รีวิว ทดสอบรถ: BMW Z4 M40i ทายาทรุ่นล่าสุดของ Roadster มาพร้อมกับพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น, ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และเทคโนโลยีบางส่วนจาก M5 !
รีวิว ทดสอบรถ: BMW Z4 M40i ทายาทรุ่นล่าสุดของ Roadster
หากคุณกำลังค้นหา Wallpaper รูปรถสวยๆเราขอแนะนำ Wallpaper รูปรถสวยๆ Download wallpaper ที่นี้ |
BMW Z4 M40i
ทายาทรุ่นล่าสุดของ Roadster จาก BMW มาพร้อมกับพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้น, ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม และเทคโนโลยีบางส่วนจาก M5 !
เราต่างก็จดจำภาพของ Roadster จาก BMW ที่มีฝากระโปรงทอดยาวราวกับรันเวย์ได้เป็นอย่างดี วันนี้ Z4 กลับมาอีกครั้งพร้อมกับรูปทรงที่พลิกโฉมไปแบบหนังคนละม้วน ลืมเส้นสายคมกริบของโมเดลก่อนหน้านี้ไปได้เลย เพราะทายาทลำดับล่าสุดของตระกูล Z หวนคืนสู่แก่นแท้ของ Roadster ด้วยการลบความฉูดฉาดออกไป เหลือไว้เพียงความเรียบง่ายกลมกลืนจากหัวจรดท้าย
ตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้นในทุกมิติ เช่นเดียวกับฐานล้อที่กว้างกว่าเดิมถึง 98 มม. ที่ล้อหน้า และ 57 มม. ในด้านหลัง ส่วนความยาวฐานล้อสั้นลง 26 มม. เพื่อปรับสมดุลหน้า:หลัง ให้อยู่ที่ 50:50 ทั้งยังช่วยเพิ่มความเฉียบคมในการบังคับควบคุมอีกด้วย
ส่วนที่แปลกใหม่ก็คือ ไม่มีหลังคาแข็งแบบพับได้อีกต่อไป ตอนนี้ Z4 ใหม่ มาพร้อมกับหลังคาผ้าใบ ด้วยเหตุผลเรื่องน้ำหนักที่เบากว่า นั่นหมายถึง มันสามารถลดแรงเหวี่ยงเหนือจุดศูนย์ถ่วงได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังมีขนาดกะทัดรัดเมื่อพับเก็บ คุณจึงยังคงมีห้องเก็บสัมภาระขนาดเท่ากับที่คุณเห็นตอนปิดหลังคา เนื่องจากหลังคาจะถูกเก็บไว้ด้านบนของหลังห้องโดยสาร นอกจากนั้น ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ยังทำให้หลังคาผ้าใบทำงานได้เงียบกว่าหลังคาแข็งแบบพับได้ของ Z4 รุ่นก่อน ๆ อีกด้วย
ไม่มีเวอร์ชั่นสุดขั้วอย่าง Z4 M ในโมเดลนี้ BMW ยืนยันว่าพวกเขาจะไม่ทำรุ่นฮาร์ดคอร์ให้กับมันแน่นอน รุ่นที่มีพละกำลังมากที่สุด (อย่างน้อยก็ ณ เวลานี้) คือ M40i เหมือนคันที่เรานำมาทดสอบนี้ ใต้ฝากระโปรงแผ่นยาวเป็นที่อยู่ของขุมพลังเบนซิน 6 สูบเรียง รหัส B58 ความจุ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ตัวเดียวกับที่ใช้ใน M140i, M240i, 340i และ 440i แต่ได้รับการปรับซอฟต์แวร์ที่ใช้ควบคุมเวสต์เกต (ของเทอร์โบ) ใหม่ ให้ตอบสนองได้เฉียบคมยิ่งขึ้น
มันทำกำลังสูงสุดได้ 340 แรงม้า ที่ระหว่าง 5,000-6,500 รอบ/นาที และให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จาก 1,600 ไปจนถึง 4,500 รอบ/นาที นั่นคือ 5 แรงม้า และ 50 นิวตันเมตร ที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่น 35is โฉมที่แล้ว อาจดูน้อยนิดแต่ผลลัพธ์นั้นยอดเยี่ยม โดยรถรุ่นใหม่ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.5 วินาที หรือเร็วขึ้น 0.3 วินาที
นอกจากนั้น Z4 ใหม่ ยังเปลี่ยนจากเกียร์คลัตช์คู่ มาใช้แบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์แทน เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบใหม่ มีอัตราทดชิดขึ้นในเกียร์ต่ำเพื่ออัตราเร่งที่ฉับไว นอกจากนั้น ในรุ่น M40i ยังได้รับการปรับแต่งให้เกียร์สามารถเปลี่ยนขึ้นลงได้ฉับไวเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะในโหมดอัตโนมัติ หรือเปลี่ยนเองด้วยแพดเดิลหลังพวงมาลัยก็ตาม
ด้วยเหตุผลเดียวกับ M5 การหันกลับมาใช้เกียร์แบบทอร์กคอนเวอร์เตอร์นั้นได้เปรียบในเรื่องของการทำงานที่เรียบลื่นกว่า การขับขี่ในสภาพการจราจรเคลื่อนตัวสลับหยุดนิ่งนั้นเป็นไปอย่างนุ่มนวล ไม่มีอาการกระตุกในจังหวะเปลี่ยนเกียร์เหมือนที่เคยเจอเป็นบางครั้งในเกียร์คลัตช์คู่ อย่างไรก็ตาม อรรถรสในขณะขับแบบบู๊ล้างผลาญอาจไม่เท่า
แต่ก็ถือว่ายังคงสับขึ้นลงได้ฉับไวมากทีเดียว อัตราทดที่ถูกจัดเรียงใหม่เข้าขากับพละกำลังของเครื่องยนต์เป็นอย่างยิ่ง Z4 สามารถเพิ่มความเร็วได้อย่างต่อเนื่องลื่นไหล และยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกเมื่ออยู่ในโหมด Sport+ ที่จะเรียกความกระฉับกระเฉงของการสับเกียร์ขึ้น และลงออกมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เช่นเดียวกับคันเร่งที่ตอบสนองเฉียบคมตามสั่งยิ่งขึ้น
เพาเวอร์แบนด์ที่กว้างมาก ส่งให้ Z4 น่าประทับใจในทุกย่านความเร็ว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในทางโค้งบนถนนที่คดเคี้ยว! ระบบบังคับเลี้ยวแบบแปรผันจะปรับน้ำหนัก และอัตราทดให้เหมาะสมกับความเร็ว มันอาจจะตึงมือไปสักหน่อยในโหมด Sport+ (ไม่ต้องกังวล คุณสามารถเลือกปรับได้ในโหมด Individual) ทว่าเฉียบขาด และคมกริบ สื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามายังมือของคุณได้ไม่ขาดตอนหรือพร่ามัว ระบบเบรกจากแผนก M ให้สัมผัสเป็นธรรมชาติ ทั้งยังทรงพลังอีกด้วย มันผลิตขึ้นจากวัสดุน้ำหนักเบาเพื่อเปิดทางให้ช่วงล่างสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจากการลดน้ำหนักใต้สปริง
และแน่นอนพระเอกของภารกิจกระหน่ำโค้งก็คือ ช่วงล่างแบบพิเศษจาก (อีกครั้ง) แผนก M… ตัวรถต่ำลงกว่ารุ่น 30i อยู่ 10 มม. แดมเปอร์ที่ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์จะคอยปรับความหนืดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนั้น เพื่อให้รถทรงตัวได้อย่างมั่นคง โดยระบบสามารถเปลี่ยนการยืด และยุบของแดมเปอร์ทั้ง 4 ได้แยกอิสระ และแต่ละครั้งในเวลาเพียงแค่ 20 มิลลิวินาที เท่านั้น!
ทั้งระบบบังคับเลี้ยวและช่วงล่าง จะทำงานร่วมกับเฟืองท้ายอิเล็กทรอนิกส์ “M Sport Differential”
ซึ่งนำมาจาก M5 แต่มีการปรับลดความดุเดือดในการล็อคให้เหมาะกับพละกำลังที่น้อยกว่าของ Z4 พวกมันจะสื่อสารกันตลอดเวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม คุณจะเริ่มเกมด้วยการกระแทกเบรกเพื่อลดความเร็วสำหรับทางโค้งเบื้องหน้า แดมเปอร์จะปรับอัตราการยุบตัวให้ขึงตึงขึ้นเพื่อไม่ให้หน้ารถดิ่งจมลงไป จากนั้นคุณเริ่มหมุนพวงมาลัยเพื่อเบนเข้าสู่โค้ง
ระบบควบคุมไดนามิกส์จะรับข้อมูลจากการหักเลี้ยว, แทร็คชั่น ตลอดจนข้อมูลที่จำเป็นอื่น ๆ มาประมวลผลร่วมกับช่วงล่างอีกครั้ง เพื่อปรับแดมเปอร์ของล้อฝั่งนอกโค้งให้รับมือกับแรงกระทำที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมาถึงทางออก คุณเติมคันเร่งเข้าไปและ M Diff จะรับหน้าที่บริหารจัดการแรงบิดระหว่างล้อหลังทั้งสองฝั่งเพื่อให้ได้แทร็คชั่นสูงสุด สำหรับส่ง Z4 คันงามให้พุ่งออกจากโค้งได้อย่างสวยงาม… และเร็วเป็นพายุ
มันสมดุลจนน่าเหลือเชื่อ และให้อรรถรสในแบบของ Roadster อย่างที่ไม่เคยมี (มากขนาดนี้) มาก่อนในตระกูล Z นอกจากนั้น ระบบยังยอมผ่อนปรนให้คุณได้สนุกกับการโอเวอร์สเตียร์นิด ๆ ที่ความเร็วไม่สูงนัก น่าเสียดายเล็กน้อยที่เฟืองท้ายอันชาญฉลาดไม่เปิดโอกาสให้คุณทำแบบนั้นที่ความเร็วสูง ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และแน่นอนว่าจากการเป็นรถฐานล้อสั้น Z4 จึงไม่เหลือช่องว่างให้คุณได้แก้ไขนักหากเกิดพลาดท่าขึ้นมาในโค้ง เราจึงไม่แนะนำให้คุณปิดระบบควบคุมไดนามิกส์ใด ๆ หากยังไม่ชำนาญพอ
แม้เป้าหมายคือการเป็น Driver’s car แต่ BMW ยังไม่อาจทิ้งเรื่องความสะดวกสบายในการใช้งานไปได้ ดังนั้น Z4 จึงเป็นรถที่ให้ความสนุกในการขับขี่ได้ดี และสามารถใช้ขับฉุยฉายในชีวิตประจำวันได้โดยไม่มีอะไรให้ต้องกังวลเช่นกัน เพียงแต่ผมคิดว่า ถ้า BMW เติมความดุดันเข้าไปเพิ่มอีกสักนิด ตัวเลือกอย่าง Merc SLC และ Audi TT คงจะถูกตัดออกไปได้ง่ายกว่านี้
SPECIFICATIONS: BMW Z4 M40I
- Price: 4,969,000 Baht
- Engine: 2,998cc 24v turbocharged straight-six, 340ps @ 5,000rpm, 500Nm @ 1,600-4,500rpm
- Transmission: 8-speed automatic, rear-wheel drive
- Performance: 4.5 sec 0-100km/h, 250km/h top speed (limit), 13.3km/l, 171g/km Co2
- NCAP Rating: 5 stars