Breaking News

รีวิว ลองขับ Porsche Taycan Turbo Cross Turismo รถไฟฟ้าแฮทช์แบคที่ดุดันที่สุด ตอบโจทย์ในทุกการเดินทาง พร้อมด้วยสมรรถนะเกินพิกัด

รีวิว ลองขับ Porsche Taycan Turbo Cross Turismo พละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวม 625 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.3 วินาที 

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

รีวิว ลองขับ Porsche Taycan Turbo Cross Turismo ซูเปอร์คาร์ ตัวแรง

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 

เป็นอีกครั้งที่ได้ขับทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผมชื่นชอบที่สุด Porsche Taycan แต่ครั้งนี้มาในรูปโฉมสไตล์ Cross Country ภายใต้ชื่อต่อท้าย ‘Cross Turismo’ ตัวถังแบบ Fastback ห้าประตู, คิ้วล้อสีดำ และระยะห่างใต้ท้องที่สูงขึ้น 20 มม. เมื่อเทียบกับ Taycan Saloon ร่วมด้วยสีแดง ‘Carmine Red’ ที่มีเฉดสวยงามมีระดับกว่าสีแดงของรถทั่วไป ส่งให้ Cross Turismo ดูบึกบึน, เซ็กซี่ และสง่างาม ในเวลาเดียวกัน

และเช่นเดียวกับ Taycan สี่ประตู เวอร์ชั่นทางฝุ่นก็ให้สัมผัสในการขับขี่ไม่แตกต่างกัน แม้สูงกว่า 20 มม. และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 15 กก. แต่ Cross Turismo ยังคงทรงตัวได้ยอดเยี่ยม เกาะหนึบจนคุณไม่รู้สึกถึงความสูงและน้ำหนักของมัน ต้องยกความดีความชอบให้กับทีมวิศวกรที่เซ็ตแฮนด์ลิ่งออกมาได้อย่างไร้ที่ติราวกับร่ายเวทมนตร์ ในทุกๆ โค้ง

Taycan Turbo จัดการกับน้ำหนักตัวกว่า 2.3 ตัน ด้วยช่วงล่างถุงลมแบบ 3 สเตจ, แดมเปอร์และเหล็กกันโคลงแบบแอคทีฟ ร่วมด้วยระบบเลี้ยวล้อหลังกับพวงมาลัยที่เฉียบขาด เหล่านี้คือกุญแจสำคัญในภารกิจกระหน่ำโค้ง ด้วยการต้านแรงเหวี่ยงเพื่อลดการเอียงตัว และการบริหารจัดการแรงยึดเกาะของยางทั้งสี่… ผลลัพธ์? รอยยิ้มอันปลื้มปริ่มบนใบหน้าของคุณไงล่ะ

นอกจากให้ความมั่นใจแก่คุณได้เกินร้อยในทุกการหักเลี้ยว Taycan Turbo Cross Turismo ยังเร้าใจขณะขับขี่ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที (เมื่อใช้โหมด Launch Control, ช้ากว่ารุ่นสี่ประตูเพียง 0.1 วินาที) และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม.

ทั้งหมดนี้เกิดจากพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด สำหรับแยกขับเคลื่อนล้อคู่หน้าและหลัง ให้กำลังรวม 625 แรงม้า และมีแรงบิด 850 นิวตันเมตร ที่ขึ้นเต็มเพดานตั้งแต่เริ่มออกตัว

เรามาเริ่มกันเลย! เข้าสู่โหมด Sport Plus แล้วเหยียบทั้งเบรกและคันเร่งให้มิด รอจนกระทั่งหน้าจอแสดงข้อความ “Launch Control Activated” ถึงตรงนี้ มอเตอร์ไฟฟ้าจะปล่อยพลังเพิ่มขึ้นอีก 55 แรงม้า (รวมเป็น 680 แรงม้า) และ Taycan Turbo ก็พร้อมสำหรับการเทคออฟ!!!

ทันทีที่ปล่อยเบรก Porsche พลังไฟฟ้าดีดตัวออกไปพร้อมกับเสียง “วื้ดดดดดดดด…ดดดด…ดดด…” หน้ารถเชิดขึ้นจากแรงฉุดระดับพระกาฬของแรงบิดทั้ง 850 นิวตันเมตร Cross Turismo พุ่งตรงดิ่งไปข้างหน้าราวกับลูกศร นิ่งและทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย ทิวทัศน์ที่คุณมองเห็นผ่านกระจกหน้าเร่งความเร็วขึ้นรวดเร็วเหมือนกำลังดูภาพแบบ Fast Forward เช่นเดียวกับตัวเลขบอกความเร็วบนหน้าจอดิจิตอลทรงโค้งที่สลับสู่เลข 3 หลักในพริบตา

การขับขี่ที่ความเร็วสูงไม่ใช่ปัญหาของความสูงที่เพิ่มขึ้นใน Cross Turismo เป็นอีกครั้งที่ต้องขอบคุณช่วงล่างอันยอดเยี่ยมและความสุดยอดของระบบบังคับเลี้ยว คุณจะรู้สึกเหมือนล้อทั้งสี่ปักลึกลงไปในถนนคอนกรีต พวกมันกดติดกับพื้นจนคุณสิ้นสงสัยในประสิทธิภาพการยึดเกาะ ขึงตึงในโหมด Sport ขึ้นไป ทว่าให้ความนุ่มนวลระดับ First-class

เมื่อใช้โหมด Normal สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี และรักษาระดับการโคลงตัวไว้ตลอดเวลา การเดินทางไกลด้วย Taycan Cross Turismo จึงไม่ต่างอะไรกับการนั่งบนพรมวิเศษ!

และอย่าลืมความสามารถพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาจากรุ่นสี่ประตู… โหมด “GRAVEL”… ช่วงล่างจะถูกปรับสูงขึ้นอีก 10 มม. จากตำแหน่ง Medium ร่วมด้วยการปรับระบบควบคุมแทร็คชั่น, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว และระบบควบคุมแรงบิด ตลอดจนการตอบสนองคันเร่งและเกียร์

โดยโหมดนี้ระบบจะให้ความสำคัญกับการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อ ผ่านเฟืองท้ายควบคุมด้วยอิเลกทรอนิกส์ที่สามารถส่งแรงบิดไปยังล้อหลังทั้งซ้ายและขวาได้ใกล้เคียงกันมากขึ้น ร่วมด้วยการควบคุมมอเตอร์ทั้งหน้าและหลังให้แจกจ่ายแรงบิดได้เท่ากัน 50:50 (เมื่อจำเป็น) คล้ายการล็อคเฟืองท้ายชุดกลางของรถเครื่องยนต์สันดาปฯ

นั่นหมายถึง คุณสามารถขับขี่ Cross Turismo บนเส้นทางวิบากได้ แต่ไม่ถึงขั้นบุกป่าฝ่าดงเหมือนพวก SUV ทว่าพอฝากผีฝากไข้ได้บนทางลูกรังหรือเส้นทางในป่าที่ไม่โหดร้ายนัก โดยในโหมดนี้ช่วงล่างจะลดความสูงกลับมาสู่ระดับ Medium อัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. ซึ่งคงไม่มีโอกาสได้ใช้ความเร็วขนาดนั้นบนทางลูกรังอยู่แล้ว

โดยรวมแล้ว Porsche Taycan Turbo Cross Turismo คือรถที่น่าสนใจมากทีเดียว ส่วนตัวแล้วผมชอบมันมากกว่ารุ่นสี่ประตูเสียด้วยซ้ำ แม้จะเสียเปรียบเล็กน้อยด้านตัวเลขความเร็วต่างๆ แต่ผมชอบ Taycan ในแบบห้าประตูมากกว่า ด้วยรูปโฉมที่ดูทะมัดทแมง, ส่วนท้ายกำยำ และสัดส่วนโดยรวมที่ลงตัว เมื่อเทียบกับทรงกึ่งคูเป้ของตัวถังสี่ประตู

ในขณะที่อรรถรสการขับขี่แทบไม่รู้สึกแตกต่างกันนัก บวกด้วยความอรรถประโยชน์จากช่วงล่างยกสูงกว่า พื้นที่เหนือศีรษะของเบาะหลัง และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ รวมไปถึงราคาที่ถูกกว่า 2.5 แสนบาท เมื่อเทียบกับ Taycan Turbo สี่ประตู

เมื่อไหร่ที่ผมได้มีโอกาสขับทดสอบ Taycan Cross Turismo รุ่นปี 2025 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อนได้ขับคันสีแดงนี้ (รุ่นปี 2022-2024) ผมคงต้องใช้ประโยคเดิม… “เป็นอีกครั้งที่ได้ขับทดสอบรถยนต์ไฟฟ้าที่ผมชื่นชอบที่สุด”… แต่เปลี่ยนประโยตต่อท้ายเป็น Taycan Cross Turismo

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
เมื่อมองจากด้านหน้าอาจเหมือนกับรุ่นสี่ประตู แต่มุมมองด้านหลังนั้นแตกต่างโดยสิ้นเชิง ด้วยหลังคาที่ปรับมุมให้ชันขึ้นเพื่อรับกับ “ประตูบานที่ห้า” ให้ภาพลักษณ์แบบรถฟาสต์แบ็คสไตล์ Ferrari GTC4 Lusso การตกแต่งส่วนล่างของรถด้วยสีดำด้านรอบคันเน้นย้ำความเป็นรถ Cross Country และยังช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้ดีอีกด้วย คันทดสอบของเรามาพร้อมกับตัวถังสี Carmine Red ที่สวยเกินบรรยาย ขับให้ Cross Turismo โดดเด่นสะดุดตากว่ารถคันอื่นบนท้องถนน

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ตัวถังของ Cross Turismo เป็นการผสมผสานวัสดุอลูมิเนียมและเหล็กเข้าด้วยกัน จุดยึดสตรัท, เพลาขับ และคานรับแรงด้านข้างของส่วนท้ายรถ หล่อขึ้นรูปจากอลูมิเนียม ขณะที่จุดยึดแดมเปอร์ผลิตด้วยกรรมวิธีฟอร์จ ที่น่าสนใจก็คือบริเวณธรณีประตูซึ่งยาว 1,941 มม. ออกแบบให้เป็นห้องเล็กๆ 7 ช่อง และผลิตด้วยการอัดขึ้นรูป เมื่อเทียบกับธรณีประตูปกติแล้ว ด้วยวิธีนี้ช่วยลดส่วนประกอบต่างๆ จาก 15 เหลือเพียง 3 ชิ้น/ข้าง เท่านั้น ทั้งยังมีการเสริมความแกร่งเข้าไปที่ฝาท้าย ด้วยการอลูมิเนียมโปรไฟล์ทำหน้าที่รับแรงบิดตามแนวยาวที่มากระทำกับบริเวณนี้ ในขณะที่วัสดุเหล็กความแกร่งสูงถูกนำมาใช้ในโครงสร้างด้านความปลอดภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ อาทิ ที่เสา A, B, แนวหลังคา และคานขวางบริเวณเบาะนั่ง ส่วนตัวถังภายนอกผลิตจากอลูมิเนียมเช่นกัน อย่างไรก็ตาม Taycan Turbo Cross Turismo ก็ยังมีน้ำหนักถึงกว่า 2.3 ตันทีเดียว

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ถึงเป็นรถทรง Cross Country แต่ Porsche ก็ไม่ละเลยเรื่องแอโรไดนามิกของรถ ไล่ตั้งแต่กันชนหน้าที่ใช้ช่องรับอากาศแบบแอคทีฟสำหรับระบายความร้อนให้กับอุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงสร้างแรงกดด้านหน้า, มือเปิดประตูเก็บแนบไปกับตัวถัง ไปจนถึงสปอยเลอร์หลังคาและดิฟฟิวเซอร์กันชนหลังที่รับกระแสอากาศมาจากใต้ท้องรถที่ปิดเรียบเพื่อระบายทิ้งออกไปอย่างเป็นระเบียบ ผลลัพธ์ที่ได้คือค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.26
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ชุดไฟหน้า LED matrix พร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ ติดตั้งเป็นมาตรฐานสำหรับเกรด ‘Turbo’ ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 84 ดวง ที่แยกการทำงานแต่ละดวงเป็นอิสระเพื่อปิดหรือหรี่ดวงที่ไปรบกวนสายตาของรถคันหน้า คันทดสอบของเราติดตั้งออปชั่น ‘Porsche Exclusive Manufaktur’ ซึ่งมาพร้อมกับกรอบล้อมรอบดวงไฟลวดลาย “แผงวงจรไฟฟ้า” และไฟ DRL สีอมฟ้า ‘Glacier Ice Blue’ อีกจุดที่น่าสนใจคือ แก้มหน้าซึ่งทำจากอลูมิเนียมชิ้นเดียวนั้น ต้องขึ้นรูปด้วยความลึกในการดึงถึง 325 มม. นับเป็นกรรมวิธีการผลิตที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ชุดไฟท้ายที่คาดยาวตลอดแนวนอน เป็นเอกลักษณ์สำคัญของ Porsche (และกลายเป็นแฟชั่นแพร่หลายในรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ขณะนี้) ช่วงกลางเป็นอักษร “PORSCHE” ทำจากแก้วขึ้นรูป 3 มิติ พื้นหลังของชุดไฟนี้เป็นลวดลาย “แผงวงจรไฟฟ้า” (อุปกรณ์มาตรฐาน) เช่นเดียวกับไฟหน้า
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
กำลังรวมสูงสุด 680 แรงม้า, 850 นิวตันเมตร ของ Taycan Turbo Cross Turismo ได้มาจากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สำหรับแยกขับเคลื่อนล้อคู่หน้าและหลัง มอเตอร์ชุดหน้ามีดีไซน์แบบแกนร่วมจึงทำให้โมดูลมีขนาดกะทัดรัด กินพื้นที่น้อย ในขณะที่โมดูลของมอเตอร์ชุดหลัง ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าและให้พลังมากกว่า Taycan 4 และ 4S (ใช้สำหรับรุ่น Turbo และ Turbo S) ติดตั้งแบบขนานกับเพลา และแยกชุด Pulse-controlled inverter (ควบคุมการแปลงและจ่ายกระแสไฟ DC/AC ระหว่างแบตเตอรี่กับมอเตอร์) ออกจากโมดูลมอเตอร์มาติดตั้งไว้บนฐานอีกชุด เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับห้องเก็บของท้ายรถ… Pulse-controlled inverter ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ของแบตเตอรี่ เป็นกระแสสลับ (AC) ส่งให้กับมอเตอร์ และในทางกลับกัน เมื่อผู้ขับขี่ยกคันเร่งหรือเหยียบเบรก Pulse-controlled inverter จะแปลงไฟ AC ของมอเตอร์ เป็นไฟ DC เพื่อส่งคืน (ชาร์จไฟกลับ) ไปยังแบตเตอรี่ โดยมอเตอร์หน้าของรุ่น Turbo และ Turbo S สามารถให้กระแสสูงสุดได้ถึง 600 A หรือมากกว่ารุ่น 4 และ 4S ถึง 1 เท่าตัว (300 A) ในขณะที่มอเตอร์ชุดหลังทำได้ 600 A เท่ากันทุกรุ่น

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
เฟืองเกียร์ของมอเตอร์ชุดหลังมี 2 จังหวะด้วยกัน จุดประสงค์เพื่อเพิ่มอัตราเร่งในโหมด Sport และ Sport Plus โดยเมื่อออกตัว ระบบจะเข้า “เกียร์ที่ 1” ซึ่งมีอัตราส่วนที่ 15:1 (วัดจากมอเตอร์หมุน 15 รอบ ต่อล้อรถหมุน 1 รอบ) นั่นหมายถึง มอเตอร์จะสร้างพละกำลังได้สูง (จากการหมุนที่ความเร็วรอบมาก) ส่งให้รถมีอัตราเร่งดียิ่งขึ้น และระบบจะค้างอยู่ที่ตำแหน่งนี้เป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนเปลี่ยนกลับไปเป็น “เกียร์ที่ 2” อัตราส่วน 8:1 ซึ่งเท่ากับมอเตอร์ล้อหน้า (ล้อหน้ามีเกียร์เดียว) ต่อไป เพื่อเพิ่มความเร็วปลาย ในขณะที่โหมดการขับขี่อื่นๆ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้อย่างง่ายดายผ่านปุ่มหมุนที่พวงมาลัย จะใช้เพียงเกียร์ที่ 2 อย่างเดียวเท่านั้น ในการขับเคลื่อน
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
มองไปที่คาลิเปอร์สีขาว คุณจะเห็นว่ามันสะอาดสะอ้านปราศจากฝุ่นจากผ้าเบรก ทั้งๆ ที่เราขับมาแล้วกว่า 100 กม. ก่อนถ่ายภาพนี้ ที่เป็นเช่นนี้เกิดจาก 2 ประการ… ประการแรกคือ เพราะเราแทบไม่ได้ใช้เบรกเลย!?! ทุกครั้งที่คุณเหยียบเบรกด้วยแรงเบรกปกติ สิ่งที่ลดความเร็วหรือหยุดรถไม่ใช่จากชุดเบรกนี้ ทว่าเป็นแรงจากการรีเจนฯ ของมอเตอร์ไฟฟ้า วิธีการของ Porsche คือการปล่อยให้รถไหลต่อไปหากคุณแค่ถอนคันเร่ง เพื่อให้ได้ระยะทางเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ดังนั้น การรีเจนฯ จึงไม่หนักหน่วงหรืออาจไม่ทำเลย ขึ้นอยู่กับโหมดการขับขี่ที่เลือกอยู่ และจะรีเจนฯ เมื่อเหยียบเบรกเป็นหลัก ส่วนระบบเบรก (ของจริง) จะทำงานก็ต่อเมื่อคุณเหยียบหนักๆ เท่านั้น! Porsche เคลมว่า ในการขับขี่ทั่วไป กว่า 90% ของการเบรก เป็นฝีมือของระบบรีเจนฯ ล้วนๆ ประการต่อมาก็คือ แม้มีการใช้ระบบเบรก แต่ฝุ่นผ้าเบรกก็แทบไม่มี เนื่องจากจานเบรกเคลือบด้วยทังสเตนคาร์ไบด์ ลงไปที่ผิวโลหะของจานเบรก นอกจากนั้น ยังช่วยเพิ่มแรงเบรกและลดความสึกหรอของผ้าเบรกลงได้อีกด้วย เมื่อรวมทั้งการเบรกด้วยการรีเจนฯ และสารเคลือบจานเบรกแล้ว Porsche เคลมว่า ผ้าเบรกของ Taycan สามารถใช้ได้นานถึง 6 ปีทีเดียว
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ด้วยศักยภาพในการรีเจนฯ ที่ทำได้สูงสุดถึง 290 กิโลวัตต์ ส่งให้แบตเตอรี่ขนาด 93.4kWh สามารถทำระยะทางได้ที่ 395-452 กม. ชุดแบตเตอรี่เป็นแบบซ้อน 2 ชั้น ใช้เซลล์รูปทรง Pouch ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของแบตเตอรี่ในปัจจุบัน (และมีราคาแพงที่สุด) ข้อดีคือสามารถส่งผ่านและกักเก็บพลังงานได้มากกว่าเซลล์รูปแบบอื่น ในปริมาตรที่เท่ากัน ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดกะทัดรัดและเบายิ่งขึ้น ตัวเรือนที่ห่อหุ้มแบตเตอรี่เป็นแบบกันน้ำ ใช้โครงสร้างแบบประกบและติดตั้งเป็นส่วนหนึ่งของแชสซีส์ จึงมีความปลอดภัยสูงมาก Taycan เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบโปรดักชั่นรุ่นแรกของโลกที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 800 โวลท์ หรือสูงเป็น 2 เท่า ของแบตเตอรี่ EV อื่นๆ นั่นหมายถึง จำเป็นต้องใช้ระบบควบคุมอุณหภูมิที่มีประสิทธิภาพสูงตามไปด้วย โดย Taycan ใช้การหล่อเย็นด้วยของเหลวให้กับแบตเตอรี่ ระบบจะคอยจับตาอยู่ตลอดเวลาทั้งขณะใช้งานและชาร์จ เพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่แบตเตอรี่จะทำงานได้ศักยภาพสูงสุดเสมอ ใช้เวลาประมาณ 93 นาที ในการชาร์จ DC 50kW จาก 5-80% และรองรับเครื่องชาร์จ AC สูงสุดที่ 11kW เป็นมาตรฐาน
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ช่วงล่างหน้าแบบปีกนกคู่ ใช้ปีกนกอลูมิเนียมผลิตด้วยวิธีฟอร์จทั้งตัวบนและล่าง ส่วนล้อหลังใช้ปีกนกตัวบนแบบฟอร์จและตัวล่างหล่อขึ้นรูปแบบกลวง ร่วมด้วยชุดถุงลมแบบ 3 สเตจ กล่าวคือมีห้องเก็บลม 3 ห้อง ช่วยให้สามารถปรับค่าความแข็ง (ของความเป็นสปริง) ได้ในช่วงกว้างยิ่งขึ้น เมื่อวัดจากตำแหน่ง Normal ช่วงล่างสามารถปรับลงได้ต่ำสุด 22 มม. อัตโนมัติในโหมด Sport Plus และ Range เพื่อลดแรงต้านอากาศ และปรับเพิ่มขึ้น 10 มม. เมื่อใช้โหมด Gravel นอกจากนั้น ที่ล้อหน้ายังสามารถยกได้สูงสุด 20 มม. เพื่อลดโอกาสเกิดความเสียหายกับส่วนล่างของกันชนหน้าเมื่อขึ้นหรือลงทางชัน นอกจากนั้น ยังมีระบบเลี้ยวล้อหลัง (หักเลี้ยวได้สูงสุด 2.8 องศา) เพื่อลดวงเลี้ยวให้แคบลงที่ความเร็วต่ำ และเพิ่มความเฉียบคมขณะเข้าโค้ง ใช้ล้อขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/35 และ 305/30 ที่ล้อหน้าและหลังตามลำดับ

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
เช่นเดียวกับ Porsche รุ่นอื่นๆ ระบบบังคับเลี้ยวของ Cross Turismo ให้ฟีดแบ็คที่ยอดเยี่ยม ทั้งตอบสนองเฉียบคม, ให้น้ำหนักได้ดี และสื่อสารความเป็นไปของล้อหน้ามาสู่มือของคุณได้ราวกับตาเห็น รวมไปถึงตำแหน่งองศาของพวงมาลัยแบบเกือบตั้งฉาก ทำให้จับได้ถนัดยิ่งขึ้น จึงควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ตัวพวงมาลัยเองมีขนาดเหมาะมือ และออกแบบให้ดูโปร่งกลวงที่ก้านแนวนอนทั้งสองฝั่ง

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ห้องโดยสารไม่แตกต่างจาก Taycan รุ่นสี่ประตู บรรยากาศโดยรวมที่ดูเรียบง่าย ช่วยขับให้บรรดาจอแสดงผลโดดเด่นเป็นจุดสนใจยิ่งขึ้น พื้นที่โดยรวมกว้างขวางโอ่อ่าสำหรับผู้โดยสารทุกที่นั่ง คันทดสอบของเราติดตั้งออปชั่น ‘Adaptive Sports Seats’ เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับได้ 18 ทิศทาง (เบาะมาตรฐาน 14 ทิศทาง) จัดวางในตำแหน่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการขับขี่ ในขณะที่เบาะหลังแบบแยก 2 ที่นั่ง ก็มีขนาดใหญ่และมีพื้นที่รอบๆ เหลือเฟือ ที่สำคัญคือ ด้วยรูปทรงแบบห้าประตู หลังคาส่วนหลังของรถจึงมีความลาดเทน้อยกว่ารุ่นสี่ประตู ส่งให้มีพื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้นอีกถึง 47 มม. เมื่อเทียบกับรุ่นสี่ประตู เช่นเดียวกับห้องเก็บสัมภาระท้ายรถที่มีความจุถึง 446 ลิตร (เทียบกับ 407 ลิตร) พนักพิงเบาะหลังสามารถพับได้ทั้งหมดเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของให้มากขึ้นเป็น 1,212 ลิตร

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
จอแสดงผลสำหรับผู้ขับขี่ งดงามและอลังการด้วยดีไซน์ทรงรีโค้งโอบล้อมเข้าหาผู้ขับ ดูล้ำสมัยด้วยการติดตั้งแบบลอยตัวและไร้กรอบ สามารถเรียกดูข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งยังเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลได้ 4 แบบ ที่ขอบฝั่งซ้ายและขวาของจอเป็นระบบสัมผัส ซึ่งให้ความรู้สึกหวือหวาแปลกใหม่ และสามารถกดใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน นับเป็นการออกแบบที่ชาญฉลาดทีเดียว
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
คันทดสอบของเราติดตั้งแพคเกจ Sport Chrono ซึ่งประกอบไปด้วยพวงมาลัยแบบสปอร์ตพร้อมปุ่มหมุนสำหรับเลือกโหมดการขับขี่, Active Aerodynamics, โหมด Individual และเสียง (สังเคราะห์) แบบสปอร์ต ‘Porsche Electric Sport Sound’ นาฬิกาแบบอะนาล็อก หน้าปัดทำขึ้นจากโลหะคุณภาพสูง ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า เข็มนาฬิกาเคลือบด้วยสารเรืองแสง Superluminova ช่วยให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงน้อย

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
จอส่วนกลางแบ่งออกเป็น 2 ชุด โดยชุดบนสำหรับระบบอินโฟเทนเมนต์และการตั้งค่าอย่างละเอียดของรถ ส่วนจอด้านล่างใช้เป็นปุ่มทางลัดสำหรับเข้าเมนูจำเป็น, ควบคุมระบบปรับอากาศ, ทัชแพดสำหรับใช้มือเขียนข้อความลงไปได้โดยตรง และเรียกดูค่าแบตเตอรี่รวมไปถึงการสั่งเปิดฝาหน้าและฝาท้าย
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
ออปชั่นระบบปรับอากาศแบบแยก 4 โซน จะได้จอขนาด 5.9 นิ้ว ควบคุมระบบปรับอากาศสำหรับเบาะหลังติดตั้งมาให้ด้วย ซอฟต์แวร์ของระบบควบคุมอุณหภูมิที่ติดตั้งมาให้ ถูกโปรแกรมเฉพาะเจาะจงสำหรับรถที่ติดตั้งหรือไม่ติดตั้งหลังคากระจก ช่องแอร์ทั้งหมดต้องควบคุมทิศทางผ่านหน้าจอเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างยากหากต้องการปรับแบบ Individual
Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024
หลังคากระจกพาดยาวเต็มพื้นที่หลังคา ช่วยเพิ่มความโล่งสบายให้กับผู้โดยสารได้อีกขั้น ทั้งยังสามารถเลือกการเปิดรับแสงได้หลายรูปแบบ ทั้งปิดทั้งหมดหรือเปิดบางส่วน จึงสามารถกำหนดความสว่างในห้องโดยสารได้หลากหลาย

Porsche Taycan Turbo Cross Turismo 2024

SPECIFICATIONS: PORSCHE TAYCAN TURBO CROSS TURISMO

  • Price: ฿10,950,000
  • Drivetrain: Front and rear electric motors, 625hp (680hp on overboost), 850Nm
  • Transmission: 2-speed automatic, all-wheel drive
  • Performance: 3.3sec 0-100km/h, 250km/h top speed, 83.7kWh net battery capacity (93.4kWh gross)
  • Weight: 2320kg.

Check Also

ISUZU MU-X 4x2 3.0 RS 2024

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS ลุคใหม่ที่สปอร์ตยิ่งกว่าเดิม เสริมความปลอดภัย ที่ยังคงเด่นในสมรรถนะและความประหยัดเฉกเช่นเดิม

รีวิว ลองขับ ISUZU MU-X 4×2 3.0 RS A/T เครื่องยนต์ 3.0 Ddi Blue Power 190 แรงม้า …