รีวิว ลองขับ Nissan Almera VL Sportech เสริมชุดแต่ง แต่ยังคงไว้ซึ่งความประหยัดและสมรรถนะการขับขี่

รีวิว ลองขับ Nissan Almera VL Sportech ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร เสริมกำลังด้วย Turbocharger กำลังสูงสุด 100 แรงม้า ราคา 669,000 บาท

รีวิว ลองขับ Nissan Almera VL Sportech ECO CAR ขุมพลังเทอร์โบ 100 แรงม้า

Nissan Almera VL Sportech

“Nissan Almera VL Sportech แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม แต่ด้วยฐานะความเป็น Sportech จากรูปลักษณ์ … ก็มากพอที่จะทำให้ “จิตปรุงแต่ง” อารมณ์สปอร์ต ได้มากมายทุกครั้ง เมื่อประจำการหลังพวงมาลัย”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราได้ลองขับ Eco Car ขุมพลังเทอร์โบอย่าง Nissan Almera หรอกครับ เพราะอายุอานามของตัวรถก็ปาเข้าไปไม่น้อย จนเราเชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก… แต่ด้วยเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ขณะที่เรากำลังใช้ชีวิตช่วงบ่ายๆ อยู่บ้าน อยู่บนท้องถนน จู่ๆ ก็มีรถอะไรบางอย่างหวดเลนขวามาไกลๆ จนกระทั่งมองเห็นว่าเป็น Nissan Almera

แต่ที่น่าแปลกใจกว่า คือ เมื่อเข้ามาใกล้มากพอ เราสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของรูปลักษณ์ จนถึงขนาดแอบชมว่าเจ้าของรถ รสนิยมดีงาม “แต่ง” ออกมาได้สวยสมตัว ไม่มาก ไม่น้อยเกินไป แต่ให้ความสะดุดตา จนเราเองต้องกลับมาเปิด Google หาข้อมูลชุดแต่ง

แต่แล้วก็พบความจริงอัน “เซอร์ไพรส์” ว่าแท้จริงแล้ว นี่คือ Nissan Almera VL Sportech แต่งเสร็จสรรพมาจาก Nissan Thailand … ซึ่งนั่นแหละครับ คือ ที่มาของการหยิบยืมเอา Nissan Almera VL Sportech มาลองขับในครั้งนี้

สำหรับ Nissan Almera VL Sportech ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นพื้นฐานของ Almera ใหม่ รุ่นย่อย VL แต่มีการนำมาอัพเกรดความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ด้วยชุดแต่ง Sportech ที่ประกอบด้วยชุดคิ้วบันได Sportech ทำจากสเตนเลส, ชุดพรมพื้น พร้อมผ้ายาง แล้วก็ตบท้ายด้วยสัญลักษณ์ Sportech

ที่บอกได้เลยว่า “ลงตัว” สุดๆ กับรูปลักษณ์ที่ปรับโฉมใหม่ในสไตล์ทูโทน เน้นความสปอร์ตด้วยหลังคา, กระจกมองข้าง และสปอยเลอร์หลัง ในโทนสีดำเงา ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของงานดีไซน์ ซึ่งสังเกตเห็นได้จาก กันชนหน้า และกันชนหลังใหม่ ไปจนถึงล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

ภายในห้องโดยสาร แม้ภาพรวมจะยังใช้พื้นฐานเดิม แต่ก็เพิ่มเติมรายละเอียดที่ช่วยปลุกอารมณ์ความสปอร์ตมากขึ้น เช่น การเลือกใช้วัสดุสีดำ Piano Black ตัดกับสีเทาเข้ม Dark Grey เข้ามาตกแต่งพร้อมด้วยเบาะนั่งใหม่ระดับพรีเมียมแบบ Quole Modure ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนจากแสงแดดได้ ซึ่งน่าจะช่วยสร้างความสบายให้ทุกที่นั่งได้ดี

ส่วนฟังก์ชั่นอำนวยความบันเทิงต่างๆ ก็เรียกว่ายังอยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตา ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับคนขับ, หน้าจอ Infotainment ขนาด 8 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto ไปจนถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ

ในส่วนของงานวิศวกรรม บอกตรงๆ ว่ายังคงเป็นอะไรที่ “คุ้นเคย” กับเครื่องยนต์เบนซินแบบ 3 สูบ DOHC พิกัด 1.0 ลิตร เสริมกำลังด้วย Turbocharger สร้างกำลังสูงสุด 100 แรงม้า พร้อมแรงบิด 152 นิวตันเมตร โดยมีเกียร์อัตโนมัติ X-Tronic CVT พร้อมเทคโนโลยี D-Step Logic รับผิดชอบการส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า

โดยความโดดเด่นด้านสมรรถนะ ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานได้ดี และสร้างความประทับใจให้สัมผัสทุกครั้งเมื่อมีโอกาสได้ลองขับ ซึ่งที่เราชอบมากๆ ก็คือ “การถ่ายทอดพละกำลัง” ซึ่งเป็นไปอย่างนุ่มนวล และต่อเนื่องชนิดที่บางครั้งตัวคุณเองอาจะมีคำถามในใจว่านี่ใช่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo จริงๆ หรือ …?

ใช่ครับ เพราะประสบการณ์ในการขับขี่ที่เรามีและพบเจอมาแทบจะทุกสภาพถนนกับ Nissan Almera นั้นสามารถมั่นใจได้เลยว่าจัดการได้หมดจด จนหายห่วง ไม่ว่าจะ “ขึ้นทางชัน” หรือ “เร่งแซง” ก็ตาม และที่สำคัญคือ มันเพียงพอแม้จะใช้โหมดปกติเกียร์ D ธรรมดาๆ ในการขับขี่ก็ตาม หรือหากอยากจะสนุกขึ้นอีกเล็กๆ น้อยๆ โหมด Sport จากปุ่มเล็กๆ ใต้หัวเกียร์ คือ อีกหนึ่งความลับที่ช่วยคุณได้

ระบบช่วงล่าง คือ อีกหนึ่งความประทับใจ โดยเฉพาะถ้าหากใครยังจำอารมณ์ของ Almera เจเนอเรชั่นแรกได้ ว่ามีความแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน แม้พื้นฐานจะยังคงมีด้านหน้าเป็นแบบ อิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง แต่การปรับเซ็ทค่าสปริงใหม่ ที่ตามข้อมูลบอกว่าอยู่ระดับเดียวกับรถพิกัด 1.5 ลิตร ทั้งยังรวมไปถึงเรื่องของระบบเบรก ที่ล้วนแล้วแต่เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Almera ใหม่ มีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

ยิ่งเมื่อทะยานด้วยความเร็วกลางๆ หรือความเร็วสูง คุณจะรู้สึกได้ถึงความ “มั่นใจ” จากการเก็บงานของช่วงล่างที่มีทั้งความนุ่มหนึบ ซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี เหนือไปกว่านั้นก็คือเสถียรภาพในทางโค้ง ที่รวมถึงส่วนของน้ำหนักพวงมาลัย ซึ่งมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำหนักตามความเร็วอย่างสมดุลกับความเร็วที่ใช้ และท้ายที่สุดก็ผสมกันเป็นอารมณ์ของยนตรกรรมขับสนุก ซึ่งสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่ความเร็วต่ำ ไปจนกระทั่งความเร็วสูง

และใช่ครับ … จากขีดความสามารถดังกล่าวอันคุ้นเคยของ Nissan Almera หลายคนคงพอเดาอารมณ์ของเราออก ซึ่งถ้าคุณคิดว่าเรา “เบื่อ” ล่ะก็ บอกเลยครับว่า “ผิดถนัด” หากแต่กลับกันด้วยซ้ำ เพราะความคุ้นเคยของ Nissan Almera นั้นเต็มไปด้วยรสชาติการขับขี่ที่ไม่จืดชืด และทำให้เรารู้สึก “สนุก” ทุกครั้ง

เมื่อได้ประจำการหลังพวงมาลัย และนั่นไม่ทำให้เรา “เบื่อ” เลยซักนิด แถมยังพยายามสรรหาสถานที่ใหม่ๆ ถนนเส้นใหม่ๆ เพื่อจะได้พาเจ้า Nissan Almera ไปซิ่งได้เต็มอรรถรสทุกครั้ง

ครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่ดูเหมือนการที่มีนามสกุลต่อท้ายว่า Sportech นั้นคล้ายจะเป็นอะไรที่ “กระตุ้น” ให้เรา “อยาก” ออกไปขับมากขึ้น เพราะด้วยฐานะความเป็น Sportech ที่ทำให้ “จิตปรุงแต่ง” ของเรา คิดไปไกลถึงความเร้าใจอันมากขึ้น (แม้สมรรถนะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม) แต่แค่นั้นก็มากพอจะสร้างความขยันให้คุณออกจากบ้านทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เพื่อโชว์อัตลักษณ์ แห่งไลฟ์สไตล์ที่ไม่เหมือนใคร ผ่านรุ่นพิเศษอย่าง Nissan Almera VL Sportech

นอกจากความสามารถด้านสมรรถนะของ Nissan Almera VL Sportech อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างความขยันในการออกนอกบ้านทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ก็คือ “ขีดความมั่นใจ” ที่กำเนิดขึ้นมาจากเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง Nissan Intelligent Mobility และเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง Nissan Intelligent Safety Shield® ที่อัดแน่นด้วยตัวช่วยมากมาย เช่น

สัญญาณเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้าขณะขับขี่อัจฉริยะ(Intelligent Forward Collision Warning – IFCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ(Intelligent Emergency Braking – IEB), ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning – BSW), ระบบตรวจจับวัตถุด้านหลังรถขณะถอย (Rear Cross Traffic Alert – RCTA),

ระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ทำงานร่วมกับระบบตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ หรือบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD), ระบบควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamic Control – VDC),

ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) ไปจนถึงอุปกรณ์มาตรฐานทั้งในเชิงการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และระบบลดความรุนแรง หรือความเสียหายจากอุบัติเหตุ (Passive Safety) อีกเต็มพิกัด

นั่นแหละครับ คือ ปัจจัยที่กระตุ้นให้เรา หรืออาจจะรวมถึงใครอีกหลายๆ คน หลงรักการขับเจ้า Nissan Almera VL ที่มากับออปชั่นมาตรฐานครบเครื่อง คุ้มค่า และถ้าคุณอยากได้ความสปอร์ตมากกว่า ดูเหมือนเวอร์ชั่น Sportech น่าจะเป็นคำตอบลงตัวสุดๆ ในความหล่อเหลา เร้าใจ ที่อัพเกรดขึ้นไปอีกระดับ เพียงแค่ควักเงินเพิ่มจากรุ่น VL มาตรฐานอีกเล็กน้อยราวๆ 20,000 บาทเท่านั้น

Specification: Nissan Almera VL Sportech           

• Price: 669,000 BHT
• Engine: 999 CC / 3 Cylinder / 12 Valve / Turbocharger 100 hp @ 5,000 rpm / 152 Nm @ 2,400 – 4,400 rpm 
• Transmission: CVT / Front Wheel Drive
• Performance: 0 – 100 Km/h @ N/A / Top Speed @ N/A
• Weight: 1,079 Kg.