รีวิว ลองขับ Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ลุคใหม่ที่ปรับให้หรูหราขึ้น พร้อมด้วยออปชั่นแบบครบครัน

รีวิว ลองขับ Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุดที่ 156 แรงม้า ราคา 970,000 บาท

รีวิว ลองขับ Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ครอสโอเวอร์เอสยูวี พรีเมี่ยม

Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe

“Jinba Ittai” อาจไม่ได้หมายถึง “ความสปอร์ต” แค่จาก “สมรรถนะ” หรือ “งานดีไซน์” … แต่อาจหมายถึง “ความรู้สึก” ผู้ขับขี่ ซึ่งการถ่ายทอดมาจากยนตรกรรม เพราะดูเหมือน CX-3 2.0 Sport Luxe กำลังบอกเราแบบนั้น”

เรายังคงยืนยันคำเดิมว่า “Mazda คือ แบรนด์ที่มีดีไซเนอร์ระดับยอดฝีมือ” ด้วยเพราะในความคิดของเรา มองว่า ไลน์อัพรถยนต์นั่ง Sedan ของ Mazda คือ Production Car ซึ่งมีงาน “ดีไซน์” สวยเริ่ดที่สุด อย่างปฏิเสธไม่ได้

แต่ล่าสุดหลังจาก Mazda ปรับทัพใหม่ให้กับ กลุ่มยนตรกรรมอเนกประสงค์ CX-3 น้องเล็กสุดแห่งตระกูล CX – Series จนถือกำเนิดรุ่นย่อย CX-3 2.0 Sport Luxe ขึ้นมา และกลายเป็นสิ่งที่เปลี่ยนความคิดเราโดยสิ้นเชิง ว่าไม่ใช่เพียงแค่ “ไลน์อัพรถยนต์นั่ง” เท่านั้น แต่ “ดีไซน์” ของ “ไลน์อัพรถอเนกประสงค์” ก็สวยเฉียบไม่เบาเช่นกัน

หากพูดถึงตระกูล CX – Series จาก Mazda ยนตรกรรมอเนกประสงค์ Mazda CX-3 ถือเป็นน้องเล็กสุดในไลน์อัพ ซึ่งมากับขนาดตัวถัง ความยาว 4,275 มิลลิเมตร, ความกว้าง 1,765 มิลลิเมตร, ความสูง 1,535 มิลลิเมตร วางตัวบนความยาวฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร ซึ่งมีความกว้างด้านหน้าที่ 1,525 มิลลิเมตร และด้านหลังที่ 1,520 มิลลิเมตร พร้อมระยะต่ำสุดจากพื้น 145 มิลลิเมตร กับน้ำหนักมวลรวมทั้งหมดราวๆ 1.3 ตัน

และจากตัวเลขทั้งหมด หลายๆ คนน่าจะสังเกตได้ว่า Mazda CX-3 คือ ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาด Compact ซึ่งหลังจากที่ครั้งก่อนได้ลองขับ บอกเลยว่า “ชอบ” มาก ด้วยความที่ลงตัว ทั้งในเรื่องของ “สมรรถนะ” และ “ขนาด” ที่กลายเป็นส่วนผสมหลัก เพื่อสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ที่สนุกสนาน และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดดเด่น

เมื่อพูดถึงความโดดเด่นล่ะก็ ด้วยฐานะรุ่นล่าสุด CX-3 2.0 Sport Luxe แน่นอนว่าต้อง “ไม่ธรรมดา” จากการปรับดีไซน์ ด้วยการใส่ความสปอร์ต เข้าไปผสมผสานกับความหรูหรา ตามชื่อ Sport Luxe ประกอบด้วยรายละเอียดภายนอก

เช่น ไฟตัดหมอกคู่หน้า แบบ LED ตามด้วย ชุดกระจังหน้า และกระจกมองข้างโทนสีดำ ซึ่งลงตัวกับ ความสปอร์ตของ หลังคาโทนสีดำ Brilliant Black

และที่สำคัญ คือ รับกับภายในห้องโดยสารได้ดีทีเดียว กับการเลือกใช้โทนสี ซึ่งประกอบด้วย เบาะนั่ง หุ้มหนังโทนสีดำ ผสมผ้า Grand Luxe Suede® มาพร้อมลวดลายที่เร้าใจ ขณะที่คอนโซลหน้า เลือกเอาหนังสีฟ้า – เทามาหุ้ม เก็บรายละเอียดการตกแต่งโดยใช้ด้ายสีทองแดง (Copper) สีเดียวกับในส่วนของกรอบช่องแอร์ เพราะฉะนั้นเวลามองดูภาพรวม จึงต้องยอมรับว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างสวยงาม

Mazda CX-3 ยังคงมากับการพัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ HMI (Human-Machine Interface) เพื่อให้ผู้ขับขี่เป็นจุดศูนย์กลาง ฉะนั้นฟังก์ชันต่างๆ จึงถูกออกแบบมาให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน โดยรุ่นใหม่ 2.0 Sport Luxe ก็มากับ “ของใหม่” ที่เพิ่มเติมมาให้ เพื่อใช้เอื้ออำนวยความสะดวก เช่นกัน

อะไรบ้าง… ก็เช่น ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander, เบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold, ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift, หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า, เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Memory Seat 2 ตำแหน่ง, เบาะนั่งด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 มาพร้อมพนักวางแขน และที่วางแก้ว สำหรับตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

รวมไปถึงชุดอุปกรณ์ความบันเทิงที่จัดมาให้อย่างครบครัน ตั้งแต่ ชุดหน้าจอสี Infotainment Center Display ระบบ Touch Screen ขนาด 7 นิ้ว ที่มากับกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด ผ่านระบบ Mazda Connect ไปจนถึงการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น ซึ่งรองรับได้ทั้ง Apple CarPlay® และ Android Auto™ แล้วก็มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger มาให้ รวมถึงระบบเสียง Bose® รอบทิศทาง กับลำโพงที่มีถึง 7 ตำแหน่ง

 “สมรรถนะ” ยังคงเป็นสิ่งที่คุ้นเคย จากเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบ 16 วาล์ว มีกำลังสูงสุด 156 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 204 นิวตันเมตร ส่งกำลังสู่ล้อหน้าด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด Skyactiv Drive พร้อมระบบ Activematic พร้อมฟังก์ชัน Drive Selection ให้เลือกปรับเปลี่ยนโหมดขับขี่

เสริมทัพด้วยเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamic อื่นๆ เช่น โครงสร้างตัวถัง Skyactiv –Body ประกบช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลัง แบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ตลอดจนระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ก็ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

และทั้งหมดประกอบกันเพื่อสร้าง “นามธรรม” ให้เป็น “รูปธรรม” โดยในจุดนี้เราหมายถึง แนวคิด “จินบะ อิไต (Jinba Ittai)” ที่สามารถจับต้องได้ในชื่อของ Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe

หลายคนมองว่าภาพรวมของการขับ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร เช่นเดียวกับพี่ๆ น้องๆ ในรุ่น จะต่างกันยังไง คำตอบ คือ ใช่ครับ “ไม่ต่าง” ในเรื่องของหลักวิทยาศาสตร์

แต่สำหรับเรา ต้องบอกว่ามีผลในเรื่อง “คุณค่าทางใจ” เพราะยอมรับว่า Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ให้อะไรทางอารมณ์ได้มากกว่า โดยเฉพาะการเลือกใช้ “โทนสี” ภายในห้องโดยสาร และ “รายละเอียด” ต่างๆ ที่ล้วนบ่งบอกถึงความสปอร์ตชัดเจน กว่าที่เคยผ่านมือมานั่นเอง

156 แรงม้า และ 204 นิวตันเมตร อาจเป็นตัวเลขที่ไม่ได้ทำให้ใครต่อใคร “ร้องว้าว” เท่าไหร่ แต่ส่วนผสมที่กลมกล่อมของเทคโนโลยี Skyactiv จะทำให้หลายคนแอบยิ้ม เช่น ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ช่วยให้การตัดสินใจต่างๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้น

ตามด้วยการถ่ายทอดกำลังอย่างต่อเนื่อง การตอบสนองที่เฉียบคม ควบคุมได้กระชับ แถมด้วยสุ้มเสียงหวานๆ ที่เผยออกมาให้ได้ยินขณะลากรอบ ทั้งหมด คือ องค์ประกอบที่หนุนส่งให้คุณอยากมีช่วงเวลาดีๆ เยอะที่สุด เพื่อลิ้มรสชาติความสปอร์ตจากขุมพลังไร้ระบบอัดอากาศ

และอย่างที่เราเคยบอกไว้ ว่า Mazda CX-3 มีอะไรบางอย่างที่คล้าย Mazda 3 ฉะนั้นในบางเส้นทาง การใช้ทักษะเข้าโค้งสไตล์รถ Sedan มาช่วย คือ ตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะในเส้นทางสายรองโล่งๆ ที่เต็มไปด้วยโค้งประเภทต่างๆ มากมาย

จะช่วยเราได้สัมผัสคุณลักษณะของความเป็น “จินบะ อิไต (Jinba Ittai)” ได้ดี และมั่นใจ ด้วยเพราะส่วนหนึ่ง คือ ขีดความสามารถของ Mazda CX-3 ที่เราควบคุมให้อยู่ภายใต้คำสั่งได้ง่ายดาย

ขณะที่อีกส่วนหนึ่ง คือ ความเหนือชั้นของเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ซึ่งนอกเหนือจากระดับพื้นฐานแล้ว CX-3 2.0 Sport Luxe ยังมากับ ระบบความปลอดภัยขั้นสูง i-ActiveSense อีกด้วย เช่น

ระบบแปรผันความเร็วตามรถคันหน้า MRCC with Stop & Go, ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS, ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R แล้วก็ที่เราชอบที่สุด คือ ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC)

โดย ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) จะทำการประมวลผลต่างๆ ตั้งแต่ การบังคับควบคุมพวงมาลัย, ความเร็วของรถ ไปจนถึงน้ำหนักของเท้า ที่กดลงบนแป้นคันเร่ง จากนั้นความชาญฉลาดของระบบจะเข้ามาจัดการทำหน้าที่ควบคุมแรงบิด ไปพร้อมๆ กับถ่ายน้ำหนักตัวรถให้อยู่ในสภาวะสมดุล

ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง เพื่อให้การแก้พวงมาลัยในโค้งเกิดขึ้นน้อยที่สุด จนสามารถสร้างแรงยึดเกาะถนนได้ดี และมากพอ ที่จะพาตัวเองพุ่งออกจากออกโค้งไปอย่างมีเสถียรภาพ นั่นคือ ความสนุกอย่างหนึ่งของ Mazda CX-3 ที่เราค้นพบ

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น เราแนะนำว่าควรอยู่ภายใต้ขีดจำกัด เพราะท้ายที่สุดแล้ว “ระบบช่วยเหลือ” ก็ยังเป็นระบบที่ทำหน้าสนับสนุน และช่วยเหลือผู้ขับขี่ เป็นหลัก ใช่ว่าจะสามารถเข้าถึง และควบคุมได้ทุกอย่าง แบบที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ทุกวันนี้คาดหวังกัน

สรุปตามความเห็นของเรา Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ยังคงเป็น ยนตรกรรมอเนกประสงค์ขนาด Compact ที่น่าสนใจ ด้วยเพราะ หนึ่ง คือ “งานดีไซน์” ที่เรายอมรับว่า เดิมๆ โรงงาน ก็สวยขาดบาดใจ ตามด้วย ลอง คือ “สมรรถนะ” ที่เพียงพอต่อการใช้งาน เช่นเดียวกับ สาม คือ ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ เว้นว่าคุณเป็นคน “ซื้อรถ เพราะออปชั่น”

นั่นอาจจะต้องมองตัวเลือกอื่นไว้บ้าง แต่ถ้า “ออปชั่น” ในความหมายของคุณ คือ “ระบบความปลอดภัย” เราคิดว่า Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe ในฐานะของรุ่นย่อยสูงสุด ก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน ส่วนจะ “คุ้ม” หรือ “ไม่” กับค่าตัว 970,000 บาท แนะนำว่าไปลูบๆ คลำๆ ตัวจริง แล้วลองขับซัก 3-4 รอบ เราคิดว่าน่าจะได้คำตอบที่ต้องารนะครับ

Specification: Mazda CX-3 2.0 Sport Luxe

• Price: 970,000 BHT
• Engine: 1,998 CC / 4 Cylinder 16 Valve / 156 hp @ 6,000 rpm / 204 Nm @ 2,800 rpm 
• Transmission: Skyactiv Drive 6A/T Activematic / Front-Wheel Drive
• Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A, Top Speed @ N/A
• Weight: 1,303 Kg.