รีวิว ทดสอบรถ: All-New NISSAN KICKS e-POWER ให้พละกำลังถึง 129 แรงม้า

รีวิว ทดสอบรถ: All-New NISSAN KICKS e-POWER ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน HR12 DE ขนาด 1.2 ลิตร ที่ใช้ในการปั่นไฟ ให้พละกำลังถึง 129 แรงม้า

รีวิว ทดสอบรถ: All-New NISSAN KICKS e-POWER ให้พละกำลังถึง 129 แรงม้า

หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆ เราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้

ทาง บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัด เชิญสื่อมวลชนสัมผัสคันจริงกับ All-New NISSAN KICKS e-POWER รุ่น VL หลังจากเปิดตัวผ่านช่องทางออนไลน์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางนิสสันเนรมิตภายในสนาม ปทุมธานี สปีดเวย์ ให้เป็นสถานีทดสอบเพื่อให้เราได้สัมผัสสมรรถนะการขับขี่ในด้านต่าง ๆ ของ All-New NISSAN KICKS e-POWER โดยถูกแบ่งออกเป็นสถานี 2 สถานี โดยในสถานีแรก จะเป็นการขับทดสอบการเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน และต่อด้วยการวิ่งแบบสลาลม ทั้งหมดเพื่อดูการทรงตัวของรถ การควบคุมรถเมื่อต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน รวมไปถึงสมรรถนะการยึดเกาะ และในสถานีที่สอง ที่ได้จำลองการทดสอบหลากรูปแบบขึ้นมาให้วิ่งทดสอบแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่การทดสอบอัตราเร่งของรถ การเลี้ยวโค้งรูปแบบต่าง ๆ การควบคุมรถในสนามแบบเซอร์กิต รวมไปถึงการทดสอบสถานีย่อย Double Lane Change เพื่อดูการทรงตัวของรถ และการใช้งานตัวช่วยขับขี่ต่าง ๆ อีกด้วย

หลาย ๆ คนอ่านยังไม่เข้าใจว่า All-New NISSAN KICKS e-POWER เป็นรถยนต์รูปแบบไหนกันแน่ ๆ เพราะมีทั้งมอเตอร์และเครื่องยนต์เหมือนรถไฮบริด ซึ่งจริง ๆ แล้ว All-New NISSAN KICKS e-POWER มาพร้อมกับความแปลกใหม่ในตลาดบ้านเราด้วยการนำเสนอขุมพลัง e-Power กับการขับเคลื่อนรถด้วยไฟฟ้าล้วน แต่ตัดปัญหาให้การต้องหาแท่นชาร์จไฟที่ในบ้านเรามีอยู่เพียงไม่กี่ 100 แห่งทั่วประเทศ โดยการอาศัยเครื่องยนต์เบนซิน HR12 DE ขนาด 1.2 ลิตร ที่ใช้ในการปั่นไฟ รวมไปถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) เพื่อให้หมดปัญหาในเรื่องระยะทาง ที่รถไฟฟ้าแบบทั่วไปจะวิ่งได้เพียง 200-300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งคงไม่ตอบโจทย์กับท่องเที่ยวไปในที่ไกล ๆ แถมยังต้องทำการบ้านในเรื่องจุดชาร์จต่าง ๆ อีกด้วยให้วุ่นวาย

ซึ่ง e-Power จะใช้เครื่องยนต์มาปั่นไฟสู่แบตเตอรี่ ทำให้คุณไปที่ไหนก็ได้ ตราบใดที่คุณยังมีน้ำมันอยู่ในถัง แต่คุณจะได้สมรรถนะที่ตอบสนองแบบรถไฟฟ้าในระยะทางที่ไกลมากขึ้นเหมือนรถยนต์ทั่วไป แต่ค่าบำรุงรักษาถูกกว่า Eco Car อีกด้วยซึ่งเครื่องยนต์จะทำงานเพื่อรักษาระดับของแบตเตอรี่ที่ 40-90 % เอาไว้ ถ้าแบตเตอรี่ต่ำถึง 40% เครื่องยนต์ก็จะทำงาน และจะหยุดชาร์จที่ 90% เพื่อเป็นการยืดอายุแบตเตอรี่อีกทาง โดยระบบแบบนี้ว่า Extended-range electric vehicles (EREV) หรือระบบเพิ่มระยะทางในรถยนต์ไฟฟ้า

All-New NISSAN KICKS e-POWER มาพร้อมกับโมเดลที่ได้รับการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ใหม่ล่าสุด แพลตฟอร์มเป็น Nissan V-Platform ในร่างครอสโอเวอร์ 5 ประตู มีมิติตัวถังยาว 4,290 มม. กว้าง 1,760 มม. สูง 1,615 มม. และมีระยะฐานล้อกว้าง 2,615 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. มีน้ำหนักรถที่ 1,350 กก. รวมไปถึงความจุถังน้ำมัน 41 ลิตร ดีไซน์ภายนอกมากับกระจังหน้าแบบ V-motion ไฟเลี้ยวบูมเมอแรง LED Signature Light ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED รวมถึงดีไซน์กันชนหน้า ก็ออกแบบให้สปอร์ตขึ้นรวมถึงไฟตัดหมอกที่เป็น LED ด้วยเช่นกัน ส่วนของไฟท้ายที่เป็นแบบ LED ทรงบูมเมอแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก 370Z พร้อมด้วยล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่สีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว และยางขนาด 205/55 R17 ซึ่งสามารถทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตร ได้ใน 9 วินาทีกว่า ๆ

มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน HR12 DE ขนาด 1.2 ลิตร ที่ใช้ในการปั่นไฟ รวมไปถึงเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) อินเวอร์เตอร์ (Inverter) และมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor ที่รีดกำลังให้รถ 129 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 1.57 kWh ที่มี 4 โมดูล มีโหมดการขับขี่ให้เลือกได้ 4 รูปแบบ

1. Normal mode การขับขี่ในแบบปกติจะให้อัตราเร่งความเร็ว และการหยุดรถเทียบเท่ากับการหยุดของรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในทั่ว ๆ ไป
2. S (Smart) mode เพิ่มสมรรถนะในการขับเคลื่อนและตอบสนองอัตราเร่งให้ดียิ่งขึ้น พร้อมการทำงานของ One-Pedal
3. ECO mode ปรับการทำงาน ลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองลง ทำให้เครื่องยนต์และระบบมีการใช้เชื้อเพลิงและพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมการทำงานของ One-Pedal
4. EV mode สามารถใช้งานได้เมื่อมีแบตเตอรี่เพียงพอและรถอยู่ในโหมดการขับขี่ S หรือ ECO โดยปรับเปลี่ยนให้รถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เหลือภายในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์จะไม่ทำงานจนกระทั่งแบตเตอรี่อยู่ในระดับต่ำ มอบความเงียบและความประหยัดยิ่งขึ้น โดยทางนิสสันเคลมประหยัดเชื้อเพลิงประมาณ 23 กิโลเมตรต่อลิตร
   

ในการทดสอบรถที่เราใช้ All-New NISSAN KICKS e-POWER รุ่น VL ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุด โดยสถานีแรกเราจะได้ขับ 4 รอบ โดยรอบแรกเป็นการทำความคุ้นเคยกับอุปสรรคต่าง ๆ ในสนามและเส้นทาง ซึ่งเราจะปรับโหมดมาอยู่ใน ECO เพื่อใช้ความสามารถของระบบ One-Pedal ซึ่งจะทำหน้าที่ในการช่วยชะลอรถเพียงยกคันเร่งโดยไม่ต้องแตะเบรก ซึ่งขึ้นอยู่กับความเร็ว ซึ่งใน Nissan Kicks ค่อนข้างทำออกมาได้สมูทกว่าใน Nissan Leaf

โดยออกสตาร์ทในรอบแรกในระยะสั้นอัตราเร่งถือว่าดีทีเดียวเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ทั่วไป โดยเป็นเลนเชนจ์ผ่านช่องระหว่างไพลอนที่ตั้งไว้ห่างกันเพียง 3 เมตร ไปได้อย่างมั่นใจ ด้วยความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตร พวงมาลัยค่อนข้างเฉียบคมแม่นยำ ตัวรถแทบไม่มีอาการสะบัด แม้จะต้องกระชากพวงมาลัย ช่วงล่างถือว่าน่าประทับใจเลยทีเดียวระบบ One-Pedal ก็ถือว่าทำงานได้อย่างสอดคล้อง ก่อนต่อด้วยสลาลม ด้วยความเร็วที่ประมาณ 60 กม./ชม. การควบคุมพวงมาลัยหักซ้ายขวาต่อเนื่องไปมาทำได้แม่นยำ อาการตอบสนองของช่วงล่างให้ความรู้สึกมั่นใจดีแม้ว่าตัวรถจะสูง การทรงตัว การยึดเกาะถนน ต้องยอมรับว่าเป็นรถสูงที่เกาะถนนดี ซึ่งเราแทบไม่เบรกเลย ซึ่งในรอบต่อ ๆ มาเราพยายามทำความเร็วให้สูงขึ้นซึ่งตัวรถก็ยังตอบสนองได้ดี

ต่อเนื่องกันที่สถานีที่สอง เป็นการทดสอบการขับขี่ในรูปแบบเซอร์กิตสั้น ซึ่งจะมีทั้งทางตรง, โค้งลึก และโค้งหักศอกให้ทดสอบสมรรถนะของทั้งขุมพลังและช่วงล่าง โดยเริ่มต้นด้วยการทดสอบอัตราเร่งในทางตรงซึ่งด้วยความเป็นรถไฟฟ้าไม่มีอะไรที่ต้องกังวลในเรื่องอัตราเร่งที่สามารถถ่ายทอดได้เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทันทีที่เหยียบคันเร่ง เราพุ่งทะลายก่อนเข้าโค้งหักศอก เสียงยางที่เสียดสีจากความเร็วที่เข้าโค้งที่เร็วกว่าปรกติ แต่ตัวรถยังคงเกาะอยู่ในแทร็กของสนามได้อย่างแม่นยำ ในโค้งแล้วโค้งเหล่า เราก็บรรจงเติมคันเร่งขยี้ ทุกโค้ง

ซึ่ง All-New NISSAN KICKS e-POWER นับว่าตอบสนองการขับขี่และเกาะถนนอย่างหายห่วง และให้ความมั่นใจในการขับขี่ที่ดี พวงมาลัยให้น้ำหนักที่น่าประทับใจ ก่อนจุดสุดท้าย Double Lane Change ด้วยความเร็วประมาณ 60 กม./ชม. เปลี่ยนเลนกะทันหัน 2 ครั้งต่อเนื่องได้แบบมั่นใจ การหักเลี้ยวแบบกะทันหันค่อนข้างฉับไวและคุมอาการรถได้ดี ค่อนข้างมั่นใจได้เลยว่าหากเจอสถานการณ์ที่ต้องหักหลบ หรือเปลี่ยนเลนกะทันหันแล้ว All-New NISSAN KICKS e-POWER ก็พร้อมมอบความมั่นใจได้ ซึ่ง Double Lane Change เป็นหนึ่งในการทดสอบแบบมูสเทสที่ทำให้รถมีอาการ ยิ่งถ้าเข้าไปด้วยความเร็วสูงล้อยกแน่นอน

All-New NISSAN KICKS e-POWER ตอบโจทย์การขับขี่ของชีวิตคนทั่วไปได้อย่างแน่นอน เพราะคุณยังใช้ชีวิตได้เหมือนเดิมเช่นเดียวกับรถที่คุณเคยใช้ น้ำมันหมดรถไม่วิ่ง คุณเพียงต้องเติมน้ำมันคุณก็เดินทางไปได้ในทุกที่ไม่ว่าจะขึ้นเหนือล่องใต้ รถคันนี้ทำได้อย่างแน่นอน แถมค่าบำรุงรักษายังถูกกว่า แต่ในอนาคตค่าแบตเตอรี่อาจเป็นสิ่งที่หลีกหนีไม่ได้ แต่เชื่อว่าถ้าในอนาคตผู้คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้นแบตเตอรี่จะถูกลงมากกว่านี้แน่นอน ซึ่งจากอดีตจนปัจจุบันราคาแบตเตอรี่ก็ถูกลงมากขึ้น และเป็นอีกก้าวในการลดมลพิษแม้จะมีมลพิษ แต่การที่เครื่องยนต์ทำหน้าที่เพียงปั่นไฟทำให้การปล่อยมลพิษออกมาน้อยกว่ามากรถในพิกัดเดียวกัน All-New NISSAN KICKS e-POWER อาจจะไม่ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ดูจะเหมาะสมที่สุด