง ไม่เหนื่อยและไม่เมื่อยล้า และยังมีเครื่องยนต์ไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน เงียบ แรง และค่ามลพิษต่ำ นอกจากนี้ยังคุ้มค่า คงทน ราคาขายต่อดี และนี่คือ เอกลักษณ์ของโตโยต้า

มร.ไดโซะ คาเมะยามา หัวหน้าวิศวกร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น คุณลักษณะที่โดดเด่นที่สุดของโคโรลล่า ครอส คือ สัมผัสแห่งความหรูหรา พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า สะท้อนภาพลักษณ์ของยนตรกรรมที่มีความแข็งแกร่งสำหรับชีวิตในเมือง” (Urban Toughness) ซึ่งเห็นได้ชัดจากดีไซน์และการออกแบบฐานล้อที่กว้าง เรามั่นใจว่ารถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ดึงดูดใจ ทั้งความสวยงามโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย แฝงไว้ด้วยความทรงพลัง กระตุ้นและมอบแรงบันดาลใจให้ผู้ขับขี่ออกไปเผชิญความท้าทายใหม่ๆ โดยมอบความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับในทุกด้าน

All-New Corolla CROSS ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับโคโรลล่า มาพร้อมกับโครงสร้างใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้สมรรถนะที่เหนือกว่า ควบคู่ไปกับระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) มั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ การออกแบบภายนอกโดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูลงตัวโดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ มาพร้อมหลังคามูนรูฟแบบไฟฟ้า ราวหลังคา ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร โดดเด่นด้วยประตูด้านหลังขนาดใหญ่ที่ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกสบาย เมื่อลองมานั่งที่เบาะผู้ขับขี่ทัศนวิสัยดีมาก มีการย้ายกระจกมองข้างไปอยู่ที่ประตูแทนตำแหน่งทั่วไป ทำให้เห็นจุดอับด้านข้างได้ดีขึ้น แถมยังมีการออกแบบที่ว่างเหนือศีรษะให้เพียงพอสำหรับคนที่สูงกว่า 180 ซม.ก็ยังมีพื้นที่เหลือสบายๆ ดูโปร่งไม่อึดอัด มาพร้อมประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมเซนเซอร์เปิด-ปิดประตูท้ายแบบ Kick Activated

เพิ่มความสะดวกสบายในการเก็บสัมภาระ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พนักพิงด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา พนักวางแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องระบายอากาศและช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง การออกแบบภายในได้อย่างลงตัว ด้วยสีภายใน สีแดงใหม่ Terra Rossa จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว สะดวกสบายไปกับหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ T-Connect ที่นั่งแถวสองมีขนาดกว้างนั่งสบายแม้ผู้โดยสารจะตัวใหญ่ก็ตาม พื้นที่ว่างช่วงขามีเหลือ รวมไปถึงพื้นที่เหนือศีรษะในแถวสองก็ทำออกมาได้ดีไม่ต่างจากในเบาะคู่หน้าเลยทีเดียว นอกจากในเรื่องความเงียบในรุ่นนี้มีการเสริมบุฉนวนรอบคันเพื่อลงเสียงและแรงสั่นสะเทือน

หัวใจของ All-New Corolla CROSS มากับเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร แบบระบบไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุด เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่พัฒนาแบตเตอรี่ใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทนทานและประหยัดน้ำมัน แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 98 กรัมต่อกิโลเมตร และแบบเบนซิน อัตราเร่งเต็มพลังตอบสนองได้ดั่งใจ ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 150 กรัมต่อกิโลเมตร

ช่วงล่างโดดเด่นขึ้นด้วยแพลตฟอร์ม TNGA มาใช้ควบคู่กับช่วงล่างแบบคานแข็งที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ที่มีการออกแบบให้สปริงและโช๊คอัพทแยงเอียงไปด้านหน้า แทนที่จะตั้งตรงๆแบบรถทั่วไป ส่งผลให้ลดการสะท้านมาสู่ตัวรถได้ดีกว่าและการเกาะถนนที่ดี และยังนุ่มนวลสะดวกสบาย เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวทั้งการขับขี่ทางตรงและในขณะเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี
ด้านความปลอดภัย จัดมาเต็มรูปแบบเพื่อความมั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense) อาทิ

• ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System)
• ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ (Lane Departure Alert with Steering Assist)
• ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติพร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist)
• ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic High Beams)
• กล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมมุมมองแบบ 3 มิติ (Panoramic View Monitor)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (Blind Spot Monitor)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert)
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง (Air Bags)

ในการทดสอบจะเป็นแบบสนามปิด ซึ่งทางโตโยต้าจัดรูปแบบการขับขี่เพื่อให้เห็นถึงสมรรถนะและเทคโนโลยีของตัวรถได้เป็นอย่างดี เรามีโอกาสขับขี่เพียงสองรอบ โดยเริ่มด้วยการขับหลบไพลอนเพื่อดูน้ำหนักของพวงมาลัยที่ค่อนข้างเบาในความเร็วต่ำ ทำให้ผู้หญิงสามารถขับได้สบายๆ แม้จะเป็นพื้นที่แคบๆ ก็ตาม หลังจากนั้นกดดันเร่งมาที่ 50 กม./ชม. เพื่อลองระบบช่วยบังคับการออกนอกเลน เมื่อคุณขับออกนอกเส้นระบบจะดึงพวงมาลัยกลับพร้อมส่งเสียงเตือน ซึ่งระบบนี้ทำมาเพื่อป้องกันช่วยเหลือคนหลับใน

ตามด้วยสลาลอมด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. ตัวรถค่อนข้างนิ่งไม่มีอาการโยน พวงมาลัยตอบสนองได้ดี ให้น้ำหนักหน่วงขึ้นตามความเร็วที่ใช้อย่างเหมาะสม ก่อนจากเปลี่ยนเลนกะทันหัน ซึ่งระบบช่วยเหลือของตัวรถทำงานได้ไวขึ้น ทำให้เราแทบไม่ต้องแก้อาการรถมากนัก แถมตัวรถไม่มีอาการโยน หรือย้วยให้ผู้ขับขี่ต้องตื่นเต้นเลย ก่อนมาทดสอบอัตราเร่ง เรามีโอกาสจับเวลาแบบหยาบจาก 0-100 กม./ชม. ใช้ความเร็วอยู่ที่ 13 วินาที อาจส่งผลมาจากการออกตัว เหมือนรถจะไม่พุ่งออกไปทันทีที่กดคันเร่ง ซึ่งอาจจะเป็นระบบช่วยหน่วงเพื่อป้องกันความเสียหายของเกียร์

ต่อด้วยการเลี้ยวในวงกลมแคบที่ตั้งด้วยไพลอนเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ซึ่งจากการย้ายกระจกมองข้างลงไปที่ประตูส่งผลให้เราสามารถมองเห็นจุดอับเวลาเข้าโค้งจากเสาบี ทำให้การขับขี่ง่ายขึ้นกว่าเดิม ก่อนทดสอบขึ้นสันสะพานด้วยความเร็ว 30 กม. ตัวรถไม่กระเด้งอย่างทีคิด ค่อนข้างสมูท ดูนุ่มนวลแต่ไม่ย้วย แถมยังไม่กระด้าง ด้วยการออกแบบจากช่วงล่างและตำแหน่งโช๊คอัพและสปริงแบบใหม่ที่ส่งผลให้ All-New Corolla CROSS มีอรรถรสในการขับขี่ที่น่าหลงใหลทีเดียว แถมด้วยราคาถูกกว่าที่คาดการณ์กับขนาดรถที่เทียบเท่า C – SUV ในตลาด ที่มีราคาแตะล้านกลางๆ นับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่จะมาช่วยกระตุ้นตลาดหลังยุคโควิด-19 ได้อย่างแน่นอน

เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า ครอส ใหม่ 4 รุ่น และ 7 สีภายนอก

• Metal Stream Metallic
• Red Mica Metallic
• Attitude Black Mica
• Celestite Gray Metallic
• Platinum White Pearl*
• Graphite Metallic
• Nebula Blue

และสีภายใน 2 สี

• Terra Rossa (เฉพาะรุ่น Hybrid Premium Safety และ Hybrid Premium ที่มีสีภายนอก Attitude Black Mica /Celestite Gray Metallic / Platinum White Pearl)
• Black

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด เกียร์อัตโนมัติ

• Hybrid Premium Safety ราคา 1,199,000 บาท**
• Hybrid Premium ราคา 1,089,000 บาท**
• Hybrid Smart ราคา 1,019,000 บาท**

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เกียร์อัตโนมัติ

• 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท**

ราคาพิเศษ 959,000 บาท (ณ วันเปิดตัว – 30 กันยายน 2563 มีจำนวนจำกัด)