Breaking News

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) รถเล็กสำหรับคนเมือง ที่ตอบโจทย์มากกว่าความประหยัด

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) เทคโนโลยีการขับเคลื่อนในระบบ Full Hybrid e:HEV ที่ให้อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 27.8 กม./ลิตร*

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

“ถ้าคุณผ่านมือ Honda City e:HEV เวอร์ชั่น Sedan มาแล้ว… “โปรดอย่าคิด” ว่ากับเวอร์ชั่น Hatchback คงไม่มีอะไรแตกต่าง เพราะอย่างน้อยๆ เลยก็มี “อารมณ์” สปอร์ตที่มากกว่าจากงานดีไซน์เรือนร่าง ที่เหมาะสมกับการทำตลาดด้วยรุ่นย่อยหนึ่งเดียว คือ RS”

เรียกได้ว่า “สะเทือน” ไปทุกวงการ กับราคาน้ำมัน “มหาโหด” จนเราเชื่อว่าหลายๆ คนจิตใจหวั่นไหว อยากหันไปคบยนตรกรรมพลังงานทางเลือกให้รู้แล้ว รู้รอดไป เพราะนอกจากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดจนสร้างความมั่นใจได้ดีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือ “ทางเลือก” ที่มีมากมายหลากแบรนด์ หลายรุ่น

และ Honda เองก็เป็นชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเรา โดยเฉพาะ City ตระกูล e:HEV ที่มีมาให้เลือกถึง 2 เวอร์ชั่นทั้ง Sedan และ Hatchback ด้วยเพราะความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเป็นหลัก ฉะนั้นการมองหารถขนาดเล็กจึงเป็นประเด็นสำคัญ จากข้อได้เปรียบในเรื่องของความ “คล่องตัว”

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

โดยถ้ารุ่น Sedan หลายคนมองว่าดูสูงอายุไปนิดล่ะก็ … Hatchback สิครับรับรองว่า “เฟี้ยว” กว่าแน่นอน เพราะอันดับแรกเลย คือ งานดีไซน์ตัวถังที่นำเสนอความโฉบเฉี่ยวอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะจากมุมมองด้านหลังที่มีความ “ลาดชัน” แถมยังมากับความสปอร์ตในฐานะรุ่นย่อยหนึ่งเดียวให้เลือก คือ เวอร์ชั่น “RS” ที่มาพร้อมชุดแต่ง RS รอบคัน

ก่อนจะเสริมความสะดุดตาด้วยรายละเอียดบางอย่าง เพื่อแสดงฐานะของยนตรกรรม Hybird เช่น กรอบสีฟ้า น้ำเงิน Brilliant Sporty Blue Metallic รอบโลโก้ H Mark พร้อมด้วยการแปะตราสัญลักษณ์ e:HEV มาให้ในด้านหลัง ชนิดที่ในความคิดส่วนตัว เรามองภาพรวมแล้ว คือ “ดีงาม” รับกับความเร้าใจในความตัวถังแบบ Hatchback ไม่น้อยทีเดียว

การพยายามนำเสนอความสปอร์ตยังส่งต่อไปถึงงานดีไซน์ภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ สลับด้วยโทนสีแดง พร้อมออฟชั่นที่ต้องบอกว่า “พอเพียง” ทั้งอำนวยความสะดวกสบายสายบันเทิง และการขับขี่ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอแสดงผลการทำงาน TFT ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง iOS และ Android

ตลอดจนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ที่มาพร้อมกับแป้นควบคุมหน้าตาเหมือน Paddle Shift หลังพวงมาลัย ซึ่งทำหน้าที่เป็นระบบ Deceleration Selector เอาไว้ปรับระดับการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ ที่เลือกได้ 3 ระดับ

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

ในส่วนของขุมพลังเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าเป็นตัวเดียวกับเวอร์ชั่น Sedan นั่นคือ เทคโนโลยี Sport Hybrid i-MMD (Multi-Mode Drive) ที่ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle ขนาด 1.5 ลิตร i-VTEC แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว โดยทำหน้าที่เป็น Generator ปั่นไฟ 1 ตัว และขับเคลื่อนอีก 1 ตัว ด้วยกำลังสูงสุด คือ แรงบิดระดับ 253 นิวตันเมตร ตั้งแต่ 0 – 3,000 รอบต่อนาที

ส่งถ่ายกำลังผ่านชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT ที่มาพร้อมสิ่งน่าสนใจ คือ ความสามารถในการรองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E20 บวก และอัตราสิ้นเปลืองซึ่งเคลมเอาไว้ที่ 27 กม./ลิตร … ที่บอกเลยว่าถูกใจคนใช้แน่นอน กับสถานการณ์ราคาน้ำมันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับน้ำหนักเท้าขวาเวลากดคันเร่งด้วยเช่นกัน

เพราะนอกจากเรื่องความประหยัดแล้ว เราเองก็ยังเชื่อว่าเจ้า Honda City Hatchback e:HEV เป็นรถที่จะมอบความสนุกในการขับขี่ให้คุณได้สัมผัสอย่างชัดเจนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคนชอบสไตล์การขับจากรถ “พิกัดใหญ่” ซึ่งหากจะให้เปรียบเทียบ เราก็ขอกล่าวง่ายๆ ว่าในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินค่อนข้างมีความเป็น “วัยรุ่น” มากกว่า ขณะที่เวอร์ชั่น e:HEV จะมีความเป็น “ผู้ใหญ่” มากขึ้น

ตั้งแต่อารมณ์ของช่วงล่างที่หนักแน่น นุ่มหนึบ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น เลยทำให้ต้องมีการปรับเซ็ทช่วงล่างใหม่สูตรเดียวกับเวอร์ชั่น Sedan ทั้งยังส่งผลไปถึงเรื่องของน้ำหนักพวงมาลัยที่สมดุล แบบว่าไม่ได้เบาแรงเกินไปในความเร็วต่ำ แต่ก็ยังคงมอบความมั่นใจได้ดีเมื่ออยู่บนความเร็วสูง

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

รีวิว ลองขับ Honda City Hatchback e:HEV (RS) ขับเคลื่อนระบบ Full Hybrid

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

อีกส่วนหนึ่งที่รู้สึกได้ถึงบุคลิกความเป็น “ผู้ใหญ่” มากขึ้น ก็คือ องค์ประกอบโดยรวมที่กำหนดสไตล์การขับ เพราะเรานึกไม่ออกเลยว่าการเอาวิถีของเครื่องยนต์เบนซินมาใช้ จะสร้างประโยชน์อะไรมากนัก ฉะนั้นเราจึงคิดว่าวิธีที่ถูกต้อง และเหมาะสมก็คือ การค่อยเพิ่มน้ำหนักคันเร่งอย่างนุ่มนวล เพื่อให้ความเร็วไต่ระดับขึ้นไป และสามารถใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ครั้งหนึ่งเราเคยมีโอกาสลองขับเจ้า Honda City Hatchback e:HEV แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่น่าประทับใจ … แต่การกลับมาพบกันอีกรอบในครั้งนี้ มันทำให้เราพบอะไรบางอย่างที่เรียกว่า “ความสบาย” ในการขับขี่ … ใช่ครับ จากความเห็นส่วนตัวของเรา Honda City Hatchback e:HEV เป็นรถที่มีกำลังมากพอจะตอบสนองทุกการขับขี่ แต่จะให้ถูกให้ดีก็ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของตัวรถ

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน ด้วยเพราะอานุภาพการเร่งแซงแบบกระชั้นชิด คือ สิ่งที่ ต่างจากเวอร์ชั่นเครื่องยนต์เบนซินที่สามารถ “ลากรอบ” มาช่วยเพิ่มการตอบสนองให้ไวกว่า ฉะนั้นในทุกๆ การเร่งแซง จึงเปรียบเหมือนการเป็นข้อบังคับให้คุณ “คิด” ก่อน “ทำ” และ “คำนวณ” เพื่อให้ทุกอย่างอยู่ใน “ระยะปลอดภัย” แถมข้อดีที่ได้อีกอย่างก็คือ ยังไม่เป็นการ “สร้างภาระ” ให้กับเครื่องยนต์มากเกินไปอีกด้วย

ฉะนั้นอย่างที่บอกครับว่า เราลองใช้อารมณ์วัยรุ่นมาขับอยู่พักใหญ่ มันก็ไม่สามารถให้ความสบายได้ดีมากกว่าใช้อารมณ์ผู้ใหญ่ เพราะโดยไม่ต้องกระชากชั้นใดเจ้า City Hatchback e:HEV ก็พร้อมที่จะรับใช้อย่างเต็มศักยภาพ และปลอดภัยในแบบที่คนขับไม่ต้องมาเครียด หรือนั่งลุ้นเช่นกัน

เมื่อพูดถึงเรื่องความปลอดภัย อีกหนึ่งความดีงามของ Honda City Hatchback e:HEV ที่จะไม่พูดถึงเลยก็คงไม่ได้ กับระบบความปลอดภัยในชื่อ Honda SENSING ซึ่งหากลองนั่งนับนิ้วไล่ดู จะพบว่าหลากหลายระบบที่ถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานนั้นครบครันแทบไม่ต่างอะไรกับบรรดารุ่นพี่ๆ พิกัดใหญ่เลยทีเดียว

Honda City Hatchback e:HEV (RS)

ไม่ว่าจะเป็น ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW),

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) และระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

ทั้งยังมีการเสริมทัพด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch), ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake), ระบบ Auto Brake Hold, ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock), กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)

ไปจนถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่ และรถ (Honda CONNECT) พูดง่ายๆ ว่าครบครันขนาดนี้ จะหาที่ไหนมา “คุ้มค่า” ได้อีก … เพราะทั้งหมดนี้ที่เรากล่าวมาอยู่บนค่าตัวเพียง 849,000 บาทเท่านั้น

Specification: Honda City Hatchback e:HEV (RS)

  • Price: 849,000 BHT
  • Engine: 1,498 CC / 4 Cylinder / 16 Valve 98 hp @ 5,600 rpm – 6,400 / 127 Nm @ 4,500 – 5,000 rpm 
  • Electric Motor: 109 @ 3,500 – 8,000 rpm / 253 Nm @ 0 – 3,000 rpm 
  • Transmission: E-CVT
  • Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
  • Weight: 1,231 Kg.

Check Also

Kia EV5 Earth Exclusive AWD 2024

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD รถไฟฟ้าจากเกาหลี ที่เติมอรรถประโยชน์ในการใช้งานที่คุ้มค่า

รีวิว ลองขับ Kia EV5 Earth Exclusive AWD มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อนสี่ล้อ ให้กำลังสูงสุด 230 แรงม้า แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร …